แม้จะมีหลายเมือง หลายคู่ ในฟุตบอลอังกฤษที่เคลมความเป็น ‘อริสุดขั้ว’ แต่ไม่มีคู่ใดที่จะชิงชังและแข่งขันกันมากเท่ากับคู่ปรับแห่งลอนดอนเหนืออย่างท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และอาร์เซนอล อีกแล้ว
และคืนนี้ทั้งสองทีมจะต้องลงห้ำหั่นกันในเกมที่มีความหมายสำคัญอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรกในระยะเวลาหลายปี กับโอกาสในการจะยึดท็อปโฟร์และโอกาสโชว์ตัวในรายการใหญ่อย่างยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีกครั้งในฤดูกาลหน้า
โอกาสที่ไม่ได้มีความหมายแค่การลงเล่นในรายการใหญ่ แต่เป็นโอกาสทำเงินมหาศาล และสร้างแรงดึงดูดที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเจรจาพาตัวนักเตะฝีเท้าระดับท็อปมาร่วมทีม เพื่อต่อยอดทีมให้ไปสู่จุดมุ่งหมายที่สูงกว่า
ย้อนกลับไปในฤดูกาลที่แล้ว ทั้งสเปอร์สและอาร์เซนอลต่างอยู่ในสภาพที่เลวร้าย โดยเฉพาะฝ่ายหลังที่อาการหนักถึงขั้นตกลงไปสู่อันดับที่ 8 ของตารางการแข่งขัน ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการสโมสรยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปีเลยทีเดียว
ขณะที่สเปอร์สนั้นทำได้ดีกว่าแค่เล็กน้อย โดยมีอันดับดีกว่าแค่อันดับเดียว และได้สิทธิ์เป็นตัวแทนของลีกอังกฤษไปลงแข่งในรายการน้องใหม่อย่างยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก
ในภาพรวม สเปอร์สแม้จะเริ่มผลงานตกต่ำลง โดยเฉพาะหลัง เมาริซิโอ โปเชตติโน ถูกปลดจากตำแหน่งไปในปี 2019 แต่พวกเขาก็พลาดการไปแชมเปียนส์ลีกแค่ใน 2 ฤดูกาลหลังสุดเท่านั้น
ส่วนอาร์เซนอลกับแชมเปียนส์ลีกนั้นเป็นความทรงจำที่เลือนรางกว่ามาก เพราะครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้สิทธิ์ไปร่วมแข่งขันในถ้วยใบใหญ่ที่สุดของยุโรปคือ ฤดูกาล 2016/17 หรือเรียกว่ากันเนอร์สห่างหายจากถ้วยใบใหญ่ที่เคยเป็น ‘ของตาย’ ถึง 5 ฤดูกาลเต็มๆ
และนั่นทำให้การเผชิญหน้ากันครั้งนี้จึงเป็นเกมที่ทั้งสองทีมประกาศชัดเจนว่าจะไม่มีใครยอมใครอย่างแน่นอน
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน อาร์เซนอลภายใต้การนำของ มิเกล อาร์เตตา ถือความได้เปรียบกว่าคู่แข่งมากพอสมควร เนื่องจากมีคะแนนนำอยู่ถึง 4 คะแนน ขณะที่การแข่งขันเหลือเพียงแค่ 3 นัดเท่านั้น ซึ่งนั่นตีความได้อย่างง่ายว่า หากพวกเขาบุกไปคว้าชัยชนะได้ที่ท็อตแนมฮอตสเปอร์สเตเดียมในคืนนี้ ก็จะการันตีอันดับที่ 4 ทันที หรืออย่างน้อยแค่ไม่แพ้ก็แทบปิดประตูความหวังของคู่แข่งร่วมลอนดอนตอนเหนือแล้ว
ในทางตรงกันข้าม สเปอร์สเองไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการคว้า 3 คะแนนเต็มให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปหวังว่าอาร์เซนอลจะพลาดใน 2 นัดที่เหลือของฤดูกาล ซึ่งจะต้องพบกับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และเอฟเวอร์ตัน ในเกมเยือนและเหย้าตามลำดับ โดยเฉพาะนัดสุดท้ายที่จะมีผลต่อการลุ้นหนีตกชั้นที่สเปอร์สอาจจะพอหวังพึ่งทีมทอฟฟี่บลูได้
แต่โปรแกรมของพวกเขาเองก็ไม่ได้เบานัก เพราะ 1 ใน 2 เกมที่เหลือคือ การพบกับเบิร์นลีย์ที่ลุ้นหนีตกชั้นเหมือนกัน ส่วนอีกนัดคือ นอริช ซิตี้ ที่จะส่งท้ายพรีเมียร์ลีกก่อนจะตกชั้นไปในเดอะแชมเปียนชิป
สำหรับเรื่องในสนาม การเผชิญหน้ากันของคู่นี้มีความน่าสนใจในหลายมุม
เราสามารถประกบคู่ดวลกันได้อย่างสนุกในแทบทุกจุดของสนามไม่ว่าจะเป็น
- อูโก ยอริส vs. อารอน แรมส์เดล
- คริสเตียน โรเมโร vs. กาเบรียล มากัลเญส
- โรดริโก เบนตานกูร์ vs. โมฮาเหม็ด เอลเนนี
- เดยัน คูลูเซฟสกี vs. มาร์ติน โอเดการ์ด
- ซนฮึงมิน vs. กาเบรียล มาร์ติเนลลี
- แฮร์รี เคน vs. เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์
โดยเฉพาะในกลุ่มคีย์แมนแนวรุกของทั้งสองทีม ที่กำลังอยู่ในช่วงที่ทำผลงานกันได้อย่างยอดเยี่ยมและมีทีเด็ดทีขาดที่สามารถจะตัดสินเกมได้
สเปอร์สแสดงให้เห็นถึงคุณภาพการเล่นของพวกเขา ด้วยการดับความหวังลิเวอร์พูลในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในเกมที่เสมอกันในลอนดอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่ในระหว่างเกมถึงจะเป็นฝ่ายครองบอลน้อยกว่า แต่ก็ดูอันตรายมากกว่าด้วยซ้ำไป และเกมรับมีความแข็งแกร่ง เหนียวแน่น อย่างน่าประหลาดใจ
ขณะที่อาร์เซนอล พวกเขาอาจจะมีวันที่ฟอร์มหลุดแบบไม่ทราบสาเหตุบ้าง แต่ในระยะหลังทีมของอาร์เตตาเริ่มแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอในการเล่นมากขึ้น นิ่งขึ้น และดูมีประสบการณ์มากขึ้นชัดเจนในการรับมือคู่แข่งที่หลากหลาย
การวางแท็กติกของ 2 กุนซืออย่าง อันโตนิโอ คอนเต และอาร์เตตา ก็เป็นสิ่งที่น่าจับตามองเช่นกัน
ในเรื่องของประสบการณ์ กุนซือชาวอิตาลีเหนือกว่าอย่างแน่นอน และการเปลี่ยนแปลงทีมที่กำลังจะล่มสลายในช่วงการคุมทีมของ นูโน เอสปิริโต ซานโต ให้กลับมาเป็นทีมที่แข็งแกร่งได้ขนาดนี้ในระยะเวลาไม่ถึงฤดูกาล ก็เป็นสัญญาณที่น่าจับตามอง
3 จุดใหญ่ที่คอนเตจัดการแก้ไขให้สเปอร์สคือ การขันชะเนาะเกมรับให้แน่นหนา การใช้บอลริมเส้นอันเป็นสไตล์ถนัด และการแก้ปัญหาสมองรวนของ แฮร์รี เคน ที่สับสนระหว่างกองหน้ากับตัวทำเกม ให้กลับมาทำงานได้ลงตัว แม้กระทั่งการซื้อตัวก็ทำได้ถูกต้องทั้งเบนตานกูร์และคูลูเซฟสกีจากทีมเก่ายูเวนตุส
อย่างไรก็ดี อาร์เตตาตอบแทนความเชื่อมั่นของฝ่ายบริหารและแฟนบอลที่ยืนยันจะหนุนหลังทั้งๆ ที่เริ่มฤดูกาลมาด้วยความปราชัย 3 นัดรวด ด้วยการพิสูจน์ให้เห็นว่า หากมีนักเตะที่ตอบโจทย์ต่อระบบของทีมแล้ว กันเนอร์สจะเปลี่ยนเป็นทีมที่ดีได้ขนาดไหน
