หากพูดชื่อ ติอาโก รีช ชื่อนี้คงไม่ใช่ชื่อที่ใครจะรู้จักกันในวงกว้าง เพราะเขาไม่ใช่นักฟุตบอล ไม่ใช่แม้แต่โค้ช และหากย้อนกลับไปก่อนปี 2012 เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับสโมสรฟุตบอลเลยด้วยซ้ำ หากแต่เป็นเพียงแค่แฟนบอลธรรมดาๆ ที่เชียร์สโมสรที่มีชื่อว่า เอฟซี ซานตา ครูซ ดู โซล สโมสรในลีกรองของประเทศบราซิลเท่านั้น
แต่เมื่อไม่นานมานี้ ชื่อของเขาถูกค้นหาและพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างมาก หลังมีภาพที่เป็นไวรัลของเขาใน 2 ช่วงเวลาที่แตกต่างกัน มาเปรียบเทียบพร้อมเล่าเรื่องราวของเขาสั้นๆ
ทุกวันนี้ หากนำชื่อของเขาที่เขียนด้วยภาษาอังกฤษไปหาในโลกออนไลน์ก็จะพบกับเรื่องราวมากมายของเขา เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจ และเต็มไปด้วยความรักต่อฟุตบอลอย่างยิ่งยวด
แฟนบอลพันธุ์แท้ของทีมเล็กๆ
ซานตา ครูซ ดู โซล เมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของประเทศบราซิล ห่างจากเมืองใหญ่ที่สุดทางตอนใต้อย่างปอร์ตูอัลเลเกรไปทางตะวันตกราว 150-160 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดแวะพักหากจะเดินทางด้วยรถยนต์ระหว่างปอร์ตูอัลเลเกรกับซานตามาเรีย
เมืองแห่งนี้ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากนัก สิ่งเดียวที่พอจะมีชื่อเสียงของเมืองนี้ (แน่นอนว่าไม่ใช่ฟุตบอล) ก็คืองาน อ็อกโทเบอร์เฟสต์ (Oktoberfest) ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี อันเป็นผลมาจากการที่ในเมืองแห่งนี้ มีชาวเยอรมันอพยพมาอยู่ไม่น้อย
ด้วยความที่เป็นเมืองชั้นรองของบราซิล ทีมฟุตบอลของพวกเขาก็เป็นสโมสรฟุตบอลในลีกรองด้วย แน่นอนว่าแฟนบอลให้การสนับสนุนไม่มาก เพราะส่วนใหญ่ปันใจไปเชียร์เกรมิโอ หรือไม่ก็อินเตอร์นาซิอองนาล 2 สโมสรใหญ่ในลีกสูงสุดอย่างบราซิลเซเรีย อา ซึ่งเป็นสโมสรชั้นนำในภูมิภาคกันหมดแล้ว
ขณะที่สโมสรในท้องถิ่นของเมืองนี้ซึ่งเล่นกันในระดับลีกภูมิภาคมีอยู่ 2 สโมสรด้วยกันคือ เอฟซี ซานตาครูซ ดู โซล (เรียกสั้นๆ ว่า เอฟซี ซานตาครูซ) กับเอสปอร์เต คลับ อเวนิดา (อีซี อเวนิดา) ซึ่งแน่นอนว่า ทั้ง 2 ทีมเป็นคู่ปรับร่วมเมือง และใช้สนามแห่งเดียวกัน
ภาพ: Tiago André Rech
ด้วยความที่ไม่ใช่เมืองใหญ่ สนามฟุตบอลของพวกเขาเลยมีแค่แห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งสนามแห่งนี้มีความจุแฟนบอลราว 7,000 ที่นั่ง และพวกเขาเล่นในสนามนี้เฉพาะในการแข่งขันชิงแชมป์มลรัฐเท่านั้น ซึ่งปกติจะจัดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน แต่เรื่องราวของ ติอาโก รีช ที่จะกลายเป็นตำนานไม่ได้เกิดขึ้นที่สนามแห่งนี้
ไม่ต่างจากวัยรุ่นทั่วไปที่ต้องเข้าไปแสวงหาโอกาสในเมืองใหญ่ ติอาโก รีช ก็เช่นกัน เขาต้องเขาไปหางานที่ปอร์ตูอาเลเกร โดยเขาทำงานเป็นนักข่าว แน่นอนว่าการอยู่ต่างเมืองทำให้เขาได้มีโอกาสดูเอฟซี ซานตาครูซ น้อยลงเป็นเรื่องธรรมดา แต่เขายังคงเข้าสนามไปดูทีมรักเสมอเมื่อมีโอกาส
รีชอธิบายว่า “ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่เหมือนผมเชื่อมโยงกับซานตาครูซอยู่เสมอ พวกเขาเป็นสโมสรแรกของผมและเป็นส่วนสำคัญในชีวิตช่วงวัยรุ่น ผมชอบบรรยากาศของสนามกีฬาเล็กๆ เราไปที่นั่นเพื่อพบปะเพื่อนฝูง บางทีก็กินฮอตดอกในสนามด้วยกัน”
จากแฟนบอลสู่ประธานสโมสร
จุดเริ่มต้นตำนานของ ติอาโก รีช เกิดขึ้นในวันหนึ่งช่วงต้นปี 2012 มันเป็นวันที่มีเกมระหว่างทีมรักของเขาอย่างเอฟซี ซานตาครูซ ซึ่งจะเดินทางมาเยือนเกรมิโอ โดยออฟฟิศของเขาก็อยู่ไม่ห่างจากสนามเกรมิโอ อารีนามากนัก ชนิดที่เดินด้วยเท้าไปได้ ทำให้เขาตัดสินใจตั้งแต่ทราบโปรแกรมเลยว่า จะไปอยู่ในสนามเพื่อชมเกมดังกล่าว
เขาคิดตั้งแต่แรกแล้วว่า แฟนบอลที่มาเชียร์เอฟซี ซานตาครูซ ดู โซล จะมีน้อย เพราะเกมนั้นเป็นเกมคืนวันเสาร์ในฤดูร้อน ทำให้มีผู้คนจำนวนมากมุ่งหน้าไปที่ชายหาด เขาไปถึงสนามก่อนฟุตบอลแข่งขันราว 15 นาที แต่พนักงานหญิงที่ขายตั๋วบอกว่า เขาเป็นแฟนทีมเยือนคนแรกที่มาถึง
รีชยังมองในแง่ดีว่า บางทีรถบัสขนแฟนบอลที่มาจากเมืองซานตาครูซ ดู โซล ดีเลย์ ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็อาจเดินทางมาถึงแล้ว แต่ยังคงดื่มกันอยู่ที่บาร์ใกล้ๆ เขาเข้าไปในสนามและเวลาก็ผ่านไปจนเกมเริ่มไปได้ 5 นาที…10 นาที และเมื่อถึงนาทีที่ 15 เขาก็แน่ใจว่า เขาเป็นคนเดียวที่มาเชียร์เอฟซี ซานตาครูซ บนอัฒจันทร์ทีมเยือนในเกมนี้
อันที่จริงแล้ว ติอาโก รีช ไม่ใช่แฟนบอลเอฟซี ซานตาครูซ คนเดียวในเกมนั้น หากแต่แฟนบอลทั้งหมดที่มาเชียร์ทีมเยือน นั่งรวมอยู่กับแฟนบอลของเกรมิโอ เนื่องจากเกมดังกล่าวเป็นเกมกระชับมิตร ทำให้ตั๋วฝั่งเจ้าบ้าน ซึ่งเป็นอัฒจันทร์ที่เห็นเกมได้ชัดเจนกว่ายังเหลือที่นั่งว่าง ส่งผลให้แฟนทีมเยือนเลือกที่จะนั่งในทำเลที่ดีกว่าแถมตั๋วเจ้าบ้านยังถูกกว่าตั๋วทีมเยือนด้วย
“พวกเขาอยู่ในสนาม แต่แค่ไม่ได้อยู่กับผม” รีชสรุปสั้นๆ
อย่างไรก็ตาม รีชไม่ได้สนใจว่าเขาเป็นเพียงแฟนบอลทีมเยือนคนเดียวในสนาม เขาเชียร์อย่างเต็มที่ และเมื่อซานตา ครูซ ดู โซล ทำประตูได้ในนาทีที่ 17 เขาจึงกลายเป็นคนเดียวที่กล้องถ่ายทอดสดจับไปหา นอกจากนี้ในช่วงท้ายเกมดังกล่าว ซึ่งผลจบลงด้วยสกอร์ที่เกรมิโอเอาชนะไปได้ 4-1 เขาแสดงอาการเซ็งอย่างชัดเจน ซึ่งภาพดังกล่าวถูกถ่ายไว้ด้วย
ภาพ: Tiago André Rech
อย่างไรก็ตามการที่เขากลายเป็นแฟนบอลคนเดียวที่ตามไปเชียร์สโมสร ทำให้รีชกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน เขาได้รับการติดต่อจากนักข่าวท้องถิ่นและนักข่าวระดับประเทศ รวมไปถึงนักข่าวต่างชาติ เพื่อขอสัมภาษณ์ ขณะที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นลงข่าวด้วยรูปของเขาแล้วพาดหัวว่า ‘อย่าปล่อยให้ผมไปคนเดียว’
ที่สำคัญที่สุด เหตุการณ์นั้น สร้างความสัมพันธ์ให้เขาได้มีตัวตนในสโมสรเอฟซี ซานตาครูซ ดู โซล อย่างเป็นทางการ เพราะสโมสรติดต่อมาขอมอบเสื้อแข่งขันให้เขา ก่อนที่จะชวนเขามาทำงานด้วย
ในปี 2013 รีชกลายเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของสโมสร และหลังจากนั้นก็มีงานกับสโมสรที่เขาต้องรับผิดชอบมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อผ่านไปไม่นาน เขาจึงถูกขอให้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานสโมสร ซึ่งตอนนั้นเขามีวัยเพียงแค่ 27 ปีเท่านั้น
แน่นอนว่าทุกคนคัดค้าน แต่ติอาโกเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง และลงสมัครไปในที่สุด เรื่องแปลกกว่านั้นคือเขาได้รับเลือกให้เป็นประธานสโมสรด้วย
เขาอธิบายว่า “ในสถานการณ์อื่น ผมคงไม่ได้งานนั้นตั้งแต่อายุยังน้อยขนาดนี้ แต่ตอนนั้นสโมสรตกชั้นจากดิวิชัน 1 ของการแข่งขันชิงแชมป์มลรัฐ และบอร์ดบริหารคงคิดว่าถึงเวลาสำหรับเลือดใหม่แล้ว”
ช่วงเวลาล้มลุกคลุกคลาน
การเป็นประธานสโมสรไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาไม่มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจใดๆ ทำให้เขาต้องทำงานหนักกว่าแค่เป็นประธาน เพราะเขาต้องเรียนสิ่งต่างๆ ที่ต้องทำด้วย และนั่นก็นำมาซึ่งปัญหามากมายที่ตามมา
ปัญหาแรกมาหาเขาอย่างรวดเร็ว โดยช่วง 3 เดือนก่อนเข้าสู่ปี 2014 สโมสรก็ประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้รีชต้องขอยืมเงินพ่อของเขา เพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าเหนื่อยให้กับผู้เล่นในสโมสรซานตาครูซ
แม้หลังจากแก้ปัญหาเรื่องการเงินไปแล้ว แต่สถานการณ์หลายๆ อย่างก็ยังดูไม่ดีขึ้น ผลงานในสนามก็ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ จนทำให้ต้องมีการพูดคุยกันเรื่องปิดสโมสรชั่วคราวเลยทีเดียว
เขาเล่าวว่า “ผมประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ผมต้องใช้บัตรเครดิตเพื่อชำระสิ่งต่างๆ มากมาย อย่างค่าเดินทาง ค่าโรงแรม และอื่นๆ
ภาพ: Tiago André Rech
“ตำแหน่งประธานสโมสรเป็นตำแหน่งโดยสมัครใจ และผมก็หยุดทำงานเป็นนักข่าวแล้ว ผมมีชีวิตอยู่ด้วยเงินเก็บและอาศัยอยู่ที่บ้านพ่อแม่ ผมมีหนี้สินมากมาย
“ผมเข้าสู่ภาวะซึมเศร้าเพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้เป็นไปตามที่หวังไว้ สุดท้ายผมคิดว่าผมไม่อยากเป็นประธานทีมฟุตบอลอีกเลย ผมแค่อยากกลับไปเป็นแฟนบอล ไปเป็นติอาโกบนอัฒจันทร์อีกครั้ง”
เขาตัดสินใจเดินออกมาจากตำแหน่งในสโมสรด้วยการลาออก และรักษาระยะห่างโดยเป็นแค่แฟนบอลของทีมอยู่ราว 2-3 ปี ระหว่างนั้นเขาก็หาเงินมาปลดหนี้ และเริ่มทำงานทางการเมือง
แต่จนแล้วจนรอด รีชก็ต้องกลับมาเป็นประธานสโมสรอีกครั้งหลังจบฤดูกาล 2018 เพราะในฤดูกาลนั้น เอฟซี ซานตาครูซ ต้องเจอกับเรื่องสยองขวัญจากการ “แพ้ทุกนัดที่ลงสนาม” ไม่เว้นแม้แต่เกมกระชับมิตร ทำให้เมื่อจบฤดูกาลพวกเขาร่วงไปอยู่ดิวิชัน 3 ของศึกชิงแชมป์ลีกท้องถิ่น
และนั่นเองที่ทำให้ชายที่ชื่อว่า ติอาโก รีช กลับมาเป็นประธานสโมสรซานตาครูซ ดู โซล อีกครั้งเพื่อแก้ไขความผิดพลาด ทั้งของทีมในฤดูกาลที่ผ่านมา และของตัวเขาเองในการเป็นประธานหนแรก
แล้วดอกไม้จะผลิบาน
ในการเป็นประธานครั้งนี้ของ ติอาโก รีช เขาพยายามดึงแฟนบอลที่ห่างหายจากสโมสรให้กลับคืนมาสู่สนามอีกครั้ง โดยเลือกใช้เฉพาะผู้เล่นท้องถิ่นเป็นหลัก พร้อมสนับสนุนให้ครอบครัวนักเตะชวนเพื่อนๆ และคนรู้จักไปดูการแข่งขัน นั่นหมายความว่าเขาต้องการให้เอฟซี ซานตาครูซ ดู โซล กลับมาเป็นศูนย์กลางของชุมชนอีกครั้ง
เขาทำมันสำเร็จอย่างสวยงาม มีแฟนบอลกว่า 1,000 คนเข้าสนามในแต่ละเกมที่ลงเล่นในปี 2019 แม้เมื่อจบฤดูกาลทีมจะยังไม่สามารถเลื่อนชั้นกลับไปสู่ดิวิชัน 2 ของลีกท้องถิ่นได้ แต่สโมสรก็มียอดเงินในธนาคารที่ดีขึ้นและไม่มีหนี้สินหลงเหลือ
ฤดูกาล 2020 เริ่มต้นภายใต้ความไม่แน่นอนเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด แต่กลับกลายเป็นฤดูกาลที่น่าจดจำที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอฟซี ซานตาครูซ หลังพวกเขาคว้าแชมป์โคปา FGF ซึ่งเป็นการแข่งขันถ้วยประจำปีของมลรัฐ โดยเอาชนะเซา โฮเซ ด้วยการดวลจุดโทษในรอบชิงชนะเลิศ
และนั่นเป็นถ้วยรางวัลใบแรกของสโมสรหลังก่อตั้งมายาวนานถึง 107 ปี ซึ่งนั่นมันยังนำมาสู่ภาพที่ 2 ที่ ติอาโก รีช ถูกไปเปรียบเทียบกับภาพของเขาเองในปี 2012 คือภาพที่เขาถ่ายพร้อมถ้วยรางวัลในสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
ภาพ: Tiago André Rech
แม้จะดูเหมือนนั่นเป็นจุดจบของเรื่องราว แต่ก็ไม่ใช่ เพราะปี 2021 เอฟซี ซานตาครูซคว้าแชมป์ดิวิชัน 3 ของการแข่งขันชิงแชมป์ระดับรัฐ และขึ้นสู่ดิวิชัน 2 ได้อีกครั้ง แถมเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็คว้าตำแหน่งหัวตารางของดิวิชัน 2 และได้รับการเลื่อนตำแหน่งกลับสู่ลีกสูงสุดของมลรัฐ ซึ่งเป็นการกลับมาสู่จุดนี้ครั้งแรกในรอบ 1 ทศวรรษเลยทีเดียว
ปัจจุบันแม้จะมีรูปถ่ายของรีชพร้อมกับถ้วยรางวัลทั้ง 3 ใบ แต่เขาไม่ได้เป็นประธานสโมสรของเอฟซี ซานตาครูซ อีกต่อไปแล้ว เขาลาออกไปเพื่อเดินหน้าเต็มตัวในการทำงานด้านการเมือง แต่เขาก็ไม่ได้ทิ้งสโมสรนี้เสียทีเดียว เพราะเขายังมีบทบาทอื่นๆ อีกมากมายกับสโมสร ทั้งรองประธานคณะกรรมการ, รองประธานฝ่ายการตลาด และหัวหน้าฝ่ายโซเชียลมีเดีย
รีชกล่าวว่า “ทั้งหมดก็เพื่อความรักที่มีต่อสโมสร ผมอยากจะช่วยให้สโมสรชนะบางสิ่งบางอย่างและกลับไปสู่สิ่งที่เคยเป็น
“ผมไม่เข้าใจแท็กติกฟุตบอลมากนัก แต่ผมคิดว่างานของผมคือการนำผู้คนมารวมกัน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ทำให้ผู้คนอยากมาที่นี่ ตั้งแต่นักเตะ โค้ช ไปจนถึงแฟนบอล ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เราสามารถสร้างความมั่นคงนั้นได้ มันหมายความว่าซานตาครูซมีตัวตนอีกครั้ง”
อ้างอิง:
- theathletic.com/4904847/2023/10/01/tiago-rech-santa-cruz-brazil/
- www.bbc.com/sport/football/66888695
- www.reddit.com/r/Damnthatsinteresting/comments/t8zg7y/lonely_fan_23yearold_tiago_rech_was_the_only_fan/
- www.gsp.ro/international/campionate/povestea-emotionanta-a-lui-tiago-rech-santa-cruz-rs-619557.html
- fanexperienceco.com/2023/09/the-lone-away-fan-who-led-his-club-to-glory/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=the-lone-away-fan-who-led-his-club-to-glory&utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=the-lone-away-fan-who-led-his-club-to-glory