หลายคนคงได้เห็นฝีมือการแสดงของ อันยา เทย์เลอร์-จอย จากซีรีส์ The Queen’s Gambit ซึ่งเธอรับบท เบธ ฮาร์มอน เซียนหมากรุกวัยเยาว์ที่เฉิดฉายอยู่ในช่วงสงครามเย็น แล้วก็คงจะคิดคล้ายกันกับเราว่า การได้เห็นเธอในฉากสวยๆ โปรดักชันดีๆ ที่เก็บรายละเอียดสิ่งแวดล้อมในช่วงปี 1940-1960 ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง คือความสวยงามที่ชวนให้ติดตาตรึงใจ นอกจากบทเด่นที่นำให้เนื้อเรื่องสนุกน่าติดตามแล้ว สิ่งที่ไม่อาจสลัดหลุดไปจากความทรงจำได้ง่ายๆ คือลุคความงามของตัวละคร เบธ ฮาร์มอน ที่มีพัฒนาการด้านความงามตั้งแต่วัยเยาว์สู่วัยสาวได้ตามลำดับ งานนี้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือ ดาเนียล พาร์กเกอร์ เขาเป็นช่างทำผมและช่างแต่งหน้าที่รับหน้าที่เป็นคนออกแบบลุคแต่งหน้าทำผมให้กับซีรีส์เรื่องนี้ โดยที่มีความเก๋ของใบหน้า อันยา เทย์เลอร์-จอย ที่มีเอกลักษณ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อพาร์กเกอร์มาแปลงโฉมให้ย้อนยุคไปอีก จึงกลายเป็นลุคความงามสุดปังในช่วงยุค 40 จนถึงปลายยุค 60 ออกมาได้อย่างสมจริงที่สุด
ทรงผมเบธในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่ใส่ใจแต่น่ารัก
ดาเนียล พาร์กเกอร์ บอกว่าในซีรีส์เรื่องนี้เขาต้องเปลี่ยนวิกผมให้กับ อันยา เทย์เลอร์-จอย หลายครั้ง เพื่อเนรมิตลุคทรงผมที่ดูสมจริงมากที่สุด โดยลำดับช่วงวัยของตัวละครหลักอย่าง เบธ ฮาร์มอน ตั้งแต่อายุ 8 ปี ไปจนถึงวัย 22 ปี ซึ่งลุคเริ่มต้นที่เราได้เห็นตั้งแต่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า คือลุคตัดผมหน้าม้าสั้นเต่อ และความยาวทรงผมที่สั้นระดับติ่งหูเท่านั้น พาร์กเกอร์อธิบายว่า “สำหรับลุคทรงผมช่วงแรกในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ผมต้องการสร้างลุคที่ดูไม่ใส่ใจนัก แต่จริงๆ แล้วพอเคาะกันออกมา ทรงนี้ผมคิดว่ามันเป็นทรงผมที่ค่อนข้างน่ารักเลยล่ะ”
ทรงผมในฉาก ใช้วิกผมทั้งหมด
ดาเนียล พาร์กเกอร์ อธิบายว่าในซีรีส์เรื่องนี้ อันยา เทย์เลอร์-จอย จะมีการเปลี่ยนสไตล์ของหน้าผมประมาณ 4 ลุคที่แตกต่างซึ่งจะเห็นชัดเจน และมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปลี่ยนเป็น 3 ลุคที่แตกต่างได้ในวันเดียว จึงต้องใช้วิกผมมาช่วย อีกอย่างในชีวิตจริงของ อันยา เทย์เลอร์-จอย เธอมีผมบลอนด์ แต่บทเบธในเรื่องต้องเป็นผมสีแดง แถมผู้กำกับ สกอตต์ แฟรงก์ ยังกำกับเขาด้วยว่า “เธอเป็นคนผมแดง” อีก ทำให้พาร์กเกอร์ต้องใช้วิกผมสีแดงมาเนรมิตลุคให้ตรงใจผู้กำกับ
จากทรงผมสู่การเปลี่ยนลุคบนใบหน้า
ตลอดทั้งเรื่องของซีรีส์ นอกจากทรงผมที่ ดาเนียล พาร์กเกอร์ ใส่ใจสุดๆ แล้ว เรื่องของเมกอัพก็เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่สุด สำหรับพาร์เกอร์แล้วเขาบอกว่าการแต่งหน้าเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดของเขาในการปรับเปลี่ยนลุคของเบธ ที่ดูเติบโตและค่อยๆ เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ดังนั้นในฉากเริ่มแรกตั้งแต่วัยเยาว์ของเบธ กับทรงผมหน้าม้าเต่อ สู่ลุคเมกอัพในยุคแรกของวัยรุ่น ปาร์กเกอร์จึงออกแบบให้ลุคแต่งหน้าของเบธ ดูเป็นลุคที่สะอาด เรียบง่าย และแทบไม่แต่งหน้าเลย หลังจากนั้นเขาก็พยายามเพิ่มรายละเอียดลงไปเรื่อยๆ ตามพัฒนาการของคนที่อายุมากขึ้นเรื่อยๆ เขาต้องการให้ลุคของเด็กกำพร้าที่น่าสงสารพัฒนามาเป็นสาวเซียนหมากรุกที่มีเสน่ห์เกินต้านทาน
กราฟิกอายไลเนอร์ได้แรงบันดาลใจมาจากนางแบบ ทวิกกี้ แห่งยุค 60
ดาเนียล พาร์กเกอร์ บอกว่าในฉากคุณจะได้เห็นลุคการแต่งหน้าที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่น การเขียนปีกอายไลเนอร์ การทาปากสีแดง และทาแก้มด้วยบลัชออนสีกุหลาบ หนึ่งในฉากติดตาของผู้ชมคือลุคแต่งตาสไตล์กราฟิกไลเนอร์ที่เมื่อเทียบยุคสมัย ช่วงยุค 60 กับยุคปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าลุคของตัวละครเบธนั้นเป็นสาวทันสมัยแห่งยุคของตัวเองอย่างแท้จริง พาร์กเกอร์บอกว่าลุคนั้นเขาได้แรงบันดาลใจมาจากนางแบบที่เป็นตำนานระดับโลกอย่าง ทวิกกี้ ที่โด่งดังในยุค 60 นั่นเอง
เนรมิตเบธเป็นสาวทรงเสน่ห์แห่งยุค 60
เป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับ ดาเนียล พาร์กเกอร์ ที่เขาต้องเนรมิตคาแรกเตอร์ในจินตนาการให้ออกมาสวยปัง สามารถมองเห็นได้จริงผ่านซีรีส์เรื่องนี้ เขาเล่าว่าเมื่อเรื่องมันเริ่มเข้มข้นในยุค 50-60 ลองย้อนเวลากลับไปสิว่าในยุค 50-60 ในโลกของความจริง ใครล่ะที่สวยและมีเสน่ห์ต่อผู้ชายทั้งโลกมากที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็น มาริลิน มอนโร ซึ่งมอนโรนี่แหละที่เป็นไอคอนด้านความงามโดยรวมให้กับเบธ ส่วนทรงผมนั้นเขายกให้ เกรซ เคลลี นักแสดงระดับตำนานอีกคนที่เป็นขวัญใจชาวอเมริกันจนถึงทุกวันนี้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: