วันนี้ (27 พฤศจิกายน) ที่ Crystal Design Center (CDC HALL) งาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2022 ในธีม ‘EDGE OF TOMORROW เศรษฐกิจไทยบนปากเหว’ ปิดท้ายการเสวนาร่วมพูดคุยกับคนรุ่นใหม่ ได้แก่ ศานนท์ หวังสร้างบุญ, พริษฐ์ วัชรสินธุ, คมสันต์ ลี และ แอนนา เสืองามเอี่ยม ในหัวข้อ ‘GENERATION HOPE อนาคตประเทศไทยในมือคนรุ่นใหม่’ ดำเนินรายการโดย นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และบรรณาธิการบริหาร THE STANDARD
พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการรณรงค์สื่อสารนโยบาย พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ความผิดหวังของคนรุ่นใหม่แบ่งออก 2 ส่วน คนรุ่นใหม่ผิดหวังหรือไม่ แล้วส่งผลเสียอย่างไร หากถามว่าคนรุ่นใหม่ และผลเสียต่อประเทศ ไม่กล้าตอบแทนว่าคนรุ่นใหม่สิ้นหวังจริงหรือไม่ ไม่กล้าตอบแทน เพราะทุกคนมีความคิดที่ไม่เหมือนกัน
พริษฐ์มองปรากฏการณ์อยากย้ายประเทศของคนรุ่นใหม่ว่า ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เนื่องจากมาพร้อมกับช่วงที่มีการเรียกร้องทางการเมืองของคนรุ่นใหม่จำนวนมาก และมีการแสดงความคิดเห็น ซึ่งแม้ว่าแต่ละคนมีเหตุผลในการเลือกย้ายไปต่างประเทศแตกต่างกัน แต่หนึ่งในเหตุผลที่เชื่อมโยงกันคือเรื่องการเมือง ที่เกิดจากการสะสมความผิดหวังเกี่ยวกับการเมือง โดยเฉพาะเลือกตั้งครั้งแรกหลังจากที่มีการรัฐประหาร และการยุบพรรคอนาคตใหม่ในปี 2562
พริษฐ์กล่าวอีกว่า แต่ในปัจจุบันนั้นเราไม่สามารถสูญเสียบุคลากรให้แก่ต่างประเทศได้ การที่เรามีโอกาสที่จะสูญเสียให้แก่ประเทศอื่น จะสร้างวิกฤตให้แก่ประเทศอย่างมหาศาล ทั้งต่อเศรษฐกิจและระบบการเมืองไทย
พริษฐ์ยังเผยถึงสถิติของการศึกษาไทยว่า ชั่วโมงเรียนเยอะ และเป็นนักเรียนที่เรียนหนักที่สุด แต่ในอีกสถิติหนึ่งคือ หากวัดทักษะจากการประเมิน ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 50 กว่า จาก 79 ประเทศทั่วโลก เด็กไทยเรียนหนักมาก แต่ไม่สามารถแปรเด็กเหล่านั้นมาเป็นทักษะได้ ดังนั้นชี้ให้เห็นว่า ต่อให้เด็กไทยขยันแค่ไหน หากระบบไม่ดี ไม่สามารถแปรความขยันมาได้ โดยเฉพาะเรื่องของความเหลื่อมล้ำที่ตกมายังรุ่นสู่รุ่น ทำให้ชะตากรรมของคนคนหนึ่งต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตา ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ความสามารถและความพยายาม
พริษฐ์ยังกล่าวถึงความหวังของคนรุ่นใหม่ต่อการเลือกตั้งครั้งที่จะสร้างความหวังให้ที่สำคัญมากของคนรุ่นใหม่ว่า เสียงของเขาเหล่านั้นมีความหมาย พร้อมทั้งยืนยันว่าเราต้องคาดหวังว่าการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ไม่ได้เป็นแค่การเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาล แต่ต้องเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างกติกาที่ไม่เป็นธรรมด้วย พรรคก้าวไกลเวลาที่คิดชุดนโยบายต้องคำนึงว่าต้องทำให้ได้ภายใน 4 ปีด้วย