Through the Darkness เมื่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องกลายเป็นฝันร้ายของคนเกาหลี และสะท้อนผ่านงานซีรีส์

Through the Darkness เป็นซีรีส์เรื่องล่าสุดที่มีความเกี่ยวข้องกับฆาตกรต่อเนื่อง โดยจะเล่าผ่านการทำงานของ ควอนอิลยง โปรไฟเลอร์คนแรกในเกาหลี แต่กับคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ถ้าใครเป็นแฟนซีรีส์เกาหลีสายอาชญากรรมอยู่แล้วคงจำกันได้ดีว่านี่คือเรื่องราวที่ปรากฏในซีรีส์หลายต่อหลายเรื่อง ทั้ง Beyond Evil, Mouse, Taxi Driver, Less than Evil, Voice, Tunnel, Signal ฯลฯ

นั่นเป็นเพราะคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในเกาหลีมีอยู่จำนวนไม่น้อย และล้วนแล้วแต่เป็นคดีสะเทือนขวัญ สร้างรอยแผลในใจของผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ทั้งยังส่งผลสะเทือนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการยุติธรรมและกรมตำรวจอย่างเห็นได้ชัด

จุดเริ่มต้น ที่ยังไม่มีจุดสิ้นสุด

คดีฮวาซอง นับว่าเป็นคดีสุดสะเทือนขวัญที่มีการข่มขืนและฆาตกรรมหญิงสาวนับสิบรายในพื้นที่เมืองฮวาซอง คยองกี เริ่มต้นในปี 1986 โดยที่ทางตำรวจไม่อาจจับกุมคนร้ายได้ และกลายเป็นคดีที่ปิดไม่ลงนานกว่า 30 ปี

ฝันร้ายของคดีฮวาซอง ทำให้ผู้คนต่างอกสั่นขวัญแขวน ไม่มั่นใจกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง จนในช่วงต้นยุค 90 ประธานาธิบดีโนแทอู ได้ประกาศสงครามกับอาชญากรรม มีการตั้งทีมตำรวจสายสืบ และเริ่มมีการสืบคดีด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เช่น การเก็บลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุ ตำรวจรุ่นใหม่ในยุคนั้นได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ เหล่านี้ นอกเหนือจากความแข็งแรงของร่างกายในการตามล่าคนร้าย

เดือนมกราคม 2000 ควอนอิลยง และตำรวจอีกสี่นาย ได้รับแต่งตั้งเป็นทีมสืบสวนอาชญากรรมให้กับหน่วยสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์ หน่วยงานใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ พวกเขาเริ่มต้นทำงานในเดือนมกราคมปีนั้น สำหรับควอนอิลยง รับตำแหน่งนักวิเคราะห์จิตวิทยาอาชญากรเป็นคนแรกของเกาหลีใต้ และการทำงานของเขาทำให้เกิดการตั้งหน่วยเฉพาะทางอย่างเป็นทางการในปี 2006

ในปัจจุบัน ผู้คนเกาหลีใต้มีความปลอดภัยในการใช้ชีวิต คดีฆาตกรรมต่อเนื่องจึงปรากฏอยู่เพียงในภาพยนตร์และซีรีส์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฆาตกรต่อเนื่องได้หายสาบสูญไปแล้ว เพียงแต่ว่าพวกเขาถูกจับกุมได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยความก้าวหน้าทางอาชญาวิทยา

ควอนอิลยง โปรไฟเลอร์คนแรก และเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการพัฒนาหน่วยงานจิตวิทยาอาชญากร ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า โดยทั่วไปฆาตกรต่อเนื่องมักจะมียีนในร่างกายที่แตกต่างจากคนอื่นตั้งแต่เกิด เมื่อรวมกับสภาพแวดล้อมในการเติบโตที่เลวร้าย ก็เหมือนการปลุกปีศาจในตัวเขาขึ้นมา ปีศาจที่รู้สึกว่าการฆ่าทำให้พวกเขาเหนือกว่าคนอื่นๆ

เปิดแฟ้มคดีฆาตกรต่อเนื่องเกาหลีใต้

เกาหลีใต้รู้จักกับ คิมแดดู ฆาตกรต่อเนื่องคนแรกที่สะเทือนขวัญไปทั้งประเทศในปี 1975 เขาฆาตกรรมประชาชนบริสุทธิ์ไป 17 คน ภายในเวลา 55 วัน ไม่เว้นแม้แต่เด็กและคนแก่ หลายๆ ครั้ง เป็นการฆาตกรรมที่เพียงเพราะว่าคนเหล่านั้นเห็นหน้าเขาแล้วและจำหน้าเขาได้
- คิมแดดูถูกตัดสินประหารชีวิตในปี 1976

