หากจะบอกว่า Toyota bZ4X ที่เพิ่งเผยโฉมออกมา ถือเป็นรถไฟฟ้า 100% คันแรกของยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota ก็คงไม่ผิดนัก แม้ที่ผ่านมาเราจะเห็นรถ EV อย่าง C-HR และ IZOA ที่จำหน่ายในประเทศจีน และ Lexus UX300e สำหรับตลาดทั่วโลก แต่นั่นเป็นเพียงการดัดแปลงจากรถที่วางจำหน่ายอยู่แล้ว ส่วนรถที่เพิ่งเปิดตัวนี้ได้คลอดออกมาโดยเป็นรถไฟฟ้า 100% ในทันที
ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักในด้านการเริ่มต้นตลาดรถยนต์ไฮบริด ซึ่งรวมเครื่องยนต์เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า แต่ความดุดันนั้นกลับน้อยกว่าคู่แข่งในสหรัฐฯ และยุโรปในการพัฒนาโมเดลไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ความเคลื่อนไหวล่าสุดถือเป็นข้อบ่งชี้แรกที่ Toyota ตั้งใจที่จะติดตามและพัฒนากลุ่มยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มรูปแบบ
ภายในปี 2025 Toyota วางเป้าหมายที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 15 รุ่น ในจำนวนนี้ 7 รุ่นจะเกิดขึ้นภายใต้แบรนด์ใหม่คือ bZ Series ที่ย่อมาจาก beyond Zero ซึ่ง Toyota bZ4X ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงานแสดงรถยนต์ที่เซี่ยงไฮ้ ถือเป็นรุ่นแรกของรถยนต์ซีรีส์นี้
Toyota bZ4X เป็นรถ SUV ที่ Toyota พัฒนาร่วมกับ Subaru บริษัทเพื่อนร่วมชาติ Toyota มีสัดส่วนการถือหุ้น 20% โดยถือเป็นรถ EV รุ่นแรกที่ได้รับการพัฒนาโดยใช้แพลตฟอร์ม e-TNGA ซึ่งรวมเอาจุดเด่นของ Toyota ที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้พลังงานไฟฟ้าของรถยนต์ และ Subaru ซึ่งมีเทคโนโลยี AWD ที่โดดเด่นด้านสมรรถนะการขับขี่ที่สะดวกสบายและสนุกสนาน
สิ่งที่โดดเด่นสำหรับรถรุ่นนี้คือ การมีระยะฐานล้อยาวและโอเวอร์แฮงก์หน้า-หลังสั้น ทำให้พื้นที่ภายในเทียบได้กับซีดาน D-Segment เลยทีเดียว โดย Toyota มีแผนที่จะผลิต Toyota bZ4X ในญี่ปุ่นและจีน หวังว่าจะเริ่มวางจำหน่ายทั่วโลกภายในกลางปี 2022
แหล่งข่าวที่คลุกคลีกับวงการรถยนต์ให้ความเห็นกับ THE STANDARD WEALTH ว่าสิ่งที่น่าจับตาคือ Toyota bZ4X จะเข้ามาวางจำหน่ายในไทยเมื่อไร จะได้เป็นประเทศกลุ่มแรกไหมยังตอบไม่ได้ แต่หากให้ประเมิน เร็วที่สุดอาจจะได้เห็นในช่วงต้นปี 2023 ส่วนราคานั้นจะแพงกว่าที่วางขายในจีนและญี่ปุ่น 30% เป็นอย่างน้อย
“เชื่อว่าราคาอาจอยู่ที่ 1 ล้านบาทบวกและลบ ขึ้นอยู่กับว่าในช่วงที่ผลิตจริงนั้นราคาแบตเตอรี่อยู่ที่เท่าไร เพราะแบตเตอรี่ถือเป็นต้นทุน 40% ของรถยนต์ไฟฟ้า หากช่วงนั้นราคาถูก ราคาก็อาจจะลง แต่ถ้าอยู่ในช่วงขาขึ้น แน่นอนว่าราคาจะแพงขึ้นอย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ Toyota ตั้งเป้าหมายที่จะขยายจำนวนรถไฟฟ้าทั้งหมด รวมถึงไฮบริดและ EV เป็นประมาณ 70 รุ่นในปี 2025 จาก 55 รุ่น ณ สิ้นปี 2020 พร้อมตั้งเป้าที่จะขายรถ EV และรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงให้มากกว่า 1 ล้านคันในปี 2030 จากยอดขาย EV ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 3,300 คันในปี 2020
อ้างอิง:
