เดือนตุลาคมปี 2022 ไบเออร์ เลเวอร์คูเชน อยู่ในโซนตกชั้น ในวันที่ ซาบี อลอนโซ่ ก้าวเข้ามานำพาสโมสรที่ไม่เคยได้แชมป์บุนเดสลีกา มาเป็นแชมป์สมัยแรกได้สำเร็จ พร้อมสถิติไร้พ่าย และเป็นหนึ่งในโค้ชที่เนื้อหอมที่สุดในเวทีฟุตบอลยุโรปตอนนี้
ในเรื่องของความรู้และประสบการณ์ฟุตบอล แน่นอนว่า อลอนโซ่ที่ผ่านการทำงานร่วมกับโค้ชระดับท็อปของวงการทั้ง โชเซ มูรินโญ่, เป๊ป กวาร์ดิโอลา, บิเซนเต เดล โบสเก, ราฟาเอล เบนิเตซ และ คาร์โล อันเชลอตติ เขาก็ได้เก็บเกี่ยวความรู้ด้านแทกติก และ การบริหารจัดการนักเตะภายในทีมมาอย่างมากมาย
อลอนโซ เคยเปิดเผยว่า สิ่งที่เขาเห็นจากการทำงานร่วมกับ โชเซ มูรินโญ่ และ เปป กวาร์ดิโอลา มี 3 สิ่งที่ 2 คนนี้มีเหมือนกับคือ Knowledge Hardworking และ Self-demanding
Knowledge ความรู้ด้านแทกติกฟุตบอลที่พร้อมพัฒนา และ เรียนรู้จากคู่แข่งอยู่เสมอ
Hardworking พร้อมทำงานอย่างหนักในทุกๆวัน
และสุดท้ายคือ Self-demanding เป็นคนที่คาดหวังจากตัวเองสูงมากที่สุด และ คาดหวังจากนักเตะในระดับเดียวกัน
แต่เมื่อถูกถามถึงเคล็ดลับการทำงานของเขาเอง อลอนโซ ได้เปิดเผยว่าแนวทางของเขามีเอกลักษณ์และหนทางในแบบของเขาเอง
“เรามาถึงจุดนี้ได้เพราะเรามีแพสชั่นแบบนี้ แรงผลักที่จะทำให้เราก้าวไปในเส้นทางที่ถูกต้องตลอดเวลา ในอนาคตตเราอาจจะประสบความสำเร็จ เราจะรอ แต่เราจะไม่มองไปไกลมาก เราจะโฟกัสกันแบบก้าวต่อก้าว นี่เป็น ดีเอ็นเอของเรา และ วิธีการทำงานของเรา”
ในการฝึกซ้อม อลอนโซจะไม่เสียเวลาแม้เสี้ยววินาที เมื่อการฝึกซ้อมจบทุกครั้ง เขาจะเตะบอลเข้าไปหานักเตะ เพื่อให้ทุกคนพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่โดนบีบให้ควบคุมบอลอย่างกระทันหัน
“นี่เป็นหน้าที่ของผม อาชีพของผม และ แพสชั่นของผม นี่นคือสิ่งที่ผมรักที่จะทำ” อลอนโซ กล่าวถึงงานในปัจจุบันของเขา
“ผมชอบที่จะใกล้ชิดกับนักเตะ พยายามทดลองสิ่งใหม่ๆ และ พยายามทำให้พวกเขาเข้าใจถึงความตั้งใจในทุกเซสชั่นที่เราฝึกซ้อม
“ให้เข้าใจว่าทุกอย่างที่เราทำมีเหตุผล เราทำงานร่วมกันมาเป็นเวลานาน จังหวะการทำงานร่วมกันของเราดีมาก นี่เป็นสิ่งที่เราต้องทำต่อไป และ โฟกัสต่อไป
“สิ่งที่ผมอยากจะบอกกับเราทุกคนก็คือเราต้องพยายามที่จะเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของเราเอง ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เราต้องพร้อมสำหรับการลงแข่งวันเสาร์ ผมอยากจะอยู่ใกล้พวกเขา คุยกับพวกเขา ทั้งในและนอกสนาม แต่เช่นเดียวกันเราก็จะไม่ผ่อนคลายจนเกินไป”
สิ่งหนึ่งที่อลอนโซกำหนดขึ้นมาใหม่คือ Breakfast Club หรือชมรมอาหารเช้า บริเวณใกล้เคียงที่พักนักกีฬา เพื่อให้นักเตะได้มาร่วมกันกินอาหารเช้าทุกวันด้วยกัน ซึ่ง อลอนโซ เชื่อว่ากุญแจสู่ความสำเร็จคือความเป็นหนึ่งเดียว และ สปิริตของทีม
“ตอนนี้เราได้เจอสองสิ่งที่สำคัญมาก คือ วิธีการเล่นของเรา รวมถึง เราจะแข่งขันทั้งด้านฟุตบอล และ ด้านจิตวิทยาอย่างไร เมื่อเราสามารถผสมสิ่งต่างๆ เหล่านี้เขาด้วยกัน เราก็จะอยู่ในสภาพจิตใจที่ดีมาก
“แต่ใครก็ตามที่คิดว่าเราสามารถผ่อนคลายได้ก่อนจบฤดูกาลจะถูกลงโทษ หวังว่าเราจะโง่เกินไป ที่จะชล่าใจ
“ผมไม่สนใจว่าเราจะชนะกี่เกม ผมไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ผมสนใจแค่อย่างเดียวคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น สมาธิของผมอยู่กับเกมต่อไป เราต้องจบแต่ละสัปดาห์ ด้วยน้ำมันเต็มถัง และ แรงบันดาลใจเต็มเปี่ยม เราต้องเป็นคนที่ทุ่มเทจนถึงวินาทีสุดท้าย”
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในตอนที่ อลอนโซ เป็นนักฟุตบอลอาชีพทั้งแชมป์โลกกับสเปน เมื่อปี 2010 แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกกับทั้งลิเวอร์พูล และเรอัล มาดริด บวกกับประสบการณ์ทำงานกับกุนซือระดับหัวกะทิของวงการ ทำให้เขาถือว่าเป็นนักเรียนลูกหนังชั้นเยี่ยม
แต่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในวันนี้ของ อลอนโซ เปรียบได้กับคำพูดของ บรูซ ลี ปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ และ นักแสดงฮอลีวูด ที่เคยกล่าวถึงการเรียนรู้จากสิ่งรอบตัวไว้ว่า
“จงเก็บเกี่ยวสิ่งที่เป็นประโยชน์ ละทิ้งสิ่งที่ไม่มีประโยนช์ และ เพิ่มเติมสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเราเองเข้าไป”
“Absorb what is useful, discard what is not, add what. is uniquely your own.” — Bruce Lee.
ซึ่งแปลออกมาเป็นภาษาฟุตบอลโดยอลอนโซ ถึงลูกทีมของเขาว่า
“สิ่งที่ผมอยากจะบอกกับเราทุกคนก็คือเราต้องพยายามที่จะเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของเราเอง”
‘The message is that we have to be the best version of ourselves”
อ้างอิง