วันนี้ (17 ตุลาคม) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) จัดประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีโทรคมนาคมฯ โดยมี พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. เป็นประธาน เพื่อติดตามมาตรการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์
พล.ต.อ.ณัฐธร เปิดเผยว่า หลังจาก กสทช. บังคับใช้ 8 มาตรการสำคัญตาม พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2568 ประกอบกับการให้ความสำคัญของหลายประเทศ ทำให้สถิติการโทรหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยยะ
แต่กลับพบว่า SMS หลอกลวงจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมีการระงับ SMS ต้องสงสัยไม่ให้ส่งต่อแล้วกว่า 1 ล้านข้อความต่อวัน
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ กสทช. จึงได้หารือและกำหนด มาตรการควบคุมการส่งข้อความจากแอปพลิเคชันถึงบุคคลทั่วไป (A2P) โดยเฉพาะ SMS ที่มาจากต่างประเทศ ดังนี้:
1. จัดแบ่งกลุ่มผู้ส่ง SMS: ให้ผู้ให้บริการแยกกลุ่มผู้ส่ง SMS จากต่างประเทศ ออกจากผู้ส่งในประเทศอย่างชัดเจน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการคัดกรอง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการยืนยันตัวตนแบบครั้งเดียว (OTP)
2. ยืนยันตัวตนผู้ใช้งานในประเทศ: ผู้ให้บริการต้องมีระบบลงทะเบียนและยืนยันตัวตน (KYC) สำหรับผู้ที่ต้องการส่ง SMS แบบ A2P ในประเทศ เพื่อจัดกลุ่มเป็น White List แยกจากกลุ่มผู้ส่งจากต่างประเทศ
3. เข้มข้น SMS Firewall และสัญลักษณ์เตือน: ผู้ให้บริการทุกเครือข่ายต้องมีระบบคัดกรองเนื้อหา SMS Firewall เพื่อตรวจสอบเนื้อหาที่มีความเสี่ยง โดยเน้นหนักที่ SMS จากต่างประเทศเป็นพิเศษ และหาก SMS ผ่านการคัดกรองเบื้องต้น จะต้อง ติดสัญลักษณ์แจ้งเตือน ไว้หน้าข้อความ เช่น เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) เพื่อให้ผู้รับตระหนักว่าเป็น SMS ที่มาจากต่าง
ประเทศและควรระมัดระวัง มาตรการนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการทันที
4. ขึ้นทะเบียน Simbox: จะเริ่มดำเนินการในเดือนพฤศจิกายน 2568 โดย Simbox ที่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนจะไม่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่โครงข่ายโทรคมนาคมได้ ซึ่งจะทำให้ Simbox ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ไม่สามารถใช้งานได้โดยปริยาย