×

ทุกวันนี้เราให้คุณค่ากับการ ‘โหมโรง’ น้อยเกินไปหรือเปล่านะ

07.09.2020
  • LOADING...

เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สตรีมมิง Netflix ได้เลือกภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้ชุ่มชื่นหัวใจเรื่อง The Holiday (2006) กลับมาฉายใหม่ ทำให้ได้มีโอกาสกลับไปดูภาพยนตร์ประจำเทศกาลวันหยุดเรื่องนี้อีกครั้ง เรื่องราวอยู่ในช่วงระหว่างคริสต์มาสถึงปีใหม่ เล่าเรื่องของนักเขียนสาว ไอริส (รับบทโดย เคต วินสเลต) และผู้ผลิตเทรลเลอร์ภาพยนตร์คนเก่ง อแมนด้า (คาเมรอน ดิแอซ) ทั้งสองอยู่ในช่วงเบรกจากความรักที่ผิดหวังและตกลงสลับบ้านกันในช่วงเทศกาลวันหยุด ซึ่งกลายเป็นเรื่องดีๆ ที่ทั้งคู่ได้พบกับรักครั้งใหม่


เรื่องราวแสนฟีลกู๊ดดำเนินไปอย่างเรียบง่าย แต่กลับมีเรื่องให้ฉุกคิด เมื่อในฉากหนึ่งของเรื่อง แกรห์ม (รับบทโดย จู๊ด ลอว์) ถามอแมนด้าว่าเธอคิดอย่างไรกับการเล้าโลมหรือการโหมโรงก่อนมีเซ็กซ์

 

 

Amanda: I think it’s overrated. 

Graham: You are quickly becoming one of the most interesting girls I’ve ever met.   


การที่อแมนด้าตอบว่าเธอคิดว่าผู้คนให้คุณค่ากับมันมากเกินไป สู่ประโยคที่แกรห์มบอกว่าการตอบแบบนี้ทำให้เธอน่าสนใจขึ้นมา ก็ชวนให้คิดไปได้ว่าส่วนใหญ่เพศหญิงชอบการเล้าโลมมากกว่าเพศชายที่อาจมีแนวโน้มชอบความเข้าประเด็นให้ไวมากกว่า ซึ่งอย่างไรก็ตาม จริงๆ ก็คงไม่ใช่ทุกคนที่รู้สึกแบบนี้เท่ากัน เพศใดๆ ก็มีสิทธิ์เพลิดเพลินกับกิจกรรมหวานก่อนบรรเลงเพลงรัก หรืออาจจะไม่ชอบเอาเสียเลยก็ได้เช่นกัน 

 
สัปดาห์นี้ THE STANDARD POP จึงชวน พญ.ชัญวลี ศรีสุโข มาอินกับภาพยนตร์ The Holiday ด้วยกัน และให้คุณค่ากับศาสตร์แห่งการเล้าโลมมากขึ้นอีกสักหน่อยว่าทำไมเราจึงไม่ควรมองข้ามกิจกรรมนี้ 


มาสเตอร์สและจอห์นสันเป็นทีมนักวิจัยผู้ร่วมกันคิดค้น ‘วงจรการตอบสนองทางเพศ หรือ Sexual Response Cycle ตั้งแต่ปี 1950 และยังคงใช้อ้างอิงกันมาจนถึงปัจจุบัน 


ใจความมีอยู่ว่าวงจรการตอบสนองทางเพศเป็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เมื่อมีการกระตุ้นความต้องการทางเพศ ไม่ว่าจะผ่านประสาทสัมผัสทางร่างกาย ตา หู จมูก ลิ้น หรือทางจิตใจ การเปลี่ยนผ่านแต่ละระยะในหญิงและชายอาจจะไม่เรียงลำดับ ใช้เวลาไม่เท่ากัน ความรุนแรงต่างกัน และตอบสนองต่างกัน หรือแม้ในเพศเดียวกัน แต่ละคนก็ต่างกัน บางคนอาจจะไม่ผ่านทุกระยะ หรือบางระยะอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ โดยระยะของการตอบสนองแบ่งได้เป็น 4 ระยะ ต่อไปนี้ 

 

1. ระยะกระตุ้นความต้องการ (Desire or Libido) เกิดขึ้นได้จากความคิด ความฝัน การได้ยิน ได้กลิ่น เห็นภาพ การสัมผัส ซึ่งในชายสามารถเข้าสู่ระยะนี้ได้ง่ายกว่าผู้หญิงที่ส่วนใหญ่แล้วต้องอาศัยการเล้าโลม ในช่วงนี้กล้ามเนื้อจะตึงตัว หัวใจเต้นเร็ว หน้าแดง เกิดอาการร้อนบริเวณผิวเนื้อ ผิวตัว ฝ่ายหญิงจะรู้สึกอวัยวะเพศบวมพอง มีน้ำหล่อลื่น หัวนมตั้งชู ฝ่ายชายจะอัณฑะบวมตึง อวัยวะเพศชายเริ่มแข็งตัว มีน้ำหล่อลื่น

2. ระยะปลุกเร้า (Arousal) เมื่อเกิดการกระตุ้นความต้องการทางเพศไปเรื่อยๆ อาการในข้อ 1 จะรุนแรงมากขึ้น หัวใจเต้นเร็วมากขึ้น หายใจหอบ น้ำหล่อลื่นออกมากขึ้น ส่วนอวัยวะเพศหญิง ปุ่มกระสันไวต่อการสัมผัส อวัยะวะเพศชายแข็งตัวมากขึ้น พร้อมมีเซ็กซ์และหลั่งอสุจิ

3. ระยะถึงจุดสุดยอด (Orgasm) ปลุกเร้าจนถึงขีดสุด กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ช่องคลอด และกล้ามเนื้อมัดอื่นๆ ของร่างกายหดเกร็ง กระตุก มีการปลดปล่อยความเครียดออกมากะทันหัน ฝ่ายชายเกิดการหลั่ง ฝ่ายหญิงกล้ามเนื้อช่องคลอดกระตุกเป็นจังหวะๆ

4. ระยะผ่อนคลาย (Resolution) ระยะนี้จะสุขสบาย กล้ามเนื้อทุกส่วนผ่อนคลาย ส่วนใหญ่จะรู้สึกเพลียและหลับไป


ดูจากระยะของการตอบสนองทางเพศ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าเป็นความจริงที่ผู้หญิงต้องการการเล้าโลมมากกว่าฝ่ายชายจึงจะเข้าสู่ระยะการตอบสนองทางเพศ งานสำรวจในผู้หญิงมากกว่า 2,300 คนของวารสาร The Journal of Sexual Medicine ในปี 2008 พบว่าส่วนใหญ่ของผู้หญิงคิดว่าผู้ชายอาจให้ความสำคัญกับการเล้าโลมมากเกินไป เพราะอันที่จริงความสุขทางเพศนั้นขึ้นอยู่กับการมีเซ็กซ์ที่มีคุณภาพอีกด้วย


นั่นก็คือคำตอบของนางเอกในเรื่อง The Holiday สอดคล้องกับการสำรวจนี้ คือเธอคิดว่าการเล้าโลมหรือโหมโรงถูกมองว่าสำคัญมากเกินไป พระเอกจึงมองว่าเธอเป็นคนน่าสนใจที่สุดในโลก เพราะใครก็คิดว่าต้องเล้าโลมให้มากๆ นั่นเอง


อย่างไรก็ตาม หญิงและชายจะถึงจุดสุดยอดง่ายขึ้นหากมีการเล้าโลมที่เหมาะสมและเพียงพอ และไม่ว่าการเล้าโลมหรือการมีเซ็กซ์ ผู้หญิงรู้สึกว่าผู้ชายใช้เวลาน้อยไป งานวิจัยพบว่าผู้หญิงต้องการการเล้าโลมประมาณ 19 นาที ในขณะที่ฝ่ายชายทำได้ประมาณ 11 นาที ผู้หญิงต้องการการมีเซ็กซ์นาน 14 นาที ฝ่ายชายทำได้แค่ 7 นาที 


งานวิจัยในผู้หญิงชาวอิยิปต์จำนวน 200 คนเพื่อหาความสำคัญของการเล้าโลม พบว่า 33% ไม่มีความสุขจากการมีเซ็กซ์ แม้สามี 72% สนใจในการเล้าโลม แต่ที่เล้าโลมทุกครั้งเมื่อมีเซ็กซ์มีเพียง 50% 


โดยฝ่ายหญิง 51% เล้าโลมฝ่ายชายด้วยวิธีที่ฝ่ายชายใช้เล้าโลมมากที่สุด 64% คือกระตุ้นปุ่มกระสันของฝ่ายหญิง ขณะที่ฝ่ายหญิงชอบให้เล้าโลมโดยการสัมผัสกอดรัด 33% จูบ 25% เลียหรืออมอวัยวะเพศ 37% 


สรุปว่าการเล้าโลมมีความสำคัญต่อวงจรการตอบสนองทางเพศ ทำให้เกิดความต้องการ เกิดการปลุกเร้า ทำให้ถึงจุดสุดยอดง่ายขึ้น ผ่อนคลายได้มากขึ้น มีความสุขจากการมีเซ็กซ์สูงขึ้น การเล้าโลมโดยทั่วไปไม่มีอันตราย หากไม่ใช้ความรุนแรงในคนที่ไม่มีรสนิยมเฉพาะทาง

 

การมองข้าม ไม่เห็นความสำคัญของการเล้าโลม จะส่งผลทำให้ไม่มีความสุขในการมีเซ็กซ์ ไม่อยากมีเซ็กซ์ ลดความผูกพันของสามีภรรยา ตามมาด้วยโรคเครียด ซึมเศร้า กลัวการมีเซ็กซ์ หรือเจ็บปวดในขณะมีเซ็กซ์


สำหรับฝ่ายชาย งานวิจัยยืนยันว่าฝ่ายชายต้องการการเล้าโลมไม่ต่างจากฝ่ายหญิง โดยเฉพาะชายสูงวัย โดยทั่วไปทั้งสองเพศใช้วิธีเล้าโลมไม่ต่างกัน แต่ฝ่ายหญิงมีความสุขในขณะเล้าโลมและหลังมีเซ็กซ์มากกว่าฝ่ายชายซึ่งมีความสุขขณะมีเซ็กซ์มากกว่าช่วงอื่นใด

 

อ้างอิง:

  • Miller SA, Byers ES. Actual and desired duration of foreplay and intercourse: Discordance and misperceptions within heterosexual couples. J sex Res. 2004 Aug; 41(3):301-9. 
  • Younis I, Ibrahim MA, El-Habbaq DM, Farag RK. Foreplay importance from the point of view of a sample of Egyptian women. Egypt J Dermatol Venerol 2020;40:53-8.
  • Herbenick D, Fu T-C, Arter J, Stephanie A. Women’s Experiences With Genital Touching, Sexual Pleasure, and Orgasm: Results From a U.S. Probability Sample of Women Ages 18 to 94. Journal of Sex & Marital Therapy 2018: 44: 201-212.
  • Galinsky A. “Sexual Touching and Difficulties with Sexual Arousal and Orgasm Among U.S. Older Adults,” Arch Sex Behav2012; 41:875.
  • Hite S. The Hite Report: A National Study of Female Sexuality. Originally published in 1976. Currently in print from Seven Stories Press, NY, 2003.
  • Denney NW,  Field J K, Quadagno D. Sex differences in sexual needs and desires. Arch Sex Behav 1984;13(3):233-45.
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X