×

5 New growth engine พาประเทศไทยก้าวสู่ ‘เศรษฐกิจใหม่’

05.11.2025
  • LOADING...
5 New growth engine พา ประเทศไทย ก้าวสู่ ‘เศรษฐกิจใหม่’

เลขาฯ บีโอไอ วิเคราะห์ 5 ปัจจัยเปลี่ยนทิศลงทุนโลก ชี้อาเซียนคือ “Bright Spot” พร้อมเปิด 10 จุดแข็งไทยดึงดูด FDI ขึ้นแท่นฐานผลิตสำคัญของอาเซียน

 

นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวปาฐกถา บนเวที THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ที่จัดขึ้นวันนี้ (5 พฤศจิกายน) เป็นวันแรก
ว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญเกิดขึ้นโลกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitic) ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา และการบังคับใช้การจัดเก็บภาษีขั้นต่ำ (Global minimum tax) ซึ่งหลายประเทศเริ่มใช้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ภาคธุรกิจต้องมีการวางแผนธุรกิจใหม่ ปรับทิศทางการลงทุน รวมทั้งโครงสร้างซัพพลายเชนครั้งใหญ่

 

โดยหากดูปัจจัยที่ส่งผลต่อทิศทางการลงทุนในระยะข้างหน้า “ภูมิทัศน์โลกที่กำลังปรับ ทิศทางทางลงทุน” มี 5 ปัจจัย ได้แก่

 

1. Geopolitical tensions : ความขัดแย้งของสหรัฐฯ-จีน เปรียบเสมือนสงครามโลกครั้งที่ 3 ส่งผลให้เกิดการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง ปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานโลกครั้งใหญ่ เช่น การแย่งชิงแร่หายาก อย่าง ‘แรร์เอิร์ธ’

 

2. Disruptive Technologies : เกิดการขยายตัวการลงทุน โดยเฉพาะเทคโนโลยี AI

 

3. Sustainability : เกิดการแสวงหาแหล่งพลังงานสะอาดใหม่ กระแสการเติบโตการลงทุนพลังงานสีเขียว

 

4. Global Minimum Tax : เกิดข้อจำกัดการใช้สิทธิประโยชน์ภาษีเพื่อดึงดูดการลงทุน และการพัฒนาเครื่องมือดึงดูดการลงทุนใหม่

 

5. Aging Society : เกิดการลดลงของประชากรวัยทำงาน ทำให้นักลงทุนมองหาตลาดแรงงานขนาดใหญ่

 

อย่างไรก็ตาม หากดูภาพรวมแนวโน้มการลงทุน (FDI) โลกลดลง 11% ในปี 2024 แต่ในช่วง 2 ปี ที่น่าสนใจคือ FDI ไหลเข้าสู่อาเซียนเพิ่มขึ้น 8% ธุรกิจต้องลดความเสี่ยง เกิดยุทธศาสตร์ใหม่ China Plus+1 หลายประเทศที่มีฐานการผลิตทั้งจีนและตลาดอื่น ต่างมองหาฐานผลิตใหม่ในอาเซียน ส่งผลให้อาเซียนกำลังเป็น ‘Bright Spot ‘ ทั่วโลกจับตามองมากขึ้น รูปแบบทุกการลงทุนกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป และก้าวเข้าสู่ ‘New Global Manufacturing Hub’

 

“ท่ามกลางสถานการณ์ที่ผันผวน อาเซียนกลายเป็นฐานผลิตใหม่ของโลก หากดูรายสาขาย่อยอาเซียนมีทั้งจุดแข็งทั้งการส่งออก โลจิสติกส์ ประสิทธิภาพการผลิต แรงงานประชากรรวมถึง 700 ล้านคน มีความเสี่ยงต่ำจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอินโดนีเซีย เวียดนาม ไทย มีทั้งส่วนเสริมและแข่งกัน ดังนั้น คลื่นการลงทุน จึงมีขนาดใหญ่เติบโตไปพร้อมกันได้”

 

5  New growth engine พาประเทศไทยก้าวสู่ ‘เศรษฐกิจใหม่’

 

ขณะเดียวกัน 10 จุดแข็งของไทยที่สามารถแข่งขันได้ ที่เป็นแม็กเน็ตดึงดูดการลงทุน

 

1.ความพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน
2.บุคลากรทักษะสูง
3.ห่วงโซ่การผลิตที่แข็งแกร่ง
4.ตลาดมีศักยภาพสูง
5.ประตูสู่ตลาดโลก
6.ความพร้อมในการ Go digital
7.ความพร้อมในการ Go Green
8.นโยบายส่งเสริมการลงทุน
9.ต้นทุนการผลิตที่แข่งขันได้
10.ความน่าอยู่และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับ Expat

 

5  New growth engine พาประเทศไทยก้าวสู่ ‘เศรษฐกิจใหม่’

 

นฤตม์ กล่าวอีกว่า ทิศทางการลงทุนในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นว่ามีบริษัทระดับโลกเข้ามาตั้งฐานผลิตในไทย ไม่ว่าจะเป็น Infineon , Lumentum, Microchips, บริษัทในเครือ Foxconn, Garmin, Haier, Hisense, Homa, Sunwoda, กลุ่มยานยนต์ EV จีน เช่น CHANGAN, Mazda

 

โดยมีการลงทุนผ่าน 6 อุตสาหกรรมเป้าหมายหลักนโยบายรัฐบาล

  • ยานยนต์สมัยใหม่: มุ่งเน้นการผลิตยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการพัฒนาชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง
  • อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ : ครอบคลุมการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผงวงจร (PCB) และอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
  • การท่องเที่ยวระดับคุณภาพ: เน้นการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้สูง เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical and Wellness Tourism) และการท่องเที่ยวหรู
  • การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ: ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และการเกษตรสมัยใหม่
  • การแปรรูปอาหาร: มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารให้มีมูลค่าเพิ่มสูงและตอบสนองความต้องการของตลาดโลก
  • การแพทย์ครบวงจร: ส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจการแพทย์และบริการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลิตยาและเวชภัณฑ์

 

 

“อุตสาหกรรมใหม่อย่าง Data Center อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนอกส์ขั้นสูง ในช่วง 3 ปี
มีการลงทุนเข้ามาลงทุนจำนวนมาก ซึ่งชิป ส่วนใหญ่อยู่ในขั้นกลางน้ำและกลางน้ำ เราต้องพัฒนาไปสู่ปลายน้ำ เพราะเวลาพูดถึงชิป เรามีจุดแข็ง สร้างโลคัลแชมเปี้ยน เป็นเป้าหมายที่เราต้องไปให้ได้ ดังนั้น อนาคตจะมีการพัฒนาทักษะดิจิทัล ให้กับบุคลากรไทย ส่งเสริม SME เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเหล่านี้”

 

รวมไปถึง จะเร่งการส่งเสริมการลงทุนแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
พร้อมเชื่อมโยงซัพพลายเชน เพื่อให้มีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากที่สุด ตลอดจนสร้างกลไกการจัดหาพลังงานสะอาด Direct PPA , UGT (Utility Green tariff) เทคโนโลยีชีวภาพ โดยไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เป็นประเทศ ผลิตอุตสาหกรรมนี้ได้ ดังนั้น เป้าหมายต่อไปของไทยคือการเป็น Bio hub
และ อุตสาหกรรมเกษตร-อาหาร โดยเฉพาะการส่งเสริมอุตสาหกรรมดั้งเดิม ไปสู่อาหารอนาคต (Future food)

 

ทั้งนี้ 3 มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่ออนาคต “Quick Big Win”

 

  • มาตรการเร่งรัดการลงทุน เร่งรัด 70 โครงการค้างท่อ 3 แสนล้านบาท , สร้างกลไกใหม่ Thailand Fast pass เพื่อสร้าง Fast track ปลดล็อคเงื่อนไขการลงทุน
  • มาตรการสร้างบุคลากรแรงงานทักษะขั้นสูง 1 แสนคน
  • มาตรการเพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน โดย 2 มาตรการข้างต้นจะมีการประกาศในวันพรุ่งนี้ (6 พฤศจิกายน)

 

นฤตม์ ย้ำว่า “โอกาสของไทยกำลังมาพร้อมพายุที่รุนแรง แต่เราจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยก้าวสู่ สร้างเศรษฐกิจใหม่ ที่สร้างองคาพยพ อุตสาหกรรมใหม่ เพื่อสร้าง New growth engine” โดยประเทศไทยต้องเดินหน้า 5 ด้าน ดังนี้

 

  • อุตสาหกรรมใหม่, สร้างฐานอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศ (New industry)
  • เทคโนโลยีใหม่ (New Technology)5สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพการผลิต
  • บุคลากรทักษะใหม่ (New Talent) พัฒนาทักษะบุคลากรไทยและดึงดูดบุคลากรทักษะสูงจากต่างประเทศเพื่อรองรับอุตสาหกรรมในอนาคต
  • ซัพพลายเชนใหม่ (New Supply Chain) เชื่อมโยงผู้ผลิตชั้นนำกับผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานโลก
  • พลังงานใหม่ (New Energy) เร่งพัฒนากลไกพลังงานสะอาดในราคาที่แข่งขันได้
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising