อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างมนุษย์กับสัตว์เลี้ยง
เรื่องนี้สามารถยืนยันได้จากผลสำรวจเรื่อง Petsumer Marketing เจาะลึกอินไซต์ให้โดนใจทาสสายเปย์ ที่พบว่าคน 49% เลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นลูก (Pet Parent) สะท้อนได้จาก 80.7% ของผู้เลี้ยงสัตว์มีสถานะโสด ขณะที่คนเลี้ยงสัตว์อีก 34% เลี้ยงสัตว์เพื่อสถานะทางสังคม (Pet Prestige) และ 18% เลี้ยงสัตว์เพื่อช่วยเหลือและช่วยบำบัดรักษา (Pet Healing)
การเติบโตของพฤติกรรมดังกล่าวทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องเติบโตไปด้วย ธุรกิจสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 3,954 ล้านบาท และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 40,638 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 8.4% มาอยู่ที่ 66,748 ล้านบาทในปี 2569 (อ้างอิงข้อมูลจาก Euromonitor)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เพราะ ‘สัตว์เลี้ยงคือลูก’ เหล่าทาสจึงยอมเปย์ไม่อั้นเดือนละอย่างน้อย 1,000 บาท คาดตลาดที่เกี่ยวข้องมีมูลค่า 6 หมื่นล้านในปี 2569
- สัตว์เลี้ยงก็เปรียบเสมือนลูก! Major เปิดโรงภาพยนตร์สุนัข-แมว 10 มิ.ย. นี้ ราคาตั๋ว 99 บาทต่อตัว แต่ต้องใส่ผ้าอ้อม และนั่งในกระเป๋าเท่านั้น
- ‘ประกันสัตว์เลี้ยง’ โอกาสใหม่ของบริษัทประกันภัยญี่ปุ่น ที่มาพร้อมกับความท้าทายในการสร้าง ‘ผลกำไร’
สำหรับภาพรวมตลาดสัตว์เลี้ยงในปี 2566 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 10% โดยเฉพาะในตลาดอาหารและ Pet Supply มีการแข่งขันสูงและมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนลูกค้ามีความต้องการที่หลากหลายและเฉพาะเจาะจงกับสัตว์เลี้ยงของตนเองมากขึ้น
โดยเทรนด์ในอนาคต ความต้องการดูแลเชิงเวชศาสตร์ป้องกันสำหรับสัตว์เลี้ยงสูงวัยจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น จากการเติบโตของสัตว์เลี้ยงและเทคโนโลยีในการรักษา อาหาร ที่ส่งผลให้สัตว์เลี้ยงมีอายุขัยยืนยาวขึ้น
ขณะที่เทรนด์การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในปัจจุบันเติบโตจากช่วงโควิดที่คนอยู่บ้าน และหันมาเลี้ยงสัตว์เป็นสมาชิกของบ้านในแบบลูก ให้เป็นหนึ่งในสมาชิกของบ้าน ซึ่งแมวมีอัตราส่วนของผู้เลี้ยงใหม่ที่โตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้หลายธุรกิจทั้งอสังหาริมทรัพย์, โรงแรม, ร้านอาหาร และคมนาคม เข้ามาโฟกัสในส่วนของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น
การเติบโตเหล่านี้ล้วนสร้างประโยชน์ให้ธุรกิจอย่าง ‘โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ’ ซึ่งกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 โดยเติบโตจากคลินิกขนาดเล็กสู่โรงพยาบาลสัตว์ที่เปิด 24 ชั่วโมงแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งตอนนี้เปิดบริการทั้งหมด 18 สาขา และยังบุกไปเวียดนามด้วย
สัตวแพทย์หญิงกฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ย้ำว่า มีแผนขยายธุรกิจต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อรองรับความต้องการของคนรักสัตว์เลี้ยงที่มีมากขึ้น โดยแผนการขยายสาขาในประเทศจะมีการปรับพื้นที่ในสาขาเดิมให้รองรับและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงมีการขยายสาขาเพิ่ม โดยในเดือนกันยายนจะมีการเปิดสาขาใหม่ที่ประชาชื่น นับเป็นสาขาที่ 19
ส่วนแผนการขยายสาขาในต่างประเทศ มีแผนเปิดสาขาเพิ่มในประเทศกลุ่มอาเซียน โดยขณะนี้อยู่ในช่วงศึกษาและวางแผนธุรกิจ “ที่ผ่านมาเราได้ขยายไปยังเวียดนาม และพบว่าตลาดที่นั่นยังตามหลังไทยอยู่อีกมาก ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำหรับเราด้วย”
จากแผนทั้งหมดที่วางไว้ คาดว่าปีนี้จะใช้งบลงทุนอยู่ที่ราว 200-300 ล้านบาท รวมไปถึงแผนการเปิดสาขาที่เชียงใหม่เป็นแห่งที่ 2 ด้วย
จากแผนการดำเนินธุรกิจดังกล่าว โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อตั้งเป้าว่าในอนาคตจะสามารถเติบโตอยู่ที่ 9-15% โดยในปี 2565 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 18% และในครึ่งปีแรกของปีนี้มีการเติบโตเป็นไปตามแผนอยู่ที่ 11%