ประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย หรือ ทีเอ็มบี กล่าวว่า การรวมกิจการของธนาคารทีเอ็มบีและธนาคารธนชาต ภายใต้ ‘One Dream, One Team, One Goal’ เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยคาดว่ากระบวนการรวมกิจการทั้งสองธนาคารจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนกรกฎาคม 2564
“เมื่อภารกิจการรวมธนาคารของเราสำเร็จเรียบร้อยครบทุกด้าน ธนาคารใหม่ที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ขึ้น แตะระดับ 10 ล้านราย ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์อื่นทั้งในระดับประเทศและระดับอาเซียนให้ดีขึ้น รวมทั้งสามารถสร้างสรรค์สินค้าและบริการด้านการเงินใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น”
ทั้งนี้ หลังการรวมธนาคารที่เริ่มดำเนินการมากว่า 6 เดือน ปัจจุบันธนาคารเริ่มเชื่อมโยงการให้บริการต่างๆ รวมถึงช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทั้งสองธนาคาร เช่น
- การชำระบิลสินเชื่อรถยนต์ ประกันรถยนต์ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด ของธนาคารธนชาต สามารถทำรายการผ่านโมบายล์แอปพลิเคชัน ทัช (TOUCH) และตู้ ATM ของทีเอ็มบี (ยกเว้นสินเชื่อบ้าน และประกันรถยนต์) ได้แล้ว
- ลูกค้าทั้งสองธนาคารสามารถทำรายการฝาก ถอน และโอน ได้ฟรี! ไม่มีค่าธรรมเนียม ผ่าน ATM/ADM ทั้งของทีเอ็มบีและธนชาต กว่า 4,900 เครื่องทั่วประเทศ
- การเปิดตัวสาขาที่ให้บริการร่วม (Co-Location) ระหว่างทีเอ็มบีและธนชาต (เริ่มช่วงต้นปี 2563) ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 44 สาขา (ณ มิถุนายน 2563) ตั้งเป้าหมายว่าสิ้นปี 2563 จะอยู่ที่ 100 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพมหานคร ประมาณ 60 สาขา และต่างจังหวัดกว่า 30 สาขา
- พนักงานทีเอ็มบีสามารถแนะนำผลิตภัณฑ์บริการสินเชื่อรถยนต์จากธนชาตได้ด้วย
ขณะที่การรวมบุคลากร ทั้งการวางแผนโครงสร้างกำลังคนและการโอนย้ายพนักงานเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นไปตามเป้าหมาย โดยผู้บริหารของธนาคารใหม่ได้ย้ายมาทำงานร่วมกันทั้งหมดตั้งแต่ต้นปี และตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา มีการโอนย้ายพนักงานบางส่วนแล้ว เช่น กลุ่มผู้บริหารระดับสูง พนักงานระดับหัวหน้างาน และพนักงานส่วนปฏิบัติการ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์