หลังจากมีข่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมแผนการแบนแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียมาแรงจากจีนอย่าง TikTok ในสหรัฐอเมริกา ทำให้เหล่าดาว TikTok ออกมาบอกลาแฟนๆ อย่างกะทันหัน
เริ่มด้วย Michael Le เจ้าของบัญชีที่มีชื่อว่า Justmaiko ที่โด่งดังมาจากการเต้นชาเลนจ์ต่างๆ ร่วมกับ Jason Derulo จนมียอดวิวเฉลี่ยอยู่ที่ 1-5 ล้านวิวต่อคลิป ได้ออกมากล่าวคำอำลาผู้ติดตามที่มีจำนวนสูงถึง 35.5 ล้านด้วยวิดีโอสุดท้ายอย่างเป็นทางการ พร้อมกับเชิญชวนให้แฟนๆ ติดตามเขาผ่านช่องทางอื่นๆ ทั้ง Instagram และ YouTube แทน
“มันเป็นการเดินทางที่สุดยอดจริงๆ และถ้าพวกคุณอยากเดินต่อไปด้วยกัน ผมจะซาบซึ้งใจจริงๆ ถ้าพวกคุณในนี้ไม่ว่าจะ 5 หรือ 10% ยังติดตามผมอยู่ มันจะมีความหมายกับผมอย่างมหาศาล” Michael กล่าวในวิดีโอ ซึ่งก่อนหน้านี้เขายังตอบคอมเมนต์ว่า คนควรใจเย็นกับเรื่องนี้ พร้อมเผยว่าเขามีทุกวันนี้ ย้ายมาอาศัยอยู่ในนครลอสแอนเจลิสได้ และมีเงินเลี้ยงครอบครัวได้ ก็มาจากแอปพลิเคชัน TikTok
@justmaikogoodbye💙♬ Night Trouble By Petit Biscuit – thenewtyy
ตามมาด้วย Hyram บิวตี้บล็อกเกอร์สายสกินแคร์ชื่อดัง ที่มีผู้ติดตามจำนวน 5.4 ล้านคน ก็ได้โพสต์บอกลาช่องทางนี้ หลังจากที่เข้าร่วมได้เพียง 5 เดือน และขอบคุณทุกการติดตามด้วยเพลง See You Again ของ Charlie Puth และย้ำให้ยังติดตามผลงานผ่านช่อง YouTube และ Instagram เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีคนดังใน TikTok คนอื่นๆ ที่ได้บอกลาแพลตฟอร์มที่สร้างชื่อให้กับพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น Taylor Holder ที่รวมภาพวิดีโอและความทรงจำตลอดเวลาที่ผ่านมา, พี่น้อง Dixie D’Amelio ที่มีผู้ติดตามรวมสูงถึง 32 ล้านคน และ Tony Lopez ที่นอกจากจะย้ำให้แฟนๆ ไปติดตามเขาช่องทางอื่นแล้ว เขายังโพสต์คลิปที่มีการใช้เอฟเฟกต์เปลี่ยนพื้นหลังเป็นบันทึกภาพหน้าจอข้อความใน Instagram ที่เขาส่งถึง โดนัลด์ ทรัมป์ ว่า พวกเขาต้องการช่องทางนี้จริงๆ
@itstaylerholderI really hope this isn’t true. This app has changed my life forever and helped make the best memories of my life🥺💔 Bye for now. 😞 IG: Taylerholder♬ original sound – itstaylerholder
ก่อนที่จะมีข่าวการแบนแอปพลิเคชันนี้ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจาก โดนัลด์ ทรัมป์ มองว่าเป็นภัยต่อชาวอเมริกัน TikTok ถือได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ ด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีผู้ใช้งานสูงถึง 500 ล้านคนต่อเดือน และมีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ประมาณ 80 ล้านคน โดยนอกจากช่วงที่ชาวอเมริกันและผู้คนทั่วโลกหากิจกรรมทำในช่วงล็อกดาวน์แล้ว คงเป็นการเต้นต่างๆ จากเพลงป๊อปและฮิปฮอปฝั่งอเมริกาประกอบท่าเต้นที่สามารถเต้นตามได้อย่างง่ายดาย ที่ทำให้เกิดเป็นชาเลนจ์มาแรงแบบฉุดไม่อยู่ ไม่ว่าจะเป็น #SaySoChallenge, #SavageLove, #JloChallenge และอีกนับไม่ถ้วน
ภาพ: TikTok @justmaiko, @skincarebyhyram, @itstaylorholder
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
