เรียกว่าชีวิตกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นจริงๆ สำหรับ Timothée Chalamet (ทิโมธี ชาลาเมต์) นักแสดงหนุ่มมากฝีมือวัย 25 ปี ที่ล่าสุดเพิ่งทำลายสถิติใหม่บนตาราง Box Office ยุคโควิด จากสองผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่เขาแสดง ทั้ง Dune (2021) มหากาพย์ไซไฟของยอดผู้กำกับ Denis Villeneuve และ The French Dispatch (2021) ของผู้กำกับสุดแนว Wes Anderson
Dune ที่ดัดแปลงมาจากนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ Frank Herbert และก่อนหน้านี้ผู้กำกับ David Lynch เคยหยิบมาสร้างออกฉายเมื่อปี 1984 สามารถสร้างสถิติใหม่ เป็นหนังที่ทำรายได้จากการขายตั๋วหนังจากโรงภาพยนตร์มากสุดในช่วงสัปดาห์เดียวกันที่ฉายทางแพลตฟอร์มสตริมมิงควบคู่กันไปด้วย (เรื่อง Dune ฉายทาง HBO Max) โดยทำเงินไป 40.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำลายสถิติของภาพยนตร์ Godzilla vs. Kong (2021) ที่เปิดตัวในเดือนมีนาคมด้วยรายได้จำนวน 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากความสำเร็จนี้ทาง Jeff Goldstein ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายภายในประเทศของ Warner Bros. ก็ออกมาแสดงความปลื้มปริ่มกับสื่อ Variety ว่า “เหล่าผู้ชมกำลังตื่นเต้น ส่วนที่ดีที่สุดคือการได้เห็นแฟนๆ มีความสุขในสิ่งที่พวกเขากำลังรับชม พวกเขาหลงใหลประสบการณ์ชมภาพยนตร์บนจอใหญ่ และ Dune คือผู้ชนะในสัปดาห์ที่ผ่านมา”
ขณะที่ Mary Parent รองประธานฝ่ายผลิตของ Legendary Pictures ก็ออกมากล่าวชื่นชม Timothée Chalamet ผ่าน The Hollywood Reporter ว่านักแสดงหนุ่มวัย 25 ปีคนนี้เป็น ‘แนวหน้าและศูนย์กลาง’ ของการโปรโมตตัวภาพยนตร์
ด้าน The French Dispatch อีกหนึ่งผลงานของ Timothée Chalamet ที่ได้รับคำชื่นชมล้นหลามพร้อม Standing Ovation ยาวนาน 9 นาทีจากการฉายรอบพรีเมียร์ ณ เทศกาลหนังเมืองคานส์เมื่อเดือนกรกฎาคม และออกฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วไปในเวลาไล่เลี่ยกับ Dune (22 ตุลาคม) ก็สามารถเก็บเงินไปได้ 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากโรงภาพยนตร์ 52 แห่งในสหรัฐฯ ด้วยค่าเฉลี่ย 25,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อโรง สร้างสถิติใหม่เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้เปิดตัวด้วยค่าเฉลี่ยต่อโรงภาพยนตร์สูงสุดในยุคโควิด โดยเอาชนะ Venom: Let There Be Carnage (2021) และ Black Widow (2021) ที่เคยทำเงินเฉลี่ยต่อโรงที่จำนวน 21,309 ดอลลาร์สหรัฐ และ 19,400 ดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ
ภาพ: Samir Hussein/WireImage
อ้างอิง: