×

เมื่อใครก็แจ้งเกิดได้บน TikTok ถอดมุมคิด 3 ครีเอเตอร์ ทำยังไงให้ไม่จมหายไปกับกระแส

25.11.2025
  • LOADING...
เมื่อใครก็แจ้งเกิดได้บน TikTok ถอดมุมคิด 3 ครีเอเตอร์ ทำยังไงให้ไม่จมหายไปกับกระแส

ใครจะเชื่อว่าจากงานอดิเรกยามว่าง จะกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล แม้หลายธุรกิจอาจต้องประคองตัว แต่ ‘Influencer Marketing’ กลับเป็นตลาดที่เติบโตสวนกระแส ท่ามกลางการแข่งขันในสนามนี้ทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ

 

เมื่อโซเชียลมีเดียทลายกำแพงกั้น เปิดโอกาสให้ทุกคนก้าวขึ้นมาเป็น ‘ครีเอเตอร์’ หรือเจ้าของพื้นที่หน้าจอได้เพียงแค่ปลายนิ้ว ไม่ใช่แค่ดารา แต่คือใครก็ได้ที่มีสมาร์ตโฟนและเรื่องเล่าที่น่าสนใจ ก็พร้อมจะกระโดดเข้ามาแย่งชิงเวลาจากผู้ชม

 

ข้อมูลจาก เทลสกอร์ แพลตฟอร์มด้าน Influencer Marketing ประเมินว่าในปี 2025 อุตสาหกรรมนี้จะเติบโตต่อเนื่องกว่า 15% และยังมีแนวโน้มขยายตัวไม่หยุด สอดคล้องกับข้อมูลจาก MI Group ที่ชี้ให้เห็นว่า แม้จำนวนอินฟลูเอนเซอร์จะดูเหมือนถึงจุดอิ่มตัว แต่แบรนด์ต่างๆ ก็ยังคงทุ่มงบการตลาดมาที่นี่ เพราะความเชื่อมั่นในพลังของการบอกต่อ

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

สิ่งที่น่าจับตาต่อคือตัวเลขผู้ใช้งาน TikTok ในไทยที่ปัจจุบันพุ่งสูงกว่า 50 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งหมายความว่าประชากรส่วนใหญ่ของประเทศกำลังกระจุกตัวอยู่บนแพลตฟอร์มนี้ และที่น่าสนใจกว่าปริมาณคือพฤติกรรมการใช้งานที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เน้นเสพความบันเทิงเป็นหลัก เริ่มขยายวงกว้างไปสู่การเรียนรู้ การหาข้อมูล จนถึงกลายเป็นช่องทางทำมาหากินที่ไม่อาจมองข้าม

 

ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสะท้อนออกมาผ่านความสนใจของผู้คนที่แตกแขนงไปอย่างหลากหลาย เห็นได้จากแฮชแท็กอย่าง #TikTokพากิน ที่มียอดคอนเทนต์สะสมกว่า 2.6 ล้านโพสต์ หรือกลุ่มคนรักกีฬาที่รวมตัวกันผ่าน #SportsonTikTok ซึ่งเปลี่ยนภาพจำของกีฬาให้กลายเป็นเรื่องที่ย่อยง่ายและเข้าถึงคนในวงกว้าง

 

คำถามสำคัญคือ ในสมรภูมิที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน และใครๆ ก็สามารถลุกขึ้นมาเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ได้ คนทำคอนเทนต์จะยืนระยะอย่างไรให้แตกต่างและยั่งยืน?

 

กรณีศึกษาที่น่าสนใจท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด คือโมเดลของผู้ที่เพิ่งคว้ารางวัลใหญ่จากเวที TikTok Awards Thailand 2025 ซึ่งเมื่อเจาะลึกลงไปในวิธีคิดของทั้งตัวแทน 3 ครีเอเตอร์ จะช่วยฉายภาพให้เห็นว่า ภายใต้คลิปสั้นๆ ที่สร้างรอยยิ้ม แท้จริงแล้วมีกลยุทธ์ทางธุรกิจและการเอาตัวรอดซ่อนอยู่อย่างไร

 

แข่งกับอัลกอริทึมไม่พอ ต้องแข่งกับคนกันเองด้วย ‘ความเร็ว’

 

รางวัลใหญ่ที่สุดของงานอย่าง Creator of the Year ตกเป็นของ โบว์ กัญญารัตน์ ปิยะนันทสมดี (bowkanyaratp) เจ้าของช่องที่เปลี่ยนวิกฤตโควิดให้เป็นโอกาส จนค้นพบสูตรสำเร็จว่าคนดูไม่ได้ต้องการแค่คอนเทนต์กิน แต่ต้องการความเป็น ‘คอมมูนิตี้ครอบครัว’ ที่มีความ ‘เรียล’ (Real) จับต้องได้

 

ความน่าสนใจอยู่ที่กลยุทธ์หลังบ้าน โบว์เปิดเผยอินไซต์สำคัญว่า ‘ความเร็ว’ คือปีศาจที่ครีเอเตอร์ต้องวิ่งแข่งด้วยเสมอ ไม่ใช่แค่แข่งกับช่องอื่น แต่ต้องแข่งกันเองภายในครอบครัวด้วย หากมีคอนเทนต์กระแสเกิดขึ้น ใครถ่ายเสร็จและตัดต่อลงช่องได้ก่อน คนนั้นคือผู้ชนะที่กวาดยอดวิวไปครอง

 

เหตุผลคือพฤติกรรมคนดู หากเห็นคอนเทนต์ซ้ำจากช่องพี่น้องหรือช่องอื่นผ่านตามาแล้ว โอกาสที่จะหยุดดูซ้ำจะลดน้อยลงทันที การชิงพื้นที่การมองเห็นเป็นเจ้าแรกจึงเป็นสำคัญ ไม่แพ้ความท้าทายของการทำคลิปสั้นคือต้อง “มัดใจคนดูตั้งแต่วินาทีแรก”

 

ดังนั้นอีกหนึ่งตัวเลขที่โบว์ให้ความสำคัญมากคือ ‘Retention Rate’ หรืออัตราการดูจนจบ โดยใช้หลักการ “Data โกหกไม่ได้” เข้ามาจับ หากคลิปถูกนำส่งแล้วคนดูสนใจเกิน 50% หรือ 80% ระบบจะดันคลิปนั้นต่อว่าเป็นคลิปคุณภาพ แต่ถ้าตัวเลขต่ำกว่าเกณฑ์ การมองเห็นจะถูกลดทอนทันที

 

เมื่อใครก็แจ้งเกิดได้บน TikTok ถอดมุมคิด 3 ครีเอเตอร์ ทำยังไงให้ไม่จมหายไปกับกระแส 1

 

โบว์จึงใช้วิธีวิเคราะห์กราฟคนดูแบบวินาทีต่อวินาที หากช่วงไหนคนกดออก หรือกราฟดิ่งลง ช่วงเวลานั้นจะถูกตัดทิ้ง หรือปรับเปลี่ยนวิธีเล่าเรื่องใหม่ในคลิปถัดไป และเมื่อไหร่ที่เจอปัญหา Burnout วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือการนอนพัก แล้วตื่นมาวิเคราะห์ใหม่ หากคลิปไหนยอดไม่ดีให้ทิ้งไป แล้วเริ่มใหม่ทันทีโดยไม่เสียเวลานั่งเสียดาย หรือถ้ายังอยากเล่าเรื่องเดิม ก็แค่เปลี่ยนวิธีการนำเสนอใหม่ เพื่อให้คนดูรู้สึกสนุกขึ้นกว่าเดิม

 

เปลี่ยนเรื่องยากให้ง่าย และมองคู่แข่งเป็นเพื่อนร่วมวงการ

 

ขยับมาที่รางวัล Food Creator of the Year อย่าง เคน เจ้าของช่อง paratt_ ผู้จบสายตรงจากสถาบันอาหาร และเคยผ่านงานในร้านระดับมิชลิน แต่กลับเลือกทิ้งกรอบทฤษฎีที่ซับซ้อน แล้วหันมาทำคอนเทนต์ภายใต้แนวคิด Simplify หรือการทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่าย

 

เคนมองว่าการทำอาหารคือปัจจัย 4 ที่ทุกคนควรสนุกกับมันได้ จึงเลือกนำเสนอเมนูสไตล์ Asian Twist ที่ผสมผสานวัตถุดิบเอเชียเข้ากับเทคนิคตะวันตก แต่ย่อยวิธีทำให้ออกมาดูง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อบอกผู้ชมว่า “การเข้าครัวไม่ใช่เรื่องไกลตัว”

 

สิ่งที่น่าสนใจคือทัศนคติต่อ ‘คู่แข่ง’ เคนไม่ได้มองว่าการที่มีครีเอเตอร์หน้าใหม่เกิดขึ้นมากมายเป็นภัยคุกคาม แต่กลับมองว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ยิ่งคนเข้ามาในวงการเยอะ อุตสาหกรรมก็จะยิ่งขยายตัว เม็ดเงินหมุนเวียนมากขึ้น ผู้ว่าจ้างมีสเกลงานที่ใหญ่ขึ้น และรูปแบบธุรกิจก็จะหลากหลายขึ้น สุดท้ายผลพลอยได้จะตกอยู่กับทุกคนในวงการ

 

บทเรียนสำคัญที่เคนฝากไว้คือ “อย่าลืมวันแรกว่าลงคลิปเพราะอะไร” พลังงานและความสุขในวันแรกที่ทำคลิปคือสิ่งที่ดีที่สุด แม้ในวันที่ต้องเจอกับกระแสน้ำเชี่ยวกรากอย่างการเปลี่ยนอัลกอริทึม หรือยอดวิวที่ลดหายไป การยึดมั่นในตัวตนและไม่หยุดทำ คือหนทางเดียวที่จะทำให้ผ่านช่วงเวลานั้นไปได้

 

เมื่อใครก็แจ้งเกิดได้บน TikTok ถอดมุมคิด 3 ครีเอเตอร์ ทำยังไงให้ไม่จมหายไปกับกระแส 2

 

พลิกเรื่องหัวร้อน ให้เป็นคอนเทนต์ ‘Blue Ocean’

 

จากความพ่ายแพ้ของทีมลิเวอร์พูลต่อลีดส์ 2-0 เมื่อ 4 ปีก่อน กลายเป็นจุดกำเนิดของ huafulldooball (หัวฟูดูบอล) เจ้าของรางวัล Sports Creator of the Year คลิปบ่นระบายอารมณ์ที่มีคนดู 40,000 วิว ทำให้รู้ว่ามาถูกทาง แต่ลำพังแค่การวิเคราะห์บอลแบบจริงจัง หรือการบ่นทีมรัก อาจไม่ใช่คำตอบในระยะยาว

 

หัวฟูดูบอลจึงตัดสินไม่อยู่ในกรอบด้วยการหนีจากทะเลแดงที่คนทำข่าวกีฬาเยอะแล้ว ไปสู่การเล่าเรื่องแปลก เรื่องราวในประวัติศาสตร์ หรือมุมมองตลกๆ อย่าง ‘ปลาเตะบอล’ เพื่อสร้างความแตกต่างและขยายฐานคนดูให้กว้างขึ้น

 

กลยุทธ์นี้ทำให้ช่องกลายเป็นพื้นที่ผ่อนคลายสำหรับคอบอล เพราะฟุตบอลเป็นลูกกลมๆ ที่มองได้หลายมุม ไม่จำเป็นต้องเครียดเสมอไป เป้าหมายของช่องจึงไม่ใช่แค่ยอดวิว แต่คือการมอบ ‘กำไร’ ให้กับคนดู หากใครสักคนเครียดจากการเรียนหรือการทำงาน แล้วมาดูคลิป 2 นาทีจนยิ้มได้ นั่นถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

 

สำหรับใครที่อยากเริ่มต้น หัวฟูดูบอลแนะนำให้ลองทำไปก่อนสัก 10 คลิป แล้วนำคลิปที่ยอดวิวดีที่สุดมา ‘แกะ’ ดูอย่างละเอียดว่าพูดคำไหน เปิดคลิปด้วยคำถามอะไร หรือมีจุดไหนที่ดึงคนดูได้ แล้วทำซ้ำในรูปแบบที่เป็นตัวเอง และเมื่อไหร่ที่หมดไฟ วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือการกลับไปดูคลิปเก่าที่เคยทำได้ดี เพื่อเตือนตัวเองว่าเราเดินทางมาไกลแค่ไหน และมีคนรอดูผลงานอยู่อีกมาก

 

บทเรียนจากทั้ง 3 กรณีศึกษา สะท้อนให้เห็นว่าในสนามที่มีผู้เล่นกว่า 16 ล้านคน ความสำเร็จอาจไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ แต่คือส่วนผสมของ Data, ความสม่ำเสมอ และการสร้างเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ซึ่งหากรักษาคุณภาพและเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย พื้นที่สำหรับครีเอเตอร์ตัวจริงก็ยังคงเปิดกว้างเสมอ

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising