×

สธ. ย้ำ หลังคลายล็อกยังต้องคุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 เฝ้าระวังชายแดนใต้ลักลอบข้ามแดน

โดย THE STANDARD TEAM
31.01.2021
  • LOADING...
สธ. ย้ำ หลังคลายล็อกยังต้องคุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 เฝ้าระวังชายแดนใต้ลักลอบข้ามแดน

วันนี้ (31 มกราคม) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทยว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 829 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 822 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 7 ราย ทำให้ผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ (15 ธันวาคม 2563 ถึง 31 มกราคม 2564) มีจำนวน 14,545 ราย ทั้งนี้ในช่วง 4-5 วันที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 700-800 ราย เกินกว่า 96% อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร มาจากการค้นหาเชิงรุกที่ตั้งเป้าตรวจอย่างน้อยวันละ 10,000 ราย และจะนำข้อมูลผลการตรวจเชื้อไปปรับมาตรการควบคุมโรคต่อไป ส่วนจังหวัดอื่นๆ ควบคุมสถานการณ์ได้ดีและรวดเร็ว เมื่อพบผู้ติดเชื้อมีการสอบสวนโรคและกักกันผู้สัมผัส ทำให้ไม่มีการแพร่ระบาดเพิ่มเติม

 

ทั้งนี้ ประเทศเพื่อนบ้านยังคงพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนใต้ที่ยังต้องเฝ้าระวังการลักลอบเข้าประเทศอย่างเข้มงวด เนื่องจากมาเลเซียยังมีการระบาดสูงและมีมาตรการล็อกดาวน์ ให้คนต่างชาติกลับประเทศ ขณะนี้ยังพบผู้ลักลอบเข้ามาทางพรมแดนธรรมชาติ เช่น กรณีหญิงอายุ 31 ปี ทำงานสถานบันเทิงในมาเลเซีย เดินทางข้ามพรมแดนธรรมชาติมากับหญิงไทยอีก 2 คน นั่งรถจากสุไหงโก-ลกถึงหาดใหญ่ และเช่ารถตู้มาสถานีขนส่งหมอชิต กรุงเทพฯ ต่อมาไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการแล้วพบเชื้อโควิด-19 จึงขอให้ผู้ที่มีญาติทำงานอยู่ในต่างประเทศและผู้ที่จะเดินทางกลับเข้าประเทศเข้ามาตามระบบเพื่อรับการกักกัน หากติดเชื้อจะได้รับการดูแลรักษาเพื่อไม่ให้แพร่เชื้อสู่ชุมชน และไม่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

“ในการสอบสวนโรค เราไม่ได้เชื่อไทม์ไลน์ที่ผู้ป่วยให้ทั้งหมด เนื่องจากมีการให้ข้อมูลจริงและไม่จริง หรือบางครั้งจำไม่ได้ ต้องเอาหลักฐานต่างๆ มาประกอบกัน ไทม์ไลน์กับจุดเชื่อมโยงจึงไม่สามารถบอกได้ในวันเดียว ต้องมีการสอบทานว่าให้ข้อมูลตรงกันครบถ้วนหรือไม่ กว่าจะได้ข้อมูลก็ใช้เวลาเช่นกัน และบางกรณีไทม์ไลน์อาจเปลี่ยนแปลงจากหลักฐานที่ไม่สอดคล้องกันก็ไม่ต้องกังวล เนื่องจากวัตถุประสงค์ของไทม์ไลน์คือต้องการให้เห็นว่าผู้ติดเชื้อไปตรงไหนบ้าง เพื่อแจ้งประชาชนที่อยู่จุดเดียวกันมารับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ในการสอบสวนโรคเพื่อไม่ให้โรคแพร่ระบาด เช่น กรณีลักลอบเดินทางมาจากมาเลเซีย มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าสวมหน้ากากตลอดตามที่ให้ข้อมูล ทำให้ลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ หรือกรณีสมุทรปราการที่ติดเชื้อในบริษัท 21 ราย ก็ใช้เวลาสอบทานข้อมูลจนถึงได้ไทม์ไลน์และจุดเชื่อมโยง” นพ.โอภาสกล่าว

 

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่ากรณีจังหวัดสมุทรปราการพบว่าเกี่ยวเนื่องกับสองเหตุการณ์คือ พนักงานบริษัทหญิงเมียนมา อายุ 19 ปี ติดเชื้อคนแรก จากการตรวจคนในบริษัท 281 คน พบติดเชื้อ 18 คน เป็นคนเมียนมา 15 คน คนไทย 2 คน และกัมพูชา 1 คน นอกจากนี้ยังไปตรวจเชิงรุกในชุมชนตลาดโต้รุ่ง พบผู้ติดเชื้ออีก 2 คน เนื่องจากเป็นชุมชนแออัด มีคนกว่า 2,000 คน จึงลงไปตรวจหาเชื้ออีกครั้ง ถือว่าควบคุมได้รวดเร็ว ติดตามผู้สัมผัสได้ ส่วนกรณีไอคอนสยามเป็นการติดเชื้อในพนักงานร้านอาหารจากการมีกิจกรรมงานเลี้ยงในกลุ่ม โดยตรวจพนักงานกว่าร้อยคน พบการติดเชื้อ 7 คน และได้ปิดสถานที่ทำความสะอาดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ถือว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ส่วนไทม์ไลน์ที่มีการออกมาเพิ่มนั้นเป็นการทำไทม์ไลน์อย่างละเอียดของผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบ 7 คน ถือเป็นกรณีเดิม ไม่ใช่กรณีใหม่ สำหรับกรณีกลุ่มเสี่ยงสูง แม้ว่าผลตรวจ 2 ครั้งไม่พบเชื้อก็จะต้องกักตัวอยู่ที่บ้านจนครบ 14 วัน และปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดเพื่อให้คนในชุมชนปลอดภัย

 

“การติดเชื้อไม่ได้ติดได้ง่ายๆ ไม่ใช่ว่าเดินผ่านแล้วติด เราไม่พบการติดเชื้อจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ขึ้นรถไฟฟ้าหรือรถเมล์แล้วติดเชื้อ จุดสำคัญในการติดเชื้อคือการไม่สวมหน้ากาก ไม่เว้นระยะห่าง นั่งใกล้ชิดกัน อยู่ในสถานที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท บริเวณจุดสัมผัสในห้องน้ำ การรับประทานอาหารร่วมกันนานๆ งานปาร์ตี้สังสรรค์ คนในบ้านที่อยู่ใกล้ชิดร่วมกัน เพื่อนร่วมงาน สถานบันเทิง ดังนั้นประชาชนอย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง โดยเราสามารถเลือกการใช้ชีวิตได้ เช่น เลือกซื้อของกับคนที่ป้องกัน ใส่หน้ากาก สถานบันเทิงที่กลับมาเปิดให้ดื่มสุราได้ก็ต้องเลือกร้านที่พนักงานใส่หน้ากาก อากาศถ่ายเทสะดวก และเมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ จังหวัดพื้นที่สีเขียวใช้ชีวิตได้ตามปกติแบบ New Normal คือต้องใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ก็จะปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งสแกนไทยชนะ ลงทะเบียนหมอชนะ เพื่อช่วยให้การสอบสวนโรคสะดวก ควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว” นพ.โอภาสกล่าวในที่สุด

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising