หัวเรือใหญ่ Tops เปิดความสำเร็จหลังรีแบรนด์ร้าน FamilyMart เป็น Tops Daily ย้ำจุดแข็งสินค้านำเข้า ราคาเข้าถึงง่าย เป็นอาวุธลับต่างจากคู่แข่งในตลาด พร้อมประกาศแผนเร่งขยายสาขา 100 แห่งต่อปี และในอีก 3 ปีข้างหน้าจะให้มีสาขาทะลุ 1,000 แห่งกระจายทั่วประเทศ มั่นใจเศรษฐกิจไทยเริ่มสดใส
“ในปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกและเงินเฟ้อสูงสร้างความท้าทายให้ธุรกิจอย่างมาก แต่เราได้ปรับตัวรับมือจนฟันฝ่ามาได้ อีกทั้งปัจจุบันสถานการณ์ในไทยเริ่มเห็นสัญญาณบวกแล้ว ซึ่งหลังจากเราได้ปรับโฉมร้าน FamilyMart เป็น Tops Daily ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จากนี้ชื่อ FamilyMart ในไทยจะไม่มีอีกต่อไป! CRC ทยอยปรับโฉมเป็น Tops Daily…
- Tops Daily vs. 7-Eleven กับการสร้างตำนาน ‘แจ็คผู้ฆ่ายักษ์’ ในสังเวียนร้านสะดวกซื้อแสนล้าน
- ‘ท็อปส์ เดลี่’ เปิดขายแฟรนไชส์ เริ่มต้น 1.07 ล้านบาท การันตีรายได้ 60,000 บาทต่อเดือน
“สะท้อนได้จากผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2567 Tops มีปริมาณการใช้บริการที่ร้าน (Ticket Counts) เพิ่มขึ้น 11% และมีจำนวนลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว” สเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป กล่าว
สำหรับในปี 2567 Tops ครบรอบ 28 ปี นับตั้งแต่การเปิดร้าน Tops Supermarket สาขาแรกที่ RCA ในปี 2539 จากนั้นแบรนด์ก็เริ่มเป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้บริโภค ด้วยจุดแข็งคือสินค้านำเข้าที่หลากหลาย ราคาเข้าถึงง่าย และประสบการณ์ของการบริการ
จนปัจจุบันบริษัทมีสาขาเปิดให้บริการครอบคลุมในทุกฟอร์แมตทั้งหมด 730 แห่ง ได้แก่ Tops Food Hall 20 สาขา, Tops Supermarket 150 สาขา, Tops Daily 520 สาขา, Tops Wine Cellar 10 สาขา และ Matsukiyo 25 สาขา ทั้งหมดกระจายในพื้นที่ 46 จังหวัดทั่วประเทศ และให้บริการรวมลูกค้ารวมกว่า 11,000 ครัวเรือน
ด้วยปัจจัยบวกต่างๆ รอบด้าน ในปีนี้บริษัทได้ทุ่มงบกว่า 1.6 พันล้านบาท เพื่อใช้ขยายสาขา 100 แห่งต่อปี โดยสาขาใหม่จะเน้นเปิดใกล้ชุมชนเป็นหลัก และโมเดลร้านที่ไปจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่
หัวเรือใหญ่ Tops ย้ำว่า ระหว่างปี 2567-2570 บริษัทตั้งเป้าให้ธุรกิจเติบโตเฉลี่ย 8% โดยการเติบโตทั้งหมดจะได้รับแรงหนุนจากกลยุทธ์การดำเนินงาน 4 กลยุทธ์ ‘T-O-P-S’ ได้แก่ Truly World Class เป็นการนำเข้าสินค้ามากกว่า 210 แบรนด์จาก 80 ประเทศทั่วโลกมารวมไว้ในที่เดียว พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและเกษตรกร พัฒนาสินค้าคุณภาพเข้ามาสู่ตลาด
ตามด้วยกลยุทธ์ Omni-Channel สร้างประสบการณ์ช้อปสะดวกแบบไร้รอยต่อ ผ่านช่องทางOmni-Channel ในรูปแบบร้านค้าแบบมีหน้าร้านรวมกว่า 700 แห่งใน 46 จังหวัด ควบคู่กับการบริการผู้ช่วยช้อปส่วนตัว หรือ Personal Shopper และเปิดให้สั่งซื้อสินค้าผ่าน TikTok
รวมถึง Pleasure นำสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟกว่า 300 รายการ ทั้งผัก ผลไม้ ขนมขบเคี้ยว ไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสินค้าต่างๆ มาจากการใช้ AI โซลูชันมาช่วยวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อรับเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
และสุดท้ายกลยุทธ์ Sustainability สานต่อโครงการ Small Acts Together สนับสนุนให้คู่ค้าและลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการความยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์ ReNEW ของเซ็นทรัล รีเทล ที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
ทั้งนี้บริษัทยังได้เปิดตัวมาสคอต ‘Topster’ ซึ่งเป็นมาสคอตตัวแรกของแบรนด์ เข้ามาร่วมเป็นตัวแทนสื่อสารและส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าในโอกาสพิเศษต่างๆ โดยเฉพาะในโอกาสครบรอบ 28 ปี ได้จัดแคมเปญ ‘สติกเกอร์ แปะปุ๊บลดปั๊บ ลดเลยตามใจคุณ’ ให้กับลูกค้าสมาชิก The1 และลูกค้าทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม – 10 กันยายน 2567
“ความสำเร็จของ Tops เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าเราเป็นแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค ซึ่งทั้งหมดมาจากความร่วมมือและการสนับสนุนจากพันธมิตรคู่ค้าและพนักงานที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายเดียวกัน” สเตฟานย้ำ
เรียกได้ว่าแผนการดำเนินงานทั้งหมดสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่ CRC บริษัทแม่ ต้องการผลักดันแบรนด์ Tops ขึ้นเป็น Food Discovery & Destination และเบอร์ 1 Food Omni Retailer