วันนี้ (4 มกราคม) ที่สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ (สน.สำราญราษฎร์) แกนนำกลุ่มราษฎรเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ. การชุมนุมฯ, พ.ร.บ. โรคติดต่อ และ พ.ร.บ. ความสะอาดฯ กรณีชุมนุมในช่วงวันที่ 8, 13 และ 14 ตุลาคม 2563 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีผู้ต้องหาในกรณีนี้ 10 รายประกอบด้วย
- อานนท์ นำภา
- รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล
- เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์
- ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก
- ไผ่-จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา
- ฟอร์ด-ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี
- ลูกเกด-ชลธิชา แจ้งเร็ว
- อั๋ว-จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์
- สมยศ พฤกษาเกษมสุข
- มายด์-ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล
โดย อานนท์ ปนัสยา และเพนกวิน เข้ามารับทราบข้อกล่าวหามาก่อนหน้านี้แล้ว และในวันนี้ผู้ต้องหาที่เหลืออีก 7 รายก็เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหากันตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00 น. ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ทั้งหมดก็เดินทางออกมาจาก สน. มาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
ด้านทัตเทพกล่าวว่า วันนี้ข้อหามีความย้อนแย้งกัน เนื่องจากว่าในช่วงของการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ นั้น พ.ร.บ. ชุมนุมฯ จะไม่ถือบังคับใช้ แต่วันนี้ปรากฏว่าในกรรมเดียวกันมีการแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 ข้อ จึงมีความลักลั่นกันอยู่
เมื่อถามถึงกรณีการนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาบังคับใช้ และแจ้งข้อกล่าวหาต่อแกนนำและผู้ชุมนุมบางส่วนอย่างต่อเนื่อง จตุภัทร์กล่าวว่าการบังคับใช้ข้อกฎหมายดังกล่าวมีความไม่เป็นธรรม ขึ้นอยู่กับการตีความ ดังนั้นข้อเรียกร้องคือการให้ยกเลิกกฎหมายข้อนี้ทันที
ขณะที่ภาณุพงศ์ระบุว่า ในปีนี้ก็ยังคงมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ แต่ยังคงต้องรอให้ผ่านพ้นช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก่อน เนื่องจากไม่อยากให้เป็นภาระต่อประชาชน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์