ราคาของเล่นจะแพงขึ้นอีก 50% หลังสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนและเวียดนาม ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ที่สุดของโลก และส่งออกไปยังสหรัฐฯ กว่า 88% ซึ่งเรียกได้ว่าการปรับขึ้นราคาครั้งนี้เกิดขึ้นใน ช่วงเด็กเปิดเทอมพอดี
หากย้อนไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทที่จำหน่ายของเล่นในสหรัฐฯ จ้างโรงงานในจีนผลิตของเล่น เช่น แอ็กชันฟิกเกอร์ (ตุ๊กตาแอ็กชัน) ตามด้วยตุ๊กตา และเกมยอดนิยมต่างๆ นำเข้าจากจีนมาวางจำหน่ายในร้านค้าทั่วประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ของเล่นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ทำความรู้จักของเล่นที่อาจทำกำไรได้อย่างงาม
- Toys“R”Us ปรับแผนฟื้นธุรกิจจับกลุ่ม ‘ผู้ใหญ่ที่ยังมีใจรักของเล่น’ หลังเด็กเกิดน้อยลง
- POP MART รายได้พุ่ง 125% เพราะ Gen Z จีนแห่ซื้อ ‘กล่องสุ่ม’ คลายเครียด สวนทางเศรษฐกิจซบเซา
“เมื่อทรัมป์เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 34% จะทำให้ภาษีนำเข้าจากจีน รวมทั้งหมดอยู่ที่ 54% ภาษีดังกล่าวสูงกว่าที่บริษัทของเล่นคาดการณ์เอาไว้อย่างมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและผู้บริโภคอย่างมหาศาล ราคาสินค้าอาจจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 35-50% ขึ้นอยู่กับว่าต้นทุนและกำไรของสินค้าชนิดนั้น”เกร็ก อะเฮิร์น ประธานและซีอีโอของสมาคมของเล่น กล่าว
พร้อมย้ำต่อไปว่า ตอนนี้หลายๆ บริษัทอยู่ในโหมดตื่นตัวและเร่งรับมือกันเต็มที่ และคาดว่าสถานการณ์เริ่มตึงเครียดเพิ่มขึ้น เมื่อกระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าจะเก็บภาษีตอบโต้ สหรัฐฯ ทุกชนิด 34% โดยมองว่าสถานการณ์ส่งออกของเวียดนามน่าจะเจรจาได้ง่ายกว่า เพราะผู้นำระดับสูงของประเทศเวียดนามได้เข้าเจรจากับทรัมป์เรียบร้อยแล้ว
เมื่อมาดูจากข้อมูลของสมาคมของเล่น (The Toy Association) ระบุว่า สินค้าของเล่นที่สหรัฐฯ นำเข้ามาจากประเทศจีน มีสัดส่วนประมาณ 77% แน่นอนว่าทำให้บริษัทของเล่นรายใหญ่ Hasbro และ Mattel ได้รวมผลกระทบจากภาษีนำเข้าสินค้าจีนกว่า 20%
แม้จะพยายามปรับตัวรับมือด้วยการมองหาลู่ทางย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น อย่าง เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย แต่ประเทศเหล่านี้ก็ถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ดังนั้นแผนการย้ายฐานผลิตอาจไม่คุ้มต้นทุนอีกต่อไป ทางเลือกสุดท้ายแบรนด์สินค้าอาจต้องปรับขึ้นราคาขาย เพื่อชดเชยต้นทุนที่เสียไป จากนั้นผลกระทบจะตกมาอยู่ที่อยู่บริโภคโดยตรง และกลุ่มคนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย
ทั้งนี้ หลังจากมีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษี หุ้นของ Mattel ร่วงลงมากกว่า 16.5% ขณะที่ หุ้นของ Hasbro ร่วงลงมากกว่า 12% ในการซื้อขายวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ภาพ: ShamAn77 / Shutterstock
อ้างอิง: