นับตั้งแต่หนังสือบันทึกการเดินทาง เถื่อน 7 จนมาถึงรายการ เถื่อน Travel Season 2 ตอนนี้ ‘จักรวาลเถื่อน’ ที่ปลูกปั้นโดย สิงห์-วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ยังคงถูกสร้างสรรค์ออกมาอย่างต่อเนื่อง กับการเดินทางไปในสถานที่ที่คน ‘ดีๆ’ เขาไม่ ‘บ้า’ ไปกัน
เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวที่ซุกซ่อนอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก แต่แฝงไปด้วยเรื่องราว ประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของผู้คน เพื่อให้ผู้ชมชาวไทยได้ทำความรู้จักกับสิ่งที่มากกว่าแค่ความ ‘เถื่อน’ ในโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น
‘เถื่อน 100’ คือบันทึกการเดินทางเล่มใหม่ของวรรณสิงห์ ที่จะมาขยายจักรวาลเถื่อนให้ผู้คนได้รู้จักมากขึ้นไปอีก เริ่มต้นด้วยขนาดและความหนาของเล่มที่ใหญ่ขึ้น เรียงร้อยด้วยเรื่องราวการเดินทาง 100 เรื่อง 100 ภาพถ่าย ที่เขาได้พบเจอระหว่างการเดินทางตลอดระยะเวลากว่า 11 ปี และมีการแปลเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ชาวต่างชาติได้ร่วมผจญภัยไปกับเขาด้วย
หนังสือ เถื่อน 100 มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Serenity in Chaos ซึ่งมีที่มาจากนิทรรศการเรื่องเล่าและภาพถ่ายที่เคยจัดขึ้นไปแล้วในช่วงกลางปีที่ผ่านมา เพียงแต่ในครั้งนี้วรรณสิงห์ได้ต่อยอดผลงานให้แฟนๆ ได้สัมผัสในรูปแบบของหนังสือเล่มใหญ่ (มาก) โดยยังคงแบ่งเนื้อหาออกเป็น 4 ส่วนเช่นเดียวกับนิทรรศการ ได้แก่ มนุษย์ (Human), พิภพ (Nature), สงคราม (War) และอารยธรรม (Civilization)
สำหรับผู้อ่านที่ไม่ได้ติดตามผลงานของวรรณสิงห์อย่างจริงจัง แต่ชอบเสพเรื่องราวการเดินทางอยู่แล้ว หนังสือเล่มนี้เหมาะสมอย่างยิ่งในการเริ่มทำความรู้จักนักเดินทางที่ชื่อ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล เพราะหนังสือเล่มนี้คือการสรุปย่อเรื่องราวการเดินทางที่ไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไป ที่จะพาให้เราไปทำความรู้จักโลกอีกด้านหนึ่งที่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ หรือร้านอาหารชื่อดัง แต่เป็นผืนป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์อันตรายอย่าง ป่าแอมะซอน พื้นที่สงครามที่ได้ยินเสียงปืนเป็นเรื่องปกติอย่างอัฟกานิสถาน หรือการบุกเบื้องหลังกองถ่ายทำหนัง AV ในประเทศญี่ปุ่น
ส่วนคนที่เป็นแฟนคลับติดตามผลงานของวรรณสิงห์มาตลอด เถื่อน 100 คงจะเปรียบเสมือนไทม์แมชชีนที่พาทุกคนย้อนกลับไปทบทวนการเดินทางที่ผ่านมาพร้อมๆ กับวรรณสิงห์อีกครั้ง
ตั้งแต่เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุในประเทศเล็กๆ อย่างประเทศรวันดา ในรายการ พื้นที่ชีวิต และหนังสือ เถื่อน 7 การเดินทางสู่ทะเลทรายนามิบที่เป็นจุดเริ่มต้นของรายการ เถื่อน Travel และหนังสือ เถื่อน 8 เรื่องราวของเหล่าเด็กๆ ที่อพยพหนีสงครามซีเรียมาใช้ชีวิตอยู่ในชายแดนประเทศตุรกี และบทกวีของเด็กชายที่ซึมลึกลงไปในหัวใจไม่มีวันลืมได้ลงในรายการ เถื่อน Travel Season 2
นอกจากแรงบันดาลใจที่อยากทำให้เราลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง อีกสิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้ทุกครั้งจากทุกผลงานในจักรวาลเถื่อน คือการที่วรรณสิงห์เป็นตัวแทนพาคนอ่านเข้าไปสัมผัสทุกประสบการณ์ ที่แม้ภาพที่เห็นจะดูดิบเถื่อน แต่ลึกๆ แล้วเขาฟังทุกสรรพเสียงด้วยความตั้งใจ เพื่อจะเชื่อมโลกและความเข้าใจของเขาและเราไปพร้อมๆ กัน
และนั่นทำให้ปัญหาหลายๆ อย่างที่เคยดูเป็นเรื่องไกลตัว เช่น ปัญหาโลกร้อน สาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างช้าๆ ความขัดแย้งดินแดนสงคราม ความเดือดร้อนของผู้ลี้ภัยในต่างแดน ฯลฯ ค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ตัวและหัวใจ พร้อมกับตระหนักถึงความเป็นห่วงที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะได้มากยิ่งขึ้น
เพราะทุกอย่างบนโลกล้วนมีมุมมองอีกหลายด้านที่มองไม่เห็น และเมื่อเข้าใจในเหตุและผลที่เกิดขึ้นแล้ว เราจะค่อยๆ มองเห็นสัจธรรมว่าทุกปัญหา ทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ล้วนเชื่อมโยงกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
แม้เราไม่อาจพาตัวเองไปเผชิญกับเรื่องเล่านั้นได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยที่สุดเพียงแค่เราได้เรียนรู้ที่จะ ‘ตั้งคำถาม’ เพื่อทำความ ‘เข้าใจ’ ก่อนที่จะตัดสินใครหรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เราได้พบเจอในชีวิตประจำวัน ก็คงจะช่วยให้โลกที่หลายคนที่เคยมองเห็นแต่ความเถื่อนถอยจากความเจริญรุ่งนั้น ได้เห็นแง่งามและเรียนรู้ในความแตกต่างของชีวิตเพิ่มมากขึ้น
ดังเช่นประโยคหนึ่งที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือ เถื่อน 7 จากประเทศรวันดา
“If you really know me and you know yourself, you would not have killed me.”
“หากคุณรู้จักตัวตนของเราจริงๆ และรู้จักตัวคุณเองจริงๆ แล้ว คุณจะไม่ฆ่าเรา ”
ภาพประกอบโดย
godaypoets.com/product/pre-order-เถื่อน100/
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
- รายได้ส่วนหนึ่งจากหนังสือ เถื่อน 100: Serenity in Chaos จะถูกส่งมอบให้กับองค์กร UNHCR เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยทั่วโลก