ต้องจ่ายเงินเท่าไร ชมพู่ อารยา ถึงได้ยอมทำอะไรแบบนี้
คือคำถามสำคัญที่โผล่เข้ามาแย่งความสนใจจากเนื้อหาและนักแสดงคนอื่นๆ อยู่ตลอดเวลาที่ดู ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค ไม่ได้หมายความว่าองค์ประกอบอื่นๆ มีปัญหา ทั้งบทหนังและจังหวะจะโคนของนักแสดงทั้งหมดทำหน้าที่ของตัวเองได้ตามมาตรฐาน
เพียงแต่การแสดงของ ‘แม่ชม’ ทั้งในลุคซูเปอร์สตาร์ แคทรีโอน่า-กรรณิการ์ หวัง (ถ้าจะให้ได้อรรถรสต้องออกเสียงว่า แครย์ธรวี่ย์!) และเจ๊น้ำ แม่ค้าผัดผงกะหรี่ที่พร้อมสบถคำด่าอยู่ตลอดเวลานั้นโดดเด่นทะลุเพดานจนเราไม่สามารถสลัดภาพที่เห็นออกได้จริงๆ
ไม่ใช่แค่การต้องรับบทเป็นเจ๊น้ำที่ทำลายภาพจำแบบสุดขั้ว สิ่งที่ยากกว่านั้นคือการทำให้คน ‘สวย’ ระดับแม่ชมต้องมายอมรับและพรีเซนต์ตัวเองด้วยภาพฟันเหยิน หูกาง ตาเหล่ และคุณลักษณะไม่พึงประสงค์ที่ห่างไกลจากความงามสมบูรณ์แบบอีกนับไม่ถ้วน
อาจมองได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดา ไม่หนักหนาสำหรับคนทั่วไป แต่กับคนที่เดินเฉิดฉายบนพรมแดงเมืองคานส์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของผลิตภัณฑ์ระดับโลก มีรูปอยู่บนป้ายบิลบอร์ดขนาดยักษ์ที่หน้าเนียนกริบ เต็มไปด้วยออร่าสะกดสายตาผู้คน ฯลฯ จะเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากแค่ไหน เราไม่มีทางจินตนาการออกได้จริงๆ
อย่างที่ผู้กำกับ เติ้ล-กิตติภัค ทองอ่วม เคยบอกเอาไว้ว่าการขยายจักรวาลแก๊งตุ๊ดซี่ส์ด้วยการให้ ‘ซูเปอร์สตาร์’ สักคนมาเป็นคาแรกเตอร์หลักเป็นเรื่องยาก เพราะต้องไม่ถูกรัศมีของ กัส (เพชร-เผ่าเพชร เจริญสุข), กอล์ฟ (ปิงปอง-ธงชัย ทองกันทม), คิม (เต๋อ-รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์) และแนตตี้ (พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) ที่เล่นใหญ่และเฉิดฉายมากๆ ในเวอร์ชันซีรีส์ทั้งสองซีซัน
เติ้ลวางชื่อแม่ชมเอาไว้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง ชนิดที่ถ้าชมพู่ไม่รับเล่นเรื่องนี้ขึ้นมาจะเป็นปัญหาถึงขนาดต้องปรับโครงเรื่อง ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค ใหม่ ซึ่งต้องขอบคุณเติ้ลที่อดทนรอ ขอบคุณชมพู่ที่ตอบรับ และเราขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ยืนยันว่าบท ‘เจ๊น้ำ’ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเธอจริงๆ
ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ แต่ก็ต้องบอกว่าทีมเขียนบทตัดสินใจถูกต้องที่วางตัวละครหลักที่เกี่ยวข้องกับเส้นเรื่องของเจ๊น้ำเป็นกอล์ฟและคิม แล้วให้กัสกับแนตตี้มีเส้นเรื่องแยกออกไป เพราะไม่อย่างนั้นมีสิทธิ์ที่กัสกับแนตตี้จะถูกเจ๊น้ำกลบรัศมีได้สูงมาก
ต้องชมสองนักแสดงอย่างปิงปองและเต๋อที่เล่นใหญ่ จังหวะดี เป็นลูกคู่ให้กับชมพู่ได้อย่างพอเหมาะ ไม่ได้หมายความว่าเพชรกับพีคเล่นไม่ดี ทั้งคู่ทำได้ดีแล้ว เพียงแต่คาแรกเตอร์และบริบทของตัวละครไม่สามารถนำเสนอภาพ ‘ใหญ่’ พอจะสู้กับเจ๊น้ำที่ยืนหนึ่งเรื่องกะหรี่คนนี้ได้จริงๆ
การแสดงของนักแสดงทุกคนดีพอที่จะเรียกว่า ‘แบก’ บทหนังเอาไว้ได้ทั้งเรื่อง บางจุดที่รู้สึกว่าธรรมดา ติดขัด ไม่ราบรื่น รวดเร็ว จับยัด กระโดดไปมา แต่ความตลก (ที่บางจุดไม่ควรขำเลยด้วยซ้ำ) ทุกครั้งเมื่อเจ๊น้ำ คิม และกอล์ฟรวมตัวกัน ก็ทำให้เราให้อภัยและลืมจุดที่ติดใจอยู่ก่อนหน้าไปได้ทันที
ทั้งฉากลื่นเหงื่อ จมูกหัก นิ้วจิ้มพัดลม ท่าโยคะ ทำหน้างง พ่นเมล็ดผลไม้ ที่แฟนตาซี หลุดโลก สุ่มเสี่ยงต่อความไม่ตลก แต่ทั้งหมดก็ทำให้กลายเป็นเรื่องตลก โดยเฉพาะฉากเต้นหน้าตายที่นึกจะเต้นก็เต้น แต่กลายเป็นหนึ่งในฉากที่เราชอบที่สุดในเรื่องไปได้อย่างไรก็ไม่รู้
มีจุดที่เรารู้สึกว่าน่าเสียดายคือการเซตคอนเซปต์ของเรื่องให้อยู่ที่คำว่า ‘เฟค’ ในแง่หนึ่งทำให้พล็อตแข็งแรง ง่ายต่อการเล่าเรื่อง แต่ก็ทำให้หลายประเด็นกลายเป็นถูกจับยัดให้ต้องมีความปลอมมาเกี่ยวข้อง ทั้งที่จริงๆ แล้วเป็นประเด็นที่น่าสนใจและแข็งแรงพอที่จะชูขึ้นมาได้เลย
เช่น เรื่องของแนตตี้ที่ต้องพยายามมีลูกเพื่อให้ได้มรดก ก็มีประเด็นความลื่นไหลทางเพศ (Gender Fluid) ที่น่าลงรายละเอียดไม่แพ้การปลอมความรู้สึกเพื่อผลประโยชน์ หรือประเด็นความสับสนของกัสระหว่างคนรักเก่ากับคนรักปัจจุบันที่ทุกคนต้องต่อสู้เพื่อชีวิตใหม่ ก็แข็งแรงไม่แพ้เรื่องความ ‘ปลอม’ ว่ารักเด็กเพื่อรักษาความสัมพันธ์
โดยเฉพาะประเด็น ‘ความคลั่งไคล้’ ระดับถวายชีวิต เหมือนที่กอล์ฟยอมทำทุกอย่างเพื่อช่วยแครย์ธรวี่ย์ ซูเปอร์สตาร์ที่เขาหลงรัก และความหลงใหลในตัวเชฟป้อมของเจ๊น้ำในฐานะเป้าหมายของคนทำอาหารคนหนึ่ง
ที่เรารู้สึกว่าเป็นเรื่องท่ีควรลงรายละเอียดถึงความสำคัญของการได้รับการยอมรับ การมีตัวตนบนเส้นทางที่เลือกเดิน มากกว่าการสรุปจบด้วยคำว่า ‘เฟค’ เพื่อให้ตรงกับคอนเซปต์หลักของชื่อเรื่อง
เหมือนที่กอล์ฟตั้งใจทำงานเพื่อให้แครย์ธรวี่ย์มองเห็น เหมือนที่เจ๊น้ำยอมรับข้อเสนอปลอมตัวเป็นซูเปอร์สตาร์ด้วยเงื่อนไขเพียงอย่างเดียวคือขอให้เธอได้ออกรายการของเชฟป้อม โดยไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย
และอาจเป็นคำตอบของคำถามที่เราสงสัยในตอนแรกว่า ต้องจ่ายเงินเท่าไร ชมพู่ อารยา ถึงได้ยอมทำอะไรแบบนี้?
ว่าตัวเงินมากเท่าไรคงไม่ใช่คำตอบที่สำคัญไปกว่า ‘บทบาท’ ที่ท้าทาย ทะลุขีดจำกัด และแสดงให้เห็นว่านักแสดงที่ชื่อ ชมพู่ อารยา สามารถรับบทเป็นอะไรก็ได้บนโลกใบนี้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
