ดร.เอกนิติเผย นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล เปิดทางแก้ปัญหา ‘เงินเทา’ เต็มที่ ไม่สนคนผิดที่อยู่ในอำนาจ ย้ำตั้ง Data Bureau เพื่อแก้ปม ‘ตาบอดคลำช้าง’ หวังแก้ปัญหาเส้นทางการเงินในระยะยาว
วันนี้ (6 พฤศจิกายน) ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025: Thailand’s Next Frontier พรมแดนใหม่เศรษฐกิจ โดยระบุว่า ไทยมีจุดแข็งด้านเสถียรภาพทางการเงินและระบบการเงินที่ดี ขณะที่ ประเทศเพื่อนบ้านกลับมีระบบการเงินที่ยังไม่ดีเท่าประเทศไทย โดยระบบการเงินของไทยที่ดีนี้เอง ทำให้ใครๆ ก็อยากเข้ามาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีชายแดนและพรมแดนที่ติดกัน ซึ่งเป็นจุดที่เกิดการรั่วไหล
รองนายกฯ และรมว.คลังกล่าวอีกว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ความสำคัญอย่างมากกับประเด็นดังกล่าวมาก โดยนายกฯ ยังนั่งเป็นประธานคณะกรรมการปราบปรามอาชญากรทางเทคโนโลยีเอง และได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีก 4 ชุด ประกอบด้วย
1. ชุดปราบปราม ที่มีรัฐมนตรีว่าการยุติธรรมเป็นประธาน
2. ชุดเทคโนโลยี ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นประธาน
3. ชุดการเชื่อมโยงทางการเงิน ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ซึ่งมีเป้าหมาย เพื่อตรวจสอบว่า ระบบการเงินของไทยมีช่องโหว่ใดบ้าง
4. ชุดประชาสัมพันธ์
“ปัจจุบันเมื่อเจออาชญากร จะต้องติดต่อหลายหน่วยงานมาก เช่น ตำรวจ DSI และ ปปง. ทุกหน่วยงานมีกฎหมายของตัวเอง แต่กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้เชื่อมโยงกัน ทำให้เกิดช่องโหว่ ตัวอย่างเช่น คริปโทส่วนหนึ่งถูกกำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แต่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) กลับเอื้อมไม่ถึง ดังนั้น คณะกรรมการจึงต้องเข้าใจระบบการเงินและช่องโหว่ทั้งหมดก่อน” ดร.เอกนิติกล่าว
ปมเงินเทาไทยเหมือน ‘ตาบอดคลำช้าง’
ดร.เอกนิติอธิบายต่อ ผ่านการเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ปัจจุบันเหมือน ‘คนตาบอดคลำช้าง’ ที่เห็นเพียงแค่ขาหรือหัว แต่ไม่เห็นตัวช้างทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถตามจับโจรได้ ‘คณะอนุกรรมการเชื่อมโยงข้อมูลทางการเงินเพื่อยกระดับการติดตามตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัย’ ชุดนี้จึงตั้งขึ้นเพื่อให้เห็น ‘ตัวช้าง’ และเชื่อมโยงทางการเงิน
“ผมถึงกราบเรียนท่านนายกฯ ว่าขอผมมาทำชุดคณะทำงานนี้ เพราะผมเห็นว่า ถ้าเราไม่ทำการเชื่อมโยงทางการเงิน ถ้าเราไม่เห็นตัวช้าง และไม่เห็นโจรหน้าตาเป็นอย่างไร เราจะไม่มีทางจับโจรได้” ดร.เอกนิติกล่าว
รองนายกฯ และรมว.คลัง เปิดเผยอีกว่า หลังจากการประชุมคณะอนุกรรมการเชื่อมโยงข้อมูลทางการเงินเพื่อยกระดับการติดตามตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัย ครั้งที่ 1/2568 ทำให้ได้ ‘ลูกช้างมาแล้ว’ ซึ่งคือ ‘Data Bureau’ โดยต่อไป รัฐบาลวางแผนจะนำ Data Bureau มาสนับสนุน (Support) คณะกรรมการชุดอื่นๆ
นายกฯ เปิดทางจัดการเงินเทาเต็มที่
ดร.เอกนิติ เล่าต่อว่า นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล เพิ่งได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการ 3 ชุด โดยพร้อมระบุว่า “ท่านนายกฯ ได้ให้โจทย์ชัดเจน และให้ทุกคนลุยได้เต็มที่ ไม่มีการช่วยใคร และไม่ต้องกังวลเลย อันนี้คือ Mandate จากท่านนายกฯ”
รองนายกฯ และรมว.คลัง อธิบายต่อว่า การทำงานของคณะกรรมการปราบปรามอาชญากรทางเทคโนโลยีมีหลักการทำงานเช่นเดียวกับธีมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคือ “กระตุ้นสั้น แต่ได้ผลยาว กระจายตัว” โดยชุดอนุกรรมการปราบปรามจะช่วยแก้ปัญหาระยะสั้น ส่วนอนุกรรมการเชื่อมโยงข้อมูลทางการเงินได้ผลยาว
“ถ้าไม่ทำผลยาวจะแก้ปัญหาได้แค่เป็นจุดๆ ขณะที่ Data Bureau จะทำให้เห็นการเชื่อมโยง วันนี้ชุดอนุกรรมการของผมที่ต้องทำก็คือ ให้ได้ผลยาว” ดร.เอกนิติกล่าว