อีชุนแจ ก่อคดีข่มขืนและฆาตกรรมผู้หญิง 9 คน อย่างโหดร้ายตามที่ต่างๆ ในเมืองฮวาซอง จังหวัดคยองกี ช่วงปี 1981-1991 จนกลายเป็นต้นทางให้กับซีรีส์และภาพยนตร์มากมาย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจจับกุมตัวชายคนหนึ่งและรับโทษจำคุกไปนานนับสิบปี ก่อนที่ฆาตกรตัวจริงจะถูกจับกุมในปี 2019 หลังพัฒนาการของการวิเคราะห์ DNA ที่นำมาใช้ในการสืบคดี ปรากฏว่าฆาตกรคืออีชุนแจที่ถูกจำคุกจากคดีข่มขืนและฆ่าน้องสาวภรรยาของเขาเองในปี 1994
- อีชุนแจยังถูกจำคุกตลอดชีวิตอยู่ที่เรือนจำปูซาน

ยูยองชอล ก่อคดีฆาตกรรม 20 ชีวิตทั่วกรุงโซลระหว่างปี 2003-2004 ในวันที่โดนจับกุมตัวเขาสารภาพว่าตั้งใจจะฆ่าให้ได้มากกว่า 100 ศพ ด้วยความเชื่อว่านี่คือการสั่งสอนพวกคนรวยและผู้หญิงที่ทำตัวไม่ดี อาวุธสังหารของเขาคือค้อนปอนด์ที่ออกแบบขนาดพิเศษ เขายังสารภาพอีกว่าได้กินอวัยวะบางส่วนของเหยื่อด้วย
- ยูยองชอลได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต เพราะเกาหลีใต้ได้ยกเลิกโทษประหารชีวิตไปตั้งแต่ปี 1997 (สารคดี Raincoat Killer และภาพยนตร์ The Chaser สร้างจากคดีของยูยองชอล)

จองนัมกิล ฆาตกรต่อเนื่องที่ไม่ได้มาจากพื้นฐานครอบครัวล่มสลาย เขาสารภาพว่าถูกผู้ชายคนหนึ่งล่วงละเมิดทางเพศและทารุณกรรมตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เมื่อโตขึ้นมาจึงรู้สึกแปลกแยกจากสังคม เขามีคดีทำร้ายร่างกาย 19 คดี และฆาตกรรม 15 คดี โดยอ้างว่าเป็นการแก้แค้น เริ่มจากไปล่วงละเมิดทางเพศเด็กประถมสองคนและฆ่าพวกเขาทิ้ง การวางแผนของจองนัมกิลในการก่อคดี พยายามไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ และก่อคดีคล้ายเล่นเกม เขายังให้สัมภาษณ์ว่าที่ถูกตำรวจจับกุมตัวเพราะเขาโชคไม่ดีเท่านั้นเอง

- จองนัมกิลถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในปี 2007 และสองปีหลังจากนั้นเขาฆ่าตัวตายในห้องขัง

Through the Darkness

คือซีรีส์ที่นำเรื่องจริงในสังคมเกาหลีมาเล่าผ่านการทำงานของควอนอิลยง โปรไฟเลอร์หรือนักวิเคราะห์จิตวิทยาอาชญากรคนแรกของเกาหลี อันจะเป็นการเดินทางค้นลึกเข้าไปในจิตใจของมนุษย์ เพื่อวิเคราะห์ระบบความคิดและการคาดเดาพฤติกรรมของอาชญากร อ้างอิงวิธีการทางจิตวิเคราะห์และหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะยับยั้งการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น

ฉากหลังของซีรีส์ Through the Darkness เกิดในยุค 90 เมื่อทีมวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลี ซึ่งตรงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในปี 2000 คนดูจะเข้าใจกระบวนการทำงานของทีมอาชญาวิทยามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงแรกที่โลกเริ่มใช้เทคโนโลยีและความรู้ใหม่ๆ มาใช้ในงานสืบสวนสอบสวน

Through the Darkness จะออกอากาศทุกวันศุกร์และเสาร์ ทาง SBS มีทั้งหมด 12 อีพี ออกอากาศอีพีแรกวันที่ 14 มกราคม 2565 แฟนซีรีส์สายอาชญากรรมติดตามรับชมได้ทาง Viu

บทความที่เกี่ยวข้อง