×

หลักนิติธรรมไทยยังไม่แฟร์พอ TIJ เสนอสร้างพิมพ์เขียวชาติ ปรับระบบกติกาใหม่ ดันสมดุลอำนาจ คืนความเชื่อมั่น

โดย THE STANDARD TEAM
08.10.2025
  • LOADING...
หลักนิติธรรมไทยยังไม่แฟร์พอ TIJ เสนอสร้างพิมพ์เขียวชาติ ปรับระบบกติกาใหม่ ดันสมดุลอำนาจ คืนความเชื่อมั่น

วันนี้ (8 ตุลาคม) ที่สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย ดร.พิเศษ สอาดเย็น ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย กล่าวในหัวข้อ ‘The State of the Rule of Law in Thailand: Challenges and the Imperative for National Collaboration’ บนเวทีสาธารณะด้านหลักนิติธรรม ครั้งที่ 3

 

ดร.พิเศษกล่าวว่า วันนี้ผมอยากชวนทุกท่านมองประเทศไทยในภาพที่ง่ายขึ้น ให้ลองจินตนาการว่า ประเทศของเรา คือ สนามแข่งขัน (Playing Field) และหลักนิติธรรม คือ กติกา ที่ทำให้ทุกคนเล่นได้อย่างเป็นธรรม ถ้าสนามไม่เรียบ กรรมการลำเอียง หรือบางคนไม่ต้องเล่นตามกติกา ผลการแข่งขันย่อมไม่สะท้อนความสามารถที่แท้จริงของผู้เล่น นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับระบบของเราในวันนี้

 

เมื่อพูดถึงหลักนิติธรรม คือ มาตรฐานของสนาม ที่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กติกาเดียวกัน มันมีทั้ง เส้นขอบสนาม (ตัวบทและองค์กร) และวิธีตัดสินเกม (กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย แต่ในความเป็นจริง สนามแข่งขันของเรายังเอียงอยู่ไม่น้อย ฝ่ายที่มีอำนาจบางฝ่ายอาจได้เปรียบกว่าคนอื่น กติกาบางข้อถูกใช้เฉพาะบางเวลา กรรมการเองหลายครั้งก็ถูกกดดันจากทั้งภายในและภายนอกสนาม นี่คือสาเหตุที่ผู้เล่นจำนวนมากโดยเฉพาะคนตัวเล็ก เริ่มหมดศรัทธาในเกม

 

เราพยายามซ่อมสนาม ปรับเส้น ปรับเกณฑ์ แต่เหมือน กลัดกระดุมเม็ดแรกไม่ถูก เพราะสิ่งที่ต้องแก้ ไม่ใช่เพียงแค่กติกา แต่คือระบบการกำกับอำนาจทั้งหมด ที่อยู่เบื้องหลังสนามนี้ เราต้องออกแบบสนามแข่งขันใหม่ ที่ตั้งอยู่บนหลักนิติธรรมอย่างแท้จริง

 

ในสามเหลี่ยมของ Rule of Law – Democracy – Governance สมดุลของอำนาจต้องตั้งตรงนั้น ไม่ให้ฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร หรือตุลาการรุกล้ำกันเกินควรและไม่ให้มีผู้เล่นพิเศษที่อยู่เหนือเกม สมดุลนี้ยังรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน และราชการในฐานะผู้ให้บริการ กับประชาชนในฐานะผู้รับบริการ

 

ถ้าความสัมพันธ์นี้ตั้งอยู่บนความเชื่อมั่น กติกาก็จะมีพลัง ประชาชนจะรู้สึกว่ารัฐกับตนอยู่ทีมเดียวกัน แต่เมื่อความเชื่อมั่นถดถอย เกมก็จะกลายเป็นการแข่งที่ไม่มีใครอยากเล่น ต้นทุนของรัฐบาลสูงขึ้น ต้นทุนของประชาชนก็สูงขึ้น นี่คือต้นทุนแห่งความไม่ไว้วางใจ ที่กัดกินประเทศอย่างเงียบๆ

 

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก The World Justice Project (WJP) ปี 2024 ชี้ว่าประเทศไทยได้คะแนน 0.50 จาก 1.00 อยู่อันดับ 78 จาก 142 ประเทศ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก (0.55) และเอเชีย–แปซิฟิก (0.59) ปัจจัยอ่อน คือ การจำกัดอำนาจรัฐ (Constraints on Government Powers) การปราศจากคอร์รัปชัน (Absence of Corruption) และการบังคับใช้กฎหมาย (Regulatory Enforcement)

 

10 ปีที่ผ่านมา คะแนนเราแทบไม่ขยับ จาก 0.52 (ปี 2015) มาเป็น 0.50 (ปี 2024) เราจึงไม่ถอยหลัง แต่นิ่งในขณะที่โลกกำลังวิ่งไปข้างหน้า สนามของเราไม่พัง แต่ยังไม่แฟร์พอ ที่จะทำให้ผู้เล่นทุกคนอยากลงแข่ง

 

ขณะที่ ในปี 2025 Moody’s ปรับแนวโน้มไทยจาก Stable เป็น Negative ในขณะที่ OECD คาดว่า GDP จะโตเพียง 2.0% จาก 2.5% ในปีก่อน แรงงานกว่าครึ่งของประเทศยังอยู่ในระบบเศรษฐกิจไม่เป็นทางการ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่มันบอกว่าระบบเกมของเรายังไม่สร้างแรงจูงใจที่ถูกต้อง นักลงทุนลังเล ประชาชนขาดแรงบันดาลใจ เพราะไม่มั่นใจว่าเกมนี้เล่นแล้วชนะด้วยฝีมือ ได้จริงหรือไม่ หลายคนอาจเริ่มหมดหวัง แต่ผมอยากชวนให้มองอีกแบบ เราไม่จำเป็นต้องทุบสนามทิ้ง เพียงแต่ต้องปรับองศาของสนามให้เรียบ และเที่ยงตรง

 

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีเช็ก วาตสลัฟ ฮาเวล เคยระบุไว้ว่า “Hope is not the state of the world, But The State of the Mind.” ความหวังไม่ใช่สิ่งที่เรารอให้เกิดเอง แต่คือการตัดสินใจจะลงสนามอีกครั้ง เพราะเรายังเชื่อในคุณค่าของเกม เชื่อว่ายังมีทางทำกติกาให้มันแฟร์ได้จริง

 

ดร.พิเศษกล่าวต่อว่า นี่คือสิ่งที่ TIJ ตั้งใจจะทำ ที่ไม่ใช่เป็นผู้เล่น หรือกรรมการ แต่เป็นผู้ดูแลสนาม ทำให้ทุกฝ่ายมาเจอกันได้อย่างเท่าเทียม พูดคุยบนฐานข้อมูลเดียวกัน และมองเห็นอนาคตทิศทางเดียวกัน

 

1. สร้างพื้นที่กลาง (Common Ground) โดย TIJ พร้อมทำหน้าที่เป็นสนามกลาง ที่เปิดให้ทุกภาคส่วน นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และคนรุ่นใหม่ ได้มาพูดคุย แลกเปลี่ยน และร่วมออกแบบกติกาใหม่ของประเทศ

 

2. จัดทำพิมพ์เขียวระดับชาติ (National Blueprint) เราจะร่วมกันสร้าง เข็มทิศและองศาใหม่ของประเทศ Blueprint ที่ระบุเป้าหมาย ตัวชี้วัด และภารกิจร่วมกัน เป็น Living Document ที่ตรวจสอบได้ และสร้างความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างภาคส่วน ไม่ใช่เงื่อนไขตายตัว แต่จะเป็นสิ่งที่ทำให้ดีขึ้น

 

3. ดึงพันธมิตรระหว่างประเทศ มาช่วยเสริมกำลัง เราจะเทียบเข็มกับมาตรฐานสากล โดยร่วมมือกับ OECD, WJP และ UN เรียนรู้จากประเทศที่สนามแข่งขันของเขาแฟร์กว่า เพื่อออกแบบของเราให้เหมาะกับบริบทไทย ไม่ใช่คัดลอก แต่คือการปรับองศาให้เข้ากับภูมิประเทศของเราเอง

 

ดร.พิเศษ กล่าวทิ้งท้าย เรารู้แล้วว่าประเทศไทยอยู่ตรงไหนของสนามโลก เรามีเข็มทิศที่ชื่อว่า หลักนิติธรรม สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ ปรับองศาการเดินของประเทศให้ตรงกับเข็มทิศนั้น เพราะหลักนิติธรรมคือ สนาม Blueprint คือ องศา ส่วน TIJ และพันธมิตรคือ ผู้ดูแลสนาม และประชาชนคือ ผู้เล่นทุกคนบนสนาม ที่จะทำให้เกมนี้ดำเนินต่อไปได้อย่างมีความหวัง ถ้าทุกท่านเชื่อเหมือนผมว่า ถึงเวลาแล้ว เราไม่ต้องรอให้พร้อมไปกว่านี้ และ TIJ พร้อมเดิน และพร้อมดูแลสนามนี้ไปกับทุกคน เพื่ออนาคตที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising