วันนี้ (29 ธันวาคม) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 พร้อมด้วย กรณ์ จาติกวณิช และ การดี เลียวไพโรจน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 2 และ 3 ตามลำดับ เปิดตัวกรอบนโยบาย ‘ไทยหายจน ด้วยคนทำเป็น’ ชูนโยบายแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ภายใต้ 4 เสาหลัก 27 นโยบาย มุ่งปลดล็อกความยากจน ความเหลื่อมล้ำ และปัญหาปากท้องที่ประชาชนต้อง ‘ทน’ สะสมมานาน ตั้งเป้าขับเคลื่อนประเทศให้พ้นจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา เพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) เฉลี่ย 5% ภายใน 4 ปี
นโยบายเสาที่ 1 ‘หายจนรายได้’ เน้นยกระดับรายได้เกษตรกรและแรงงาน ด้วยการประกันรายได้พืชผลสำคัญ อาทิ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ควบคู่กลไก ‘รัฐช่วยจ่ายส่วนต่าง’ ให้แรงงานตามค่าครองชีพรายจังหวัด ลดค่าไฟโดยไม่ใช้งบภาษี สนับสนุนพลังงานสะอาด ผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพลังงานอาเซียน เพิ่มรายได้รัฐจากค่าผ่านทางสายส่งไฟฟ้า รวมถึงมาตรการลดภาษีเงินได้ 40,000 บาทแรก และกำหนดค่าโดยสารรถไฟฟ้า–รถเมล์สูงสุด 30 บาทต่อเที่ยว
เสาที่ 2 ‘หายจนใจ’ มุ่งเสริมหลักประกันชีวิตทุกช่วงวัย ตั้งแต่เงินอุดหนุนแม่และเด็กเดือนละ 5,000 บาทในปีแรก การออมให้เด็กไทยตั้งแต่แรกเกิด เบี้ยผู้สูงอายุถ้วนหน้า 1,000 บาทต่อเดือน โครงการปรับปรุงบ้านผู้สูงวัย บ้านละ 50,000 บาท การแปลงบ้านเป็นเงินเลี้ยงชีพอยู่ได้ตลอดชีวิต การเร่งรัดบริการทำฟันผู้สูงอายุ และการเพิ่มเบี้ยคนพิการเป็นสองเท่า
เสาที่ 3 ‘หายจนปัญญา’ ปรับระบบการศึกษาเป็นแบบยืดหยุ่น เปิดโอกาสให้ผู้เรียนออกแบบการเรียนรู้เอง ผ่านธนาคารหน่วยกิตและแพลตฟอร์มดิจิทัล สนับสนุนคูปองการศึกษา 3,000 บาทต่อปี แก้ปัญหาค่าใช้จ่ายแฝงในโรงเรียนขนาดเล็ก จัดหางานเพื่อชำระหนี้ กยศ. และยกระดับทักษะภาษา–ดิจิทัลด้วยแพลตฟอร์ม Learn to Earn และ National Digital Learning Platform
เสาที่ 4 ‘หายจนตรอก’ เน้นปฏิรูประบบรัฐด้วยดิจิทัล One-ID และ Citizen Wallet เปิดข้อมูลรัฐ (Open Data) ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างด้วย AI ให้โอกาสสินค้าไทยและ SMEs ตัดกฎหมายล้าสมัยด้วย Super Act ยกระดับการรับมือภัยพิบัติ ระบบเตือนภัยเดียวถึงหลายหน่วย เร่งแก้ปัญหา PM 2.5 ปราบยาเสพติดครบวงจร และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มอเตอร์เวย์สี่ทิศ รถไฟความเร็วสูง เชื่อมไทยสู่ภูมิภาค
อภิสิทธิ์กล่าวว่า กรอบนโยบายดังกล่าวจะขับเคลื่อนโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ โดยย้ำแนวคิด “พูดแล้วต้องทำได้จริง” เพื่อพาประเทศไทยหลุดพ้นจากภาวะ “ทนหายใจ” สู่ “ไทยหายจน” อย่างยั่งยืน
“วันนี้มีคนพูดนโยบายเยอะแยะ บางคนสัมผัสว่าไม่ใช่แค่พูดนะ พูดแล้วทำมันไม่พอหรอกครับ เพราะต้องคิดก่อนพูด และพูดแล้วต้องทำเป็น พวกเราทำเป็นครับ” อภิสิทธิ์กล่าวทิ้งท้าย












