1 ตุลาคม 1975 หรือวันนี้เมื่อ 50 ปีก่อน วงการมวยสากลโลกได้จารึกหนึ่งในไฟต์ที่ถูกยกให้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เมื่อ มูฮัมหมัด อาลี โคจรมาพบกับคู่ปรับตลอดกาล โจ เฟรเซียร์ ในศึกชิงแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งถูกขนานนามในเวลาต่อมาว่า “Thrilla in Manila”
ศึกครั้งนั้นเป็นการปิดฉากไตรภาคสุดดุเดือด หลังทั้งคู่ผลัดกันแพ้-ชนะมาแล้วคนละหนึ่งไฟต์ ความสำคัญจึงไม่ใช่เพียงแค่เข็มขัดแชมป์โลกเท่านั้น แต่ยังเป็นการตัดสินกันว่าใครคือยอดนักชกตัวจริงของยุค
การชกดำเนินไปอย่างเข้มข้นตลอด 14 ยก ทั้งอาลีและเฟรเซียร์ต่างแลกหมัดกันอย่างไม่ลดละ ร่างกายอ่อนล้า เต็มไปด้วยบาดแผล แต่ยังคงยืนหยัดต่อสู้จนผู้ชมทั้งโลกต้องลุกขึ้นยืน
กระทั่งก่อนยกสุดท้าย เทรนเนอร์ของเฟรเซียร์ เอ็ดดี ฟัตช์ ตัดสินใจโบกมือยุติการชก เนื่องจากเฟรเซียร์แทบไม่สามารถมองเห็นได้แล้ว ทำให้อาลีได้รับการประกาศเป็นผู้ชนะ และป้องกันแชมป์เฮฟวี่เวตไว้ได้สำเร็จ
ย้อนกลับไป ไตรภาคเริ่มต้นที่ไฟต์แรกในปี 1971 ซึ่งถูกขนานนามว่า “Fight of the Century” โดยครั้งนั้นเฟรเซียร์เป็นฝ่ายชนะคะแนนอาลี ก่อนที่ในปี 1974 อาลีจะสร้างชื่ออีกครั้งด้วยการล้มแชมป์โลก จอร์จ โฟร์แมน ใน “Rumble in the Jungle” และปูทางให้เขาได้กลับมาพบเฟรเซียร์อีกครั้งในไฟต์ตัดสินที่มะนิลา
แม้เวลาจะผ่านไปครึ่งศตวรรษ แต่ “Thrilla in Manila” ยังคงถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศึกเฮฟวี่เวตที่ดุเดือดที่สุดในประวัติศาสตร์มวยโลก และตำนานของทั้ง มูฮัมหมัด อาลี กับโจ เฟรเซียร์ ยังคงอยู่ในหัวใจแฟนกีฬาทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
ภาพ: Nik Wheeler, Bettmann / Getty Images