Mirror คือแบรนด์กระจกที่มองเผินๆ แล้วเหมือนกระจกเงาทั่วไป แต่จริงๆ แล้วมันมาพร้อมจอ LCD ที่สามารถทำหน้าที่แทนเทรนเนอร์สอนออกกำลังกายได้
ทุกวันนี้เทรนด์รักษาสุขภาพ และเทรนด์การออกกำลังกายก็ยังคงเป็นที่นิยมอยู่เรื่อยๆ เราได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อทำให้การออกกำลังกายของคนยุคใหม่เป็นเรื่องง่ายขึ้นและสนุกยิ่งขึ้น แต่แอปพลิเคชันเทรนนิงทั่วไปก็คงไม่น่าตื่นเต้นอีกต่อไป เพราะตอนนี้ Brynn Putnam ผู้ก่อตั้งและ CEO ของแบรนด์น้องใหม่ ‘Mirror’ ได้ปล่อยโปรดักต์แรกมาให้สาวกเฮลตี้ได้ลองกันแล้ว
Mirror คือกระจกเงากว้าง 22 นิ้ว สูง 52 นิ้ว ซึ่งผู้ใช้งานสามารถส่องกระจกได้เห็นเต็มตัวหากปิดระบบไว้เฉยๆ แต่ถ้าเปิดใช้งานแล้ว กระจกเงาที่เห็นก็คือจอ LCD แนวตั้ง ที่มาพร้อมลำโพงสเตอริโอ ซึ่งทุกอย่างที่ปรากฏบนหน้าจอ (หรือหน้ากระจก) จะสามารถควบคุมและตั้งค่าได้ผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ
ความเก๋ของ Mirror คือมันถูกดีไซน์ออกมาเพื่อผู้ใช้งานที่อยากออกกำลังกาย แต่ขี้เกียจที่จะไปสมัครสมาชิกฟิตเนส หรือต้องใช้เวลาเดินทางจากบ้านไปยังยิมที่ต่างๆ และสำหรับบางคนก็อาจจะไม่ชอบการออกกำลังกายโชว์กับคนแปลกหน้าคนอื่นๆ ด้วย ทำให้ Mirror เหมาะสุดๆ สำหรับคนยุคใหม่ที่แค่ลุกขึ้นจากเตียง ก็เดินไปออกกำลังกายได้ทันทีภายในบ้าน แถมยังเป็นอุปกรณ์ที่ไม่กินที่ และไม่รบกวนการตกแต่งภายในของบ้านเลย
เมื่อเปิดใช้งาน Mirror และตั้งค่าตามผู้ใช้งานแต่ละคนแล้ว (ผู้ใช้งานกำหนดได้ว่ามีปัญหาที่จุดไหนของร่างกายไหม) ผู้ใช้งานจะยังสามารถส่องเห็นเงาของตัวเองอยู่ แต่บนจอจะมีเทรนเนอร์ที่คอยนำท่าการออกกำลังกาย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าอยากออกกำลังกายในคลาสไหน ไม่ว่าจะเป็น คาร์ดิโอ, บ็อกซิ่ง, พิลาทิส, โยคะ, คาร์ดิโอแดนซ์ และอีกกว่าพันคลาส หรือจะเลือกคลาสรายสัปดาห์กว่า 50 คลาส ที่จะมีการสตรีมสดๆ จากสตูดิโอในนิวยอร์ก ซึ่งผู้ใช้งาน Mirror จากหลายๆ ที่สามารถดูและออกกำลังกายไปพร้อมๆ กันได้ และเทรนเนอร์ในคลาสจะมีอุปกรณ์วัดเรตการเต้นของหัวใจติดอยู่ ทำให้เราสามารถเช็กจังหวะการเต้นของหัวใจได้ในหน้าจอ ซึ่งถ้าผู้ใช้งานมี Apple Watch ก็สามารถแทร็กเรตของตัวเองเพื่อเปรียบเทียบกันได้ด้วย
ที่สำคัญ บนหน้าจอ Mirror ก็จะคอยโชว์ว่าที่เราออกกำลังกายไปนั้นสามารถเบิร์นไปได้แล้วกี่แคลอรี เหลือเวลาอีกเท่าไรในคลาสนั้นๆ (คลาสทั่วไปจะอยู่ที่ตั้งแต่ 15-60 นาที) ไปจนถึงชื่อผู้ใช้งานแอ็กเคานต์อื่นๆ ที่ออกกำลังกายในคลาสนั้นๆ อยู่พร้อมกัน
“คนส่วนใหญ่ในสังคมชอบส่องกระจกเพื่อจับผิดส่วนต่างๆ ของตัวเอง แต่เป้าหมายของเราคือ ให้เวลากับคุณที่จะส่องกระจกและรู้สึกดีกับตัวเอง เพราะกระจกคือเครื่องมือที่สามารถทำให้คุณแข็งแร่งขึ้น และสุขภาพดีขึ้นได้” Brynn Putnam ให้สัมภาษณ์ถึง Mirror นอกจากนี้ประโยชน์ของการที่ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นตัวเองขณะออกกำลังกายได้นั้น ทำให้สามารถควบคุมท่าออกกำลังกาย และการบาลานซ์ร่างกายที่ถูกต้องและเหมาะสมยิ่งขึ้นด้วย
Brynn Putnam ยังกล่าวว่าในอนาคต Mirror จะปล่อยโปรดักต์ตัวใหม่ออกมาที่มีทั้งไมโครโฟน และกล้องที่ฝังไว้กับกระจก เพื่อเพิ่มออปชันให้กับผู้ใช้งาน ในการจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวที่จะสามารถมองเห็นผู้ใช้งานขณะออกกำลังกาย และดีไซน์การออกกำลังกายให้กับผู้ใช้งานนั้นๆ โดยเฉพาะด้วย
ปัจจุบันผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปทดลองใช้งาน Mirror ได้ที่โชว์รูมในนิวยอร์ก และสั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์ www.mirror.co/ ซึ่งราคาก็ค่อนข้างสูง อยู่ที่ 1,495 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 47,300 บาทไทยเลยทีเดียว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์