×

ไขทุกข้อสงสัย มาตรการ ‘เที่ยวดี มีคืน’ มัดรวมคำถาม-คำตอบ 22 ข้อ

03.11.2025
  • LOADING...
ไขทุกข้อสงสัย มาตรการ ‘เที่ยวดี มีคืน’ มัดรวม คำถาม-คำตอบ 22 ข้อ

รวมข้อสงสัย มาตรการ ‘เที่ยวดี มีคืน’ มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ประกอบด้วย มาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านฝึกอบรม ประชุม และสัมมนาของภาครัฐ และมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก

 


 

รวมคำถามสำหรับ ‘บุคคลธรรมดา’

 

1. โฮมสเตย์ไทยที่เข้าข่ายตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ (สำหรับบุคคลธรรมดา) คือโฮมสเตย์ไทยใดบ้าง?

 

ตอบ: โฮมสเตย์ตามประกาศกรมการก่องเที่ยว เรื่อง รายชื่อโฮมสเตย์ที่ได้รับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อโฮมสเตย์ได้ที่ https:/www.dot.go.th/news/inform/detail/7918 และโฮมสเตย์นั้นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร

 

2. ร้านอาหารต้องเป็นร้านอาหารในโรงแรมที่พักหรือไม่?

 

ตอบ: เป็นร้านอาหารใดก็ได้ไม่จำกัดว่าต้องเป็นร้านอาหารในโรงแรมที่พัก และไม่จำเป็นต้องมีการพักโรงแรม โฮมสเตย์ หรือสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม จึงสามารถหักลดหย่อนค่าบริการของร้านอาหาร การท่องเที่ยวโดยไม่มีการเข้าพักดังกล่าว ก็สามารถหักลดหย่อนค่าบริการของร้านอาหารได้เช่นกัน

 

3. ค่าบริการของร้านอาหารคือค่าใช้จ่ายใด?

 

ตอบ: 1. ค่าอาหาร 2. ค่าเครื่องดื่ม 3. ค่าบริการอื่น ๆ ในการใช้บริการของร้านอาหาร เช่น Service Charge

 

4. ผู้มีเงินได้สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวที่สามารถออก e-Tax Invoice ได้จากที่ใด?

 

ตอบ: สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร

 

5. e-Tax Invoice คืออะไร และแตกต่างจากใบคำกับภาษีในรูปแบบกระดาษอย่างไร?

 

ตอบ: e-Tax Invoice คือ ใบกำกับภาษีที่ได้มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ผู้มีเงินได้ไม่ต้องเก็บรักษาใบกำกับภาษีและไม่ต้องจัดส่งให้กรมสรรพากรในการใช้สิทธิตามมาตรการภาษีนี้ โดยสามารถใช้ข้อมูล e-Tax Invoice ในฐานข้อมูลของกรมสรรพากรในการยื่นแบบแสดงรายการภาษี และเจ้าหน้าที่จะไม่ขอให้ส่งใบกำกับภาษีอีก

 

6. ระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) กับระบบการขอใบกำกับภาษี โดยการประทับรับรองเวลา (e-Tax Invoice by Time Stamp) แตกต่างกันอย่างไร?

 

ตอบ: แตกต่างกันที่วิธีการจัดทำและการนำส่ง e-Tax Invoice แต่ e-Tax Invoice ที่จัดทำจากทั้ง 2 ระบบสามารถเป็นหลักฐานในการใช้สิทธิตามมาตรการภาษีนี้

 

7. ผู้ประกอบการจดเบียนภาษีมูลเพิ่มสามารถสมัคร e-Tax Invoice ได้อย่างไร

 

ตอบ: ผู้ประกอบการสามารถสมัคร e-Tax Invoice ได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร ในกรณีที่ผู้ประกอบการต้องการสมัคร e-Tax Invoice by Time Stamp สามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากรเช่นกัน

 

8. ต้องใช้หลักฐานใดในการใช้สิทธิตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ในประเทศ (สำหรับบุคคลธธรรมดา)?

 

ตอบ: หลักฐานที่ใช้ คือ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากรในรูปแบบกระดาษหรือในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ซึ่งรวมถึง e-Tax Invoice by Time Stamp ทั้งนี้ ใบกำกับภาษีต้องระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้มีเงินได้ และต้องมี วัน เดือน ปีที่เข้าพักหรือรับบริการจากร้านอาหารและจังหวัดที่ที่พักหรือร้านอาหารตั้งอยู่

 


 

รวมคำถามสำหรับ ‘มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล’

 

1. ห้องพักและห้องสัมมนาต้องอยู่ที่เดียวกันหรือไม่

 

ตอบ: ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่เดียวกัน

 

2. รายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องในการอบรมสัมมนาคือรายจ่ายใด

 

ตอบ: ค่าใช้จ่ายเพื่อการจัดการ ค่าวิทยากร และค่าวัสดอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการอบรมสัมมนา เช่น ค่าเอกสารประกอบการอบรม ค่าจ้างถ่ายเอกสาร ค่าบันทึกภาพและเสียง ค่าจัดทำสื่อที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรม เป็นต้น

 

3. ผู้ต้องการใช้สิทธิสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการที่สามารถออก e-Tax Invoice และ e-Receipt ได้จากที่ใด

 

ตอบ: สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร https://etax.rd.go.th/ETAXSEARCH/

 

4. e-Tax Invoice และ e-Receipt คืออะไร และแตกต่างจากใบกำกับภาษีและใบรับในรูปแบบกระดาษอย่างไร และระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) กับระบบการขอทำใบกำกับภาษี โดยการประทับรับรองเวลา (e-Tax Invoice by Time Stamp) แตกต่างกันอย่างไร

 

ตอบ: e-Tax Invoice และ e-Receipt คือ ใบกำกับภาษีและใบรับที่ได้มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไม่ต้องเก็บรักษาใบกำกับภาษีและใบรับ และไม่ต้องจัดส่งให้กรมสรรพากรในการใช้สิทธิหักรายจ่ายตามมาตรการภาษีนี้ โดยสามารถใช้ข้อมูล e-Tax Invoice และ e-Receipt ในฐานข้อมูลของกรมสรรพากรในการยื่นแบบแสดงรายการภาษี และเจ้าหน้าที่จะไม่ขอให้ส่งใบกำกับภาษีหรือใบรับอีก

 

5. ผู้ประกอบการสามารถสมัคร e-Tax Invoice และ e-Receipt ได้อย่างไร

 

ตอบ: ผู้ประกอบการสามารถสมัคร e-Tax Invoice และ e-Receipt ได้ที่เว็บโชต์ของกรมสรรพากร ในกรณีที่ผู้ประกอบการต้องการสมัคร e-Tax Invoice by Time Stamp สามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากรเช่นกัน

 

6. ต้องใช้หลักฐานใดในการใช้สิทธิหักรายจ่ายตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ

 

ตอบ: หลักฐานที่ใช้ คือ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตร 86/4 แห่งประมวลรัษฎากรในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เว้นแต่ค่าขนส่งที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการที่มิได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ใช้ใบรับตามมาตรา 105 แห่งประมวลรัษฎากรที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt)

 

7. ผู้ใช้สิทธิสามารถขอ e-Tax Invoice และ e-Receipt จากผู้ประกอบการได้อย่างไร

 

ตอบ: หากเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติให้ออก e-Tax Invoice หรือ e-Receipt จากกรมสรรพากร ผู้ใช้สิทธิสามารถแจ้งความประสงค์ต่อผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ออก e-Tax Invoice เว้นแต่ค่าขนส่งสามารถแจ้งความประสงค์ต่อผู้ประกอบการที่มิได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ออก e-Receipt

 

8. ผู้ต้องการใช้สิทธิต้องจัดทำโครงการอบรมสัมมนาหรือไม่

 

ตอบ: ต้องจัดทำโครงการอบรมรมสัมมนา โดยมีเอกสารหลักฐานประกอบโครงการ

 


 

รวมคำถามสำหรับ ‘มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก’

 

1. เครื่องตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นส่วนประกอบและยึดติดกับอาคารเป็นการถาวร มีลักษณะอย่างไร

 

ตอบ: ต้องไม่อาจแยกจากอาคารได้ นอกจากจะทำลาย ทำให้บบสลาย หรือทำให้ให้เปลี่ยนแปลงรูปทรงหรือสภาพไป

 

2. โรงแรมที่สามารถใช้สิทธิหักรายจ่ายตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก มีอะไรบ้าง

 

ตอบ: โรงแรมตามพระราชบัญญัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 ซึ่งหมายถึง สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจ เพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคคลอื่นใด โดยมีค่าตอบแทน และแบ่งเป็น 4 ประเภท ดังนี้

 

1.) โรงแรมประเภท 1 หมายความว่า โรงแรมที่ให้บริการเฉพาะห้องพัก และมีห้องพักไม่เกิน50 ห้อง

2.) โรงแรมประเภท 2 หมายความว่า โรงแรมที่ให้บริการเฉพาะห้องพักเกิน 50 ห้องขึ้นไป หรือโรงแรมที่ให้บริการห้องพักและห้องอาหารหรือสถานที่สำหรับบริการอาหารหรือสถานที่สำหรับประกอบอาหาร

3.) โรงแรมประเภท 3 หมายความว่า โรงแรมที่ให้บริการห้องพัก ห้องอาหารหรือสถานที่สำหรับบริการอาหารหรือสถานที่สำหรับประกอบอาหาร และสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการหรือห้องประชุมสัมมนา

4.) โรงแรมประเภท 4 หมายความว่า โรงแรมที่ให้บริการห้องพัก ห้องอาหารหรือสถานที่สำหรับบริการอาหารหรือสถานที่สำหรับประกอบอาหาร สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการและห้องประชุมสัมสัมมนา

 

3. หากปรับปรุงโรงแรมไม่แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2569 แต่ได้มีการจ่ายเงินไปแล้ว จะใช้สิทธิหักรายจ่ายตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พักได้หรือไม่ อย่างไร

 

ตอบ: ไม่สามารถใช้สิทธิได้ เนื่องจากต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตามประสงค์ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2569

 

4. หากจ้างออกแบบปรับปรุงโรงแรมโดยจ่ายเงินภายในวันที่ 31 มีนาคม 2569 แต่ปรับปรุงโรงแรมไม่แล้วเสร็จและไม่พร้อมใช้งานภายในวันที่ 31 มีนาคม 2569 จะสามารถใช้สิทธิตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พักได้หรือไม่

 

ตอบ: ไม่สามารถใช้สิทธิได้ อย่างไรก็ดี หากมีการลงทนปรับปรงโรงแรมแล้วเสร็จและพร้อมใช้งานตามประสงค์ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2569 และมีการบันทึกค่าจ้างออกแบบดังกล่าว รวมอยู่ในบูลค่าของทรัพย์สินก็สามารถใช้สิทธิได้

 

5. การซ่อมแซมอาคารสามารถใช้สิทธิตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พักได้หรือไม่

 

ตอบ: หากเป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม ไม่สามารถใช้สิทธิได้

 

6. หากต้องการใช้สิทธิตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก จะต้องดำเนินการอย่างไร และต้องใช้หลักฐานใด

 

ตอบ:

 

1.) ต้องจัดทำโครงการลงทุนและแผนการจ่ายเงินและแจ้งต่ออธิบดีกรมสรรพากรผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร (http://www.rd.go.th) ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2569

 

2.) ต้องจัดทำรายงานแสดงรายละเอียดของทรัพย์สินที่ใช้สิทธิตามที่อธิบดีกรมสุรรพากร ประกาศกำหนดและเก็บรักษารายงานดังกล่าว รวมทั้งเอกสารประกอบการลงรายการ ในรายงานไว้ ณ สถานประกอบการ พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้ ทั้งนี้ เอกสารหลักฐานดังกล่าวต้องมีสัญญา ใบสั่งซื้อ ใบสั่งจ้าง หรือข้อตกลงในลักษณะทำนองเดียวกันรวมอยู่ด้วย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising