วันนี้ (8 ธันวาคม) ปิยรัชต์ สมาทา ประธานสหภาพแรงงานโตโยต้า พร้อมด้วยสมาชิกผู้ใช้แรงงาน เดินทางมาให้กำลังใจพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ได้ประกาศวิสัยทัศน์ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ 600 บาท และเงินเดือนผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจบใหม่ที่ 25,000 บาท ภายในปี 2570 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา
ปิยรัชต์กล่าวว่า ผู้ใช้แรงงานถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศหมุนเวียนได้
โดยตนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพี่น้องแรงงานไทยในหลากหลายองค์กร พบว่าแรงงานไทยต้องการให้ปรับค่าแรงให้มีความสมดุลกับค่าครองชีพ เพื่อให้เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตได้โดยปกติ สามารถดูแลครอบครัวได้ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทไม่ได้เกินเลยกำลังของนายจ้างหรือผู้ประกอบการ และพรรคการเมืองที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาล พี่น้องชาวแรงงานมีความเข้าใจเป็นอย่างดีว่า ธุรกิจต้องมีกำไรจึงจะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ ภาครัฐเองซึ่งเป็นส่วนกลางในการนำเสนอนโยบายที่ดีก็จะมีมาตรการรองรับด้วย จึงขอให้กำลังใจคณะทำงานด้านนโยบายของพรรคเพื่อไทยและพรรคเพื่อไทยในการผลักดันนโยบายนี้ เมื่อสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนการที่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ภาคส่วนต่างๆ ที่มีความห่วงใยว่าการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอาจทำให้โรงงานต้องย้ายฐานการผลิต และไม่จูงใจนักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามานั้น ปิยรัชต์กล่าวว่า หากมองในทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ในขณะนั้นทุกภาคธุรกิจสามารถปรับตัวได้ ส่วนหนึ่งเพราะนโยบายภาครัฐมีความสอดรับสนับสนุนกัน ทำให้ภาคธุรกิจเดินต่อไปได้ จนสามารถปรับเปลี่ยนธุรกิจให้สามารถแข่งขันกับตลาดในประเทศและตลาดเพื่อการส่งออก เพราะต้นทุนค่าแรงคิดเป็นต้นทุนทางธุรกิจอยู่ที่ 10% เท่านั้น หากคุณภาพชีวิตของลูกจ้างปรับตัวดีขึ้นเพราะค่าแรงที่เพิ่มขึ้น เป็นการมองในเชิงเดี่ยว แต่หากมองในเชิงมหภาค การปรับขึ้นค่าแรงจะช่วยหมุนเวียนเศรษฐกิจได้หลายรอบ เศรษฐกิจไทยจะสามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง
“นับตั้งแต่พรรคเพื่อไทยประกาศวิสัยทัศน์ดังกล่าว ถือเป็นการย้อนอดีตในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สามารถปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทได้สำเร็จ ซึ่งในขณะนั้นหลายฝ่ายมองว่าไม่สามารถทำได้ ซึ่งในครั้งนี้พวกเราชาวแรงงานมีความคิดเห็นว่าจะสามารถทำได้เช่นกัน เพราะจะดำเนินการแบบขั้นบันได ไม่เกินกำลังที่ทำไม่ได้ ด้วยองคาพยพในภาพรวม ทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจที่วางไว้อย่างชัดเจนว่าจะขยายตัวภายใน 4-5 ปีข้างหน้าจะมีทิศทางเชิงบวกมากขึ้น ผมในฐานะของผู้ใช้แรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมระดับใหญ่ ค่าจ้างแรงงานระดับแรงงานทั่วไปในปัจจุบันอยู่ที่ 500-600 บาทต่อวันอยู่แล้ว ซึ่งผมมีความเข้าใจอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่มีความกังวล แต่ก็เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยได้เตรียมนโยบายสำหรับภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กเพื่อให้เดินต่อไปได้แน่นอน” ปิยรัชต์กล่าว
ด้าน สุธรรม แสงประทุม ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบายของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของพรรคเพื่อไทยตรงใจผู้ใช้แรงงานและพี่น้องประชาชน หากรัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทย ในปี 2570 พรรคเพื่อไทยจะคิด ขับเคลื่อน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน จากในอดีตของพรรคไทยรักไทยจนมาถึงพรรคเพื่อไทยทำสำเร็จมาโดยตลอด การที่มีนักกฎหมาย นักวิเคราะห์ และหลายภาคส่วนวิพากษ์วิจารณ์นั้นถือว่าน่ายินดี ที่ภาคประชาสังคมจะได้มีการถกเถียง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย ขณะนี้บ้านเมืองตกอยู่ในสภาวะวิกฤตหนักที่สุด มีหนี้สินสูง ค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอ รายได้ไม่เพียงพอ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือความทุกข์ที่พี่น้องประชาชนเผชิญอยู่ จึงมีความจำเป็นและเป็นหน้าที่ที่พรรคการเมืองจะต้องคิดและหาทางออกมากกว่า
ส่วนการที่รัฐมนตรีบางคนที่ออกมาแสดงความเห็นในเชิงไม่เห็นด้วย และบอกว่าแนวคิดค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทและเงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 25,000 บาทเป็นหายนะ ตนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากที่คนเป็นรัฐมนตรีจะออกมาคัดค้านแนวคิดที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น ทั้งที่ควรจะดีใจ และควรคิดหาวิธีการที่จะทำหรือฝึกฝนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนบ้าง แต่สิ่งที่ทำกลับโจมตี แล้วรัฐมนตรีคนนั้นจะเข้าไปอยู่ในใจของผู้ใช้แรงงานได้อย่างไร