บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยว่า แนวทางการควบคุมสถานการณ์โควิดที่ระบาดหนักตอนนี้ ทุกฝ่ายคงต้องช่วยกันฉีดวัคซีนแบบปูพรม ซึ่งหากสถานการณ์จะดีขึ้นอย่างชัดเจนคงต้องกระจายวัคซีนเข็มแรกให้ได้อย่างน้อย 50 ล้านคน
“สถานการณ์ตอนนี้อาจจะไม่ได้ดีขึ้นเร็วนัก เพราะปัจจัยเสี่ยงมีมากเกินไป ทั้งวัคซีนที่ยังกระจายได้ช้า และระบบสาธารณสุขที่รองรับได้ 1,500 คนต่อวัน ทำให้มีผู้ป่วยที่ไม่สามารถเข้าโรงพยาบาลตกค้างอยู่นับพันคน รวมถึงการกลายพันธุ์ของไวรัสโดยเฉพาะสายพันธุ์อินเดียที่แพร่กระจายได้เร็วขึ้น 60%”
ส่วนของโรงพยาบาลธนบุรีจะเริ่มฉีดวัคซีนทางเลือกได้ในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งโรงพยาบาลจะได้รับเข้ามา 5 ล้านโดส นอกจากนี้โรงพยาบาลต้องการจะสั่งซื้อเพิ่มอีก 20 ล้านโดส เป็นวัคซีนจากสหรัฐฯ ซึ่งยังมีเหลืออยู่ โดยการสั่งวัคซีนเพิ่มนี้ต้องรอดูความชัดเจนของสหรัฐฯ หลังวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ว่าจะสามารถปล่อยมาให้ประเทศอื่นเพิ่มเติมได้แค่ไหน ซึ่งในสหรัฐฯ ยังมีวัคซีนเหลืออยู่อีกราว 1,500 ล้านโดส นอกจากนี้โรงพยาบาลอยู่ระหว่างการขยายโรงพยาบาลสนามเพิ่มอีก 200 เตียง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้เร็วๆ นี้”
สำหรับมาตรการล็อกดาวน์ที่ประกาศออกมานี้ ในทางการแพทย์ก็อยากจะให้ล็อกดาวน์เข้มข้นขึ้น แต่ในทางเศรษฐกิจน่าจะทำไม่ได้ ด้วยสัดส่วนคนมีรายได้น้อยของไทยที่ค่อนข้างมาก ดังนั้นสิ่งที่น่าจะทำได้ดีสุดตอนนี้คือการเร่งกระจายวัคซีนให้เร็วที่สุด หรือหากจะล็อกดาวน์เข้มข้นขึ้นก็ต้องมีเงินเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนมากขึ้น
ขณะที่ ชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA) ระบุว่า ตอนนี้จำนวนผู้ที่เข้ามาตรวจหาเชื้อเพิ่มขึ้นมาก ขณะเดียวกันก็มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเต็มจำนวนเตียงทั้งหมด และยังมีผู้ที่รออยู่อีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้โรงพยาบาลกำลังเร่งเพิ่มเตียงสำหรับห้องสีแดง 24 เตียง และห้องสีเหลือง 60 เตียง โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนหน้า แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเจรจากับภาครัฐให้การก่อสร้างในส่วนนี้ทำต่อได้
“มาตรการล็อกดาวน์ล่าสุดที่ออกมาค่อนข้างเหวี่ยงแหไปหน่อย เพราะอย่างการก่อสร้างสถานที่รองรับผู้ป่วยเพิ่มเติมก็ถูกกระทบ หรืออย่างร้านอาหารที่นั่งได้ 25% ก็ค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว เมื่อไม่สามารถนั่งกินในร้านได้เลยก็ค่อนข้างจะกระทบหนัก”
ส่วนแผนการเริ่มฉีดวัคซีนทางเลือกของโรงพยาบาลวิภาวดีน่าจะเริ่มได้ช่วงเดือนตุลาคม ประมาณ 2 แสนโดส ทั้งนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศรอบนี้มีโอกาสจะยืดเยื้อไปถึงช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้า ด้วยการควบคุมที่ค่อนข้างยากและวัคซีนที่ยังไม่เพียงพอ
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
