ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 Thailand’s Next Frontier พรมแดนใหม่เศรษฐกิจไทย
ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวบนเวที Financing the Future: How Capital Architects Shape New Frontier Industries ปลดล็อกพลังโลกการเงิน สู่พรมแดนใหม่เศรษฐกิจไทย
โดยเปรียบเทียบภาพรวมพรมแดนเศรษฐกิจใหม่ของไทยว่า เหมือนรถไฟเหาะที่เต็มไปด้วยความผันผวน ไม่รู้ว่าจังหวะใดจะขึ้นหรือลง แต่สามารถประสบความสำเร็จได้ หากเร่งพัฒนา 5 ปัจจัยหลัก ได้แก่
1. ทรัพยากรมนุษย์
2. ความพร้อมด้านเทคโนโลยี
3. การวิจัยและพัฒนา (R&D)
4. ขีดความสามารถด้านการส่งออกเทคโนโลยี และ 5. ระบบการเงินและการเข้าถึงแหล่งทุน
เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ไทยยังลงทุนในทั้ง 5 ปัจจัยน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนว่าไทยยังมีโจทย์ต้องทำอีกมาก หากต้องการสร้างความสำเร็จในเศรษฐกิจยุคใหม่ ดังนั้น การเข้าสู่พรมแดนเศรษฐกิจใหม่ จำเป็นต้อง ‘ยกระดับธุรกิจเดิมด้วยเทคโนโลยี’ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, Data Center, อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และเทคโนโลยีเกษตร ซึ่งต้องเริ่มปรับตัวทันทีเพื่อไม่ให้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
การพัฒนาอุตสาหกรรมเหล่านี้ต้องอาศัยทั้งเงินทุนของผู้ประกอบการ และเงินสนับสนุนจากภาครัฐ ขณะเดียวกันต้องดึงดูดนักลงทุนเข้ามาเพิ่ม แต่ปัจจุบันยังมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดช่องว่างการลงทุน เช่น อัตราความสำเร็จของเงินสนับสนุนยังต่ำ หรือความเสี่ยงการปล่อยกู้สูงกว่าปกติ ดังนั้น บทบาทของ Capital Architects อย่างสถาบันการเงิน ผู้กำหนดนโยบาย และผู้ลงทุน ต้องบริหารจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ เพื่อให้พรมแดนเศรษฐกิจใหม่ของไทยเติบโตได้จริง
อีกทั้งแม้ภาครัฐจะมีเงินสนับสนุนจำนวนมาก แต่เงื่อนไขการเข้าถึงกลับยังยาก ขัตติยาจึงเสนอให้รัฐบาลปรับเกณฑ์และข้อบังคับ เพื่อเปิดทางให้ผู้ประกอบการสามารถรับการสนับสนุนได้ง่ายขึ้น และให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกับทิ้งท้ายว่า การพัฒนาเศรษฐกิจพรมแดนใหม่จำเป็นต้องใช้ความร่วมมือจากสามภาคส่วน ทั้งรัฐบาล เอกชน และสถาบันการเงิน เพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งทุน ความรู้ และงานวิจัย “ถ้าอยากไปเร็วก็ไปคนเดียว แต่ถ้าอยากไปไกล ต้องไปด้วยกัน”
#TheStandard #ThailandsNextFrontier
#พรมแดนใหม่เศรษฐกิจไทย
#TheStandardEconomicForum2025