การมาของ เบน ไวท์, ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ และ มาร์ติน โอเดการ์ด ยกระดับอาร์เซนอลได้อย่างมาก โดยเฉพาะรายหลังสุดที่ได้กลับมาลอนดอนอีกครั้งหลังทำได้ดีในฤดูกาลที่แล้วในการยืมตัว มาครั้งนี้ยิ่งทำได้ดีกว่าเดิมอีก อดีตดาวรุ่งขั้นเทพที่เกือบหมดอนาคตในทีมเรอัล มาดริด พิสูจน์ให้เห็นว่า เขาคือหนึ่งในตัวทำเกมที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกเวลานี้ และเป็นคีย์แมนในการกำหนดจังหวะการเล่นของทีม ด้วยการผ่านบอลที่นุ่มนวลและการเคลื่อนที่ที่ชาญฉลาด
ทางด้าน อลัน สมิธ นักวิเคราะห์ทาง Sky Sports ซึ่งเคยเป็นตำนานอาร์เซนอล มองถึง Key Battles หรือจุดที่จะตัดสินเกมคืนนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ
- สำหรับอาร์เซนอล หัวใจคือเกมรับ วันนี้คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ (ซึ่งลุ้นอาการของ เบน ไวท์ อยู่) จะต้องหยุดเคน ซึ่งเป็นศูนย์หน้าที่มีความครบเครื่องที่สุดในโลกให้ได้ ขณะที่ฟูลแบ็กก็ต้องพยายามหาทางหยุดเกมริมเส้น โดยเฉพาะฝั่งขวาที่มี ซนฮึงมิ
- บูกาโย ซากา (ถ้าลงสนามไหว) คือตัวทีเด็ดที่สุดในแนวรุกของอาร์เซนอล ที่พร้อมสร้างปัญหาให้แก่เกมรับทางซ้ายของสเปอร์ส
- ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก กับเบนตานกูร์ จะต้องเก็บโอเดการ์ดให้สนิทในเกมนี้ เพราะหากปล่อยให้สตาร์นอร์เวย์ทำเกมได้ นั่นหมายถึงอาร์เซนอลจะสามารถเดินเครื่องได้ทันที
ปัจจัยที่อยู่นอกเหนือจากนั้นคือ บรรยากาศของการแข่งขันที่เข้มข้นจากความเป็นอริของทั้งสองทีม ซึ่งสมิธยังจดจำได้เป็นอย่างดี “ในฐานะผู้เล่นสัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์ที่ยิ่งใหญ่เสมอ โดยเฉพาะช่วงก่อนแข่งไม่กี่วัน ที่หากเราเข้าไปซื้อของในเมือง แฟนๆ ก็จะมาย้ำถึงความสำคัญของเกมนี้
“เกมดาร์บีจะมีบรรยากาศที่พิเศษก่อนเกมเสมอ รวมถึงในสนามซ้อม เราจะสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้ได้ในสนาม และรู้ได้ทันทีว่าเกมนี้มันแตกต่างจากทุกวัน”
และนี่คือเหตุผลที่ต่อให้ไม่ใช่แฟนของสองทีมแห่งลอนดอนเหนือ เกมนี้เป็นเกมที่สมควรจะยอมอดนอนเพื่อติดตามดูและลุ้นไปด้วยกัน
อ้างอิง:
- https://www.skysports.com/football/news/20876/12610593/alan-smiths-north-london-derby-preview-anything-can-happen-when-tottenham-face-arsenal
- https://www.theguardian.com/football/who-scored-blog/2022/may/10/tottenham-arsenal-key-players-north-london-derby-champions-league
- https://www.thetimes.co.uk/article/at-last-a-north-london-derby-that-really-matters-this-weeks-encounter-is-seismic-8thdzvl5r