สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เดือนมกราคม 2564 นี้ ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศอยู่ที่ 55,208 คัน ลดลง 46.96% จากเดือนธันวาคม 2563 และหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ลดลง 21.3% สาเหตุมาจากความกังวลการระบาดของโควิด-19 รอบสองปลายปี 2563 ขณะที่ยอดขายรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 135,641 คัน เพิ่มขึ้น 9.53% จากเดือนก่อนหน้า และลดลง 6.63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ด้านการผลิตพบว่า รถยนต์ที่ผลิตได้เดือนมกราคม 2564 อยู่ที่ 148,118 คัน ลดลง 5.21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2563 เพิ่มขึ้น 3.53% ส่วนหนึ่งที่การผลิตลดลงจากปีก่อน เพราะการผลิตขายในประเทศลดลง 12.38% แต่การผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 0.77% จากประเทศคู่ค้าเริ่มมียอยขายรถยนต์ดีขึ้น แบ่งเป็น
- รถยนต์นั่ง ผลิตได้ 53,609 คัน ลดลง 9.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ผลิตได้ 23 คัน เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- รถยนต์บรรทุก ผลิตได้ 94,486 คัน ลดลง 2.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- รถกระบะขนาด 1 ตัน ผลิตได้ 92,339 คัน ลดลง 2.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน ผลิตได้ 2,147 คัน เพิ่มขึ้น 3.24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศมีจำนวน 62,321 คัน คิดเป็น 42.08% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง 12.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่การผลิตเพื่อส่งออกพบว่า เดือนมกราคม 2564 ผลิตได้ 85,797 คัน คิดเป็น 57.92% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 0.77% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป พบว่าส่งออกได้ 74,132 คัน เพิ่มขึ้น 13.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นใน 3 ตลาด ได้แก่ ตลาดเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดยมีมูลค่าการส่งออก 41,435.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.40%
ทั้งนี้เดือนมกราคม 2564 มูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป, เครื่องยนต์, ชิ้นส่วนอื่นๆ, อะไหล่รถยนต์, รถจักรยานยนต์, ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 69,780.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.22% จากปี 2563
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล