×

ตรวจสอบสังคมนิยมบูลลี่ ในซีรีส์ The School Nurse Files

28.09.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • The School Nurse Files ให้ความสำคัญกับตัวละครที่แปลกและแตกต่าง โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายในช่วงวัยรุ่นที่เป็นช่วงวัยแห่งการปลูกสร้างตัวตน ช่วงวัยที่สนุกสนานกับชีวิตได้อย่างที่สุดและมีความสุขที่สุด 
  • การกระทำของตัวละครจึงเป็นเหมือนไกด์ชีวิตที่บอกได้ว่า ‘เราควรยอมรับความแตกต่างระหว่างกันและกัน ไม่มีใครหรอกที่สมบูรณ์แบบ และถ้าเราแปลกไปจากคนอื่น จะมองโลกนี้อย่างไรให้มีชีวิตต่อไปได้อย่างไม่โดดเดี่ยวนัก’
  • * บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาของซีรีส์ *

ภายใต้ฉาบหน้าของซีรีส์แฟนตาซีล่าปีศาจ The School Nurse Files กลับส่งเมสเสจหลักที่หนักแน่น อันเป็นใจความสำคัญของซีรีส์เรื่องนี้ที่ว่า “แม้เราจะแตกต่างจากคนอื่น จะถูกเข้าใจอย่างผิดๆ จะไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ จะทำพลาดอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าเรามีใครสักคนที่มองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเรา รวมพลังกันอย่างเข้มแข็ง เราก็จะเดินหน้าต่อไปได้”

 

The School Nurse Files เล่าถึงเรื่องราวของ อันอึนยอง ครูพยาบาลประจำโรงเรียนมัธยมมงลียอนที่มีพลังวิเศษในการมองเห็นปีศาจเยลลีรูปแบบต่างๆ ที่ปรากฏตัวอยู่ทั่วโรงเรียน เธอทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเด็กๆ จากปีศาจสุดอันตรายเหล่านี้ ด้วยปืนบีบีกันที่มีกระสุนลงคาถา และดาบพลาสติกสีสดที่ฟาดเยลลีทีเดียวตายเรียบ อันอึนยองร่วมมือกับ ฮงอินพโย ครูสอนภาษาจีน ในการค้นหาที่มาของเหตุการณ์ประหลาดในโรงเรียน 

 

อย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือการบูลลี่ หรือพฤติกรรมความรุนแรงทั้งทางร่างกายและคำพูด ซึ่งเกิดขึ้นกับหลายตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้ ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ และตั้งใจจนถึงขั้นแบ่งแยก แบน รังเกียจ ซึ่งเป็นการสะท้อนสังคมในทุกวันนี้ที่แม้จะใส่ใจการกระทบกระทั่งความรู้สึก แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าในชีวิตจริงการมองคนที่แตกต่างว่าไม่ใช่พวกเราก็ยังคงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่จริง 

 

The School Nurse Files ให้ความสำคัญกับตัวละครที่แปลกและแตกต่าง โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายในช่วงวัยรุ่นที่เป็นช่วงวัยแห่งการปลูกสร้างตัวตน ช่วงวัยที่สนุกสนานกับชีวิตได้อย่างที่สุดและมีความสุขที่สุด การกระทำของตัวละครจึงเป็นเหมือนไกด์ชีวิตที่บอกได้ว่า ‘เราควรยอมรับความแตกต่างระหว่างกันและกัน ไม่มีใครหรอกที่สมบูรณ์แบบ และถ้าเราแปลกไปจากคนอื่น จะมองโลกนี้อย่างไรให้มีชีวิตต่อไปได้อย่างไม่โดดเดี่ยวนัก’

 

* บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาของซีรีส์ *

 

 

“ครั้งแรกที่เจอตัวละคร อันอึนยอง ฉันคิดว่าทั้งประหลาดทั้งพิลึก แต่พอได้อ่านมากขึ้น ฉันก็เริ่มสงสารเธอค่ะ ปกติฉันจะเลือกบทที่ปลอบโยนคนดู แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันพบว่าตัวละครนี้เป็นฝ่ายปลอบใจฉัน ตลอดเวลาที่เล่น ฉันหวังว่าคนดูจะรับรู้ถึงการปลอบโยนที่ตัวละครนี้มอบให้” – จองยูมิ

 

อันอึนยอง ครูพยาบาลแปลกที่มองเห็นปีศาจ

สังคมในโรงเรียนของเกาหลีมีประเด็นเรื่องการบูลลี่ชัดเจนมากและแทรกซึมอยู่ในซีรีส์แทบทุกเรื่อง ฉากที่พาย้อนไปวัยเด็ก เราจะเห็นว่าอันอึนยองไม่มีเพื่อน เพราะเธอมองเห็นปีศาจ จะมีคนมาคุยกับเธอก็เพราะอยากรู้ว่ามีวิญญาณอะไรติดตามอยู่หรือไม่เท่านั้น เธอจึงเป็นเพียงตัวประหลาดสำหรับเพื่อนๆ และใช้ชีวิตอึดอัดใจอยู่คนเดียวในโลกอันโดดเดี่ยวที่ไม่มีใครยอมรับในความแปลกของเธอ 

 

“สองคนนี้ก็ต้องนั่งด้วยกันแหละถูกแล้ว” ในฉากนี้ เราได้เห็นรูปแบบการบูลลี่ในห้องเรียนที่ปกติธรรมดา เมื่อไม่มีใครอยากนั่งข้างอันอึนยอง เด็กผู้หญิงที่มองเห็นผีได้ สุดท้ายเธอได้นั่งโต๊ะคู่กับเพื่อนผู้ชายที่ถูกเมาท์ว่าพ่อของเขาหาเงินจากการฆ่าคน 

 

โตขึ้นมา อันอึนยองมีอาชีพเป็นครูพยาบาล ตำแหน่งที่เหมือนถูกลืมเลือนในโรงเรียน เราจะเห็นเธอแบกหุ่นซ้อมช่วยชีวิต CPR ไปตามทางเดินในโรงเรียน ทำหน้าที่ของตัวเองไปวันต่อวัน นอกจากนี้ตัวละครอันอึนยองยังสะท้อนให้เห็นการพยายามเป็นคนธรรมดา เธอไว้ผมบ๊อบเรียบง่าย หน้าตาเรียบๆ เสื้อผ้าที่สวมใส่มักเป็นเสื้อคอเต่า ปิดบังรอยแผลที่เกิดจากการต่อสู้กับเยลลี และถ้าสังเกตจะเห็นว่าเธอใส่รองเท้าผ้าใบตลอดเวลา เพราะไม่รู้ว่าจะต้องวิ่ง ต้องกระโดด หรือต่อสู้กับเยลลีปีศาจเมื่อไร ห้องครูพยาบาลที่โรงเรียนดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่ข้างในตู้เก็บของเต็มไปด้วยเครื่องรางของขลังและสิ่งของทางจิตวิญญาณจากทั่วโลก 

 

จริงๆ แล้วชีวิตของอันอึนยองมีอย่างเดียวคือการกำจัดปีศาจ เธอจะรักหรือเกลียดมัน แต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่ไม่เคยมองว่าเธอแปลก ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่าเยลลีเหล่านี้นี่แหละที่เป็นสีสันในชีวิตเธอ ทุกครั้งที่ได้ต่อสู้กับปีศาจ เราจะเห็นพลังชีวิตในตัวอันอึนยองเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

 

“มีคนหนึ่งต้องการพลัง และมีอีกคนที่ให้พลังนั้นได้ พวกเขาเลยแยกจากกันไม่ได้ แทบไม่ต่างอะไรกับโทรศัพท์และที่ชาร์จเลยครับ ผมมั่นใจว่าคนดูจะรู้สึกถึงความจำเป็นนั้นได้ และคิดว่าพวกเขาไม่ควรแยกจากกันนะ พวกเขาต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดสิ” – นัมจูฮยอก

 

ฮงอินพโย ครูสอนภาษาจีนเจ้าของเกราะคุ้มกัน

ฮงอินพโย เหม่อมองดูรูปตัวเองในวัยเรียน ภาพนักกีฬาบาสเกตบอลที่สีหน้าเต็มไปด้วยความสุข คงไม่มีใครนึกว่าชีวิตจะพลิกผันเพียงเพราะอุบัติเหตุ จนทำให้ขาไม่สามารถวิ่งเร็วได้อย่างที่เคย จากนักเรียนคนดังของโรงเรียน กลายเป็นเด็กผู้ชายขากะเผลก แม้ว่าจะเป็นหลานชายของผู้ก่อตั้งโรงเรียนมัธยม แต่ฮงอินพโยที่ขาพิการก็เป็นได้แค่ครูสอนภาษาจีนประจำโรงเรียน ซึ่งวิชาที่เขาสอน เอาจริงๆ ก็ไม่ใช่วิชาหลักที่นักเรียนจะต้องตั้งใจเอาเป็นเอาตาย เป็นอาชีพที่ผู้คนแทบไม่เห็นความสำคัญ

 

มีหลายฉากที่แสดงให้เห็นว่าฮงอินพโยอยากให้ทุกคนมองเห็นเขาปกติธรรมดา ไม่ต้องมาสงสารหรือเห็นใจ ฉากที่เขาพบกับอันอึนยองครั้งแรก เธอทักขึ้นมาว่า “ขาของครูมีปัญหาเหรอคะ” ฮงอินพโยก็รีบดึงขากางเกงลงมาปิดเท้า เพื่อไม่ให้เห็นความผิดปกตินั้น หรือฉากที่เพื่อนเก่ามาหาที่บ้าน เขาก็รีบเอาไม้เท้าหลบไปไว้ข้างหลังเก้าอี้ตอนที่เธอถามถึงอาการหลังอุบัติเหตุ

 

หรือฉากที่ปีศาจเยลลีเข้าสิงครูประจำชั้นระหว่างประชุม “สัปดาห์หน้าจะมีนักเรียนปี 2 ย้ายมาใหม่ คิดว่าให้อยู่ห้องไหนดีครับ… นักเรียนที่ย้ายมาคนนี้ทุพพลภาพครับ” หลังจากนั้นเสียงหัวเราะในห้องพักครูก็ระเบิดขึ้นทันที ขณะที่ฮงอินพโยนิ่งเงียบ สีหน้าตื่นตระหนก และเผลอจับขาข้างซ้ายที่บาดเจ็บของเขา 

 

นอกจากนี้ฮงอินพโยยังพยายามซ่อนความบกพร่องทางร่างกายด้วยการใส่กางเกงขาบาน เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งๆ ถึงแม้เขาจะดูเฉยชาไม่ค่อยใส่ใจ แต่ก็อยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่อง และเพราะความที่ไม่เคยมีใครอยู่ข้างๆ มาก่อน พอมีเพื่อนเป็นครูพยาบาลอันอึนยอง เขาเลยกลายเป็นคนพูดไม่หยุดปากทุกครั้งที่ได้เจอ จากผู้ชายธรรมดาพอได้มาเจอกับคนที่ไม่ธรรมดา และรู้ว่าตัวเองไม่ธรรมดาเหมือนกัน ฮงอินพโยจึงได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับตัวเอง และมีวุฒิภาวะผ่านการแก้ปัญหาต่างๆ สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ที่ส่งเสริมกันของสองตัวละครที่ไม่สมบูรณ์แบบ ซึ่งเติบโตร่วมกันไปเป็นคนที่ดีขึ้น 

 

 

“ฉันเดตกับแรดี”

“ให้ตายเถอะ จะบ้าเหรอ ผู้หญิงด้วยกันนะ”

 

ลูกไล่ทีมบาส เด็กกำพร้า คู่รักเพศเดียวกัน

ด้วยความที่เรื่องราวเกิดในรั้วโรงเรียน เราจึงเห็นตัวละครรายล้อมที่เป็นเหตุการณ์ในโรงเรียนมากมาย ซึ่งสิ่งที่เล่าออกมาก็สะท้อนความเป็นจริงในโรงเรียน ทั้งหัวหน้าทีมบาสเกตบอลประจำโรงเรียนที่เป็นหัวโจก มีลูกน้องคอยรับคำสั่งทำตามที่เขาต้องการ จนทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงจากความคับแค้นใจของนักเรียนที่ถูกกระทำ

 

หรือการที่ แพ็กฮเยมิน เด็กสาวกำพร้าคนหนึ่งถูกกระทบกระเทียบตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามา เมื่อเพื่อนในห้องต่างซุบซิบกันว่าเธอได้อาบน้ำก่อนมาไหม ชุดนักเรียนของเธอเหมือนของมือสอง เก็บได้จากที่ไหนมาหรือเปล่า เหล่านี้คือสิ่งสะท้อนความเป็นจริงในสังคม ที่เราต่างไม่ต้อนรับคนที่แปลกแยกไปจากพวกตัวเอง

 

กระทั่งในฉากโรงอาหารที่มีการเปิดเผยว่าเพื่อนสาวร่วมห้องเรียน แพ็กฮเยมินและแรดีกำลังคบหากัน การได้เห็นประเด็นนี้ในซีรีส์สะท้อนว่าความแตกต่างหลากหลายทางเพศก็คือความแปลกปลอมของสังคมชายเป็นใหญ่ โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ซึ่งเพศที่สามยังไม่ได้มีการยอมรับเสรี  

 

เรื่องการคบหากันระหว่างแพ็กฮเยมินและแรดี ทำให้เพื่อนนักเรียนเสียงแตกเป็นกลุ่มที่คัดค้านหัวชนฝา กับกลุ่มที่มองว่าก็ไม่เห็นเป็นไร น่าสนใจว่าในอนาคตความหลากหลายทางเพศจะได้รับการยอมรับมากขึ้น จากการที่ฉากเล็กๆ ในซีรีส์เรื่องนี้ที่มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย 

 

 

“เรื่องที่รู้แต่เลี่ยงไม่ได้ ทำอย่างไรได้นอกจากเผชิญหน้า” – คิมคังซอน

 

คิมคังซอน เพื่อนเก่าที่เป็นจุดเปลี่ยนชีวิต

คิมคังซอนเป็นนักเรียนร่วมห้องกับอันอึนยองสมัยมัธยม เด็กผู้ชายที่นั่งโต๊ะติดกันในเทอมนั้น เขาเองก็ถูกเพื่อนกันออกจากวงสนทนา เพราะพี่สาวเขามีเรื่องกับคนอื่นไปทั่ว ส่วนพ่อของเขาก็เป็นที่พูดกันว่าหาเงินได้จากการฆ่าคน ดังนั้นการที่คนแปลกสองคนในห้องเรียนนั่งโต๊ะติดกันจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดแล้วในสายตาของเพื่อนร่วมห้อง 

 

คิมคังซอนไม่ค่อยพูด เขาวาดรูปเก่ง และใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องเรียนไปกับการวาดรูป อันอึนยองเล่าให้เขาฟังเรื่องที่เธอมองเห็นวิญญาณ ปีศาจ และความหยึยที่เคลื่อนไหวรอบตัว เธอไม่ได้คิดหรอกว่าเขาจะเชื่อที่เล่าให้ฟัง แต่สุดท้ายแล้ววันหนึ่ง คิมคังซอนยื่นสมุดโน้ตเล็กๆ ให้อันอึนยอง มันมีรูปการ์ตูนเด็กผู้หญิงที่ถือดาบวิ่งฟาดฟันเยลลีด้วยสีหน้ามุ่งมั่น

 

อันอึนยอง: ปัญหาของฉันไม่ใช่การ์ตูนนะ

คิมคังซอน: มันก็ไม่ต่างกันนักหรอก… ฉันจะบอกว่าควรใช้อุปกรณ์ไง อย่าเจ็บป่วย จงสนุกกับมัน ใช้ชีวิตไปพร้อมรับความรักจากผู้คน

 

ตัวละคร คิมคังซอน เปรียบเทียบไปแล้วก็เป็นเหมือนผู้ช่วยชีวิต ผู้ที่เปลี่ยนด้านมืดให้เป็นแสงสว่าง เขามีชีวิตที่แปลกแยกแต่ก็ใช้การวาดรูปเป็นเครื่องมือช่วยให้มีความสุขไปกับชีวิตในแต่ละวันได้ เช่นเดียวกับอันอึนยองที่แม้ว่าจะมองเห็นปีศาจ แต่เธอก็มองมันให้สวยงาม มีสีสัน รูปร่างน่ารักได้ และสนุกกับความพิเศษของตัวเองได้เช่นกัน

 

ฉากที่อันอึนยองในห้องเรียนชั้นมัธยมมองเห็นตัววิญญาณหรือปีศาจมาในรูปแบบเมือกๆ สีดำห้อยจากเพดานลงมา แต่เมื่อเธอเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ สีดำเหล่านั้นก็กลายเป็นเยลลีรูปทรงน่าดูขึ้น เอาจริงๆ มันอาจจะไม่แย่นักหรอกถ้าเธอจะมองเห็นมัน

 

ภาพ: Netflix

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

FYI
  • จองเซรัง ผู้เขียนบทซีรีส์เรื่องนี้ให้สัมภาษณ์ว่า เจ้าปีศาจเยลลี แท้จริงแล้วก็คือ เศษตะกอนความปรารถนาที่ติดตัวผู้คน และเหล่าตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้ก็ล้วนต้องต่อสู้เพื่อวันพรุ่งนี้ที่จะยังมีหวังอยู่เสมอ
  • รับชมซีรีส์ The School Nurse Files ได้ทาง Netflix
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X