×

พรีวิว THE MATCH: คาดการณ์ 11 ตัวจริง ลิเวอร์พูล-แมนฯ ยูไนเต็ด ระบบการเล่น และมีอะไรที่น่าจับตาอีกบ้าง

12.07.2022
  • LOADING...
THE MATCH

ถึงวันดีเดย์แล้วสำหรับศึก THE MATCH: Bangkok Century Cup 2022 หรือศึกแดงเดือดแห่งสยาม ที่นับเป็นประวัติศาสตร์ที่สองคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล และ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้โคจรมาพบกันในค่ำคืนนี้

 

สำหรับศึก THE MATCH ครั้งนี้เกิดจากการจัดของความตั้งใจของ วินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ที่เดิมมีแผนการที่จะดึงลิเวอร์พูลมาโชว์เพลงแข้งที่ไทยในช่วงหลังจบฤดูกาล 2019/20 ซึ่งขณะนั้นทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ มีโอกาสสูงที่จะคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปี เพื่อจะได้ร่วมฉลองกับแฟนฟุตบอลชาวไทยด้วย

 

แต่จากสถานการณ์โควิด ทำให้แผนดังกล่าวถูกพับไป ก่อนจะเริ่มกลับมารื้อฟื้นใหม่ในช่วงปีที่แล้ว โดยการทำงานร่วมกับ Total Sport Asia ในฐานะคนกลางในการช่วยประสานงาน ที่มาพร้อมกับโจทย์ใหม่ที่ไม่มีใครคิดถึงมาก่อน เพราะจากที่จะดึงแค่ลิเวอร์พูลมาแข่ง ได้เปลี่ยนเป็นการดึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแข่งอุ่นเครื่องด้วยกัน ให้กลายเป็นศึก ‘แดงเดือด’ ของสองทีมที่โด่งดังที่สุดของอังกฤษ

 

จากจุดนั้นได้นำไปสู่เกมฟุตบอลนัดประวัติศาสตร์ที่ได้รับความสนใจจากแฟนฟุตบอลชาวไทยอย่างมาก แต่ก็ต้องเผชิญกับกระแสในเชิงลบไม่น้อยเช่นกันในหลากหลายประเด็นที่ถูกตั้งคำถามที่ถือเป็น ‘บทเรียน’ ที่ผู้จัดงาน รวมถึงคนที่คิดจะจัดงานใหญ่ระดับนี้ในอนาคต ต้องนำมาถอดบทเรียนกัน

 

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้คือ เกมนี้กำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งได้รับการปรับโฉมเพื่อต้อนรับเกมยิ่งใหญ่นัดนี้โดยเฉพาะ

 

เมื่อทุกฝ่ายพร้อมแล้ว ทั้งสองพร้อมแค่ไหน?

 

โม ซาลาห์ กลับมาพรีซีซันฤดูกาลนี้พร้อมรอยยิ้มตลอดเวลา หลังต่อสัญญาใหม่กับสโมสรเรียบร้อย

 

การปลุก Mentality Monster อีกครั้งของคล็อปป์

ถึงแม้จะมีขบวนรถแห่แชมป์ 2 รายการในช่วงหลังจบฤดูกาลที่แล้วท่ามกลางแฟนฟุตบอลเดอะค็อป ที่ออกมาร่วมฉลองตามถนนสายต่างๆ ในเมืองลิเวอร์พูลมากถึงกว่า 5 แสนคน แต่ลึกๆ ในใจแล้ว สภาพจิตใจของทีมถือว่า ‘ช้ำ’ อยู่ไม่น้อย

 

เพราะหลังจากที่พยายามต่อสู้อย่างหนัก ประคองความหวังในการสร้างประวัติศาสตร์ เพื่อลุ้นคว้า 4 แชมป์ (Quadruple Champ) เป็นสโมสรแรกของอังกฤษ ที่ทำให้ต้องลงสนามแบบตรากตรำถึง 63 นัด แต่สุดท้ายลิเวอร์พูลก็ได้แชมป์ ‘รอง’ เพียง 2 รายการอย่างลีกคัพและเอฟเอคัพ โดยพลาดพรีเมียร์ลีกและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกไป

 

นอกจากนี้ทีมยังสูญเสียขุมกำลังในแนวรุกไปอีก 3 คน ทั้งเสาหลักอย่าง ซาดิโอ มาเน และกำลังเสริมที่ไว้วางใจได้เสมออย่าง ดิวอค โอริกิ และ ทาคุมิ มินามิโนะ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าจะส่งผลกระทบต่อทีมอย่างแน่นอนไม่มากก็น้อย

 

อย่างไรก็ดี เจอร์เกน คล็อปป์ โดยความร่วมมือของ FSG ในฐานะเจ้าของสโมสร และ จูเลียน วอร์ด ผู้อำนวยการสโมสรคนใหม่ที่รับตำแหน่งต่อจาก ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ ที่กลายเป็นผู้อำนวยการสโมสรระดับตำนานจากผลงานมาสเตอร์พีซในการซื้อ-ขายนักเตะมากมาย ก็ได้ดึง 3 นักเตะใหม่เข้ามาทดแทน

 

รายที่สร้างความตื่นเต้นมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้น ดาร์วิน นูนเญซ สตาร์คนใหม่ในแนวรุก ที่จะเข้ามาผนึกกำลังกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, หลุยส์ ดิอาซ และ ดีโอโก โชตา พร้อมด้วยดาวรุ่งอย่าง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ที่เล่นได้หลายตำแหน่งในแนวรุก และมี คาลวิน แรมซีย์ แบ็กขวาดาวรุ่งที่จะเป็นกำลังเสริมของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในอนาคต

 

ดังนั้นจุดที่คาดว่าจะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นในแนวรุก ขณะที่แดนอื่นลิเวอร์พูลยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก และด้วยสไตล์การทำทีมของคล็อปป์แล้ว ทีมจะยึด ‘Plan A’ เอาไว้เสมอ ทำให้ทีมจะยังคงเล่นในระบบ 4-3-3 เหมือนเดิม

 

หากจะมีอะไรเพิ่มเติมคือ เรื่องของแท็กติกการเล่นที่จะมีการปรับหรือเติมอะไรเข้าไป ซึ่งการได้นูนเญซมาอาจทำให้เห็นรูปแบบการเล่นที่แตกต่างจากเดิมบ้าง

 

กระนั้นเพราะเกม THE MATCH เป็นเกมพรีซีซันนัดแรกของลิเวอร์พูล ซึ่งเพราะทั้งปิดฤดูกาลช้ากว่าทีมอื่น และยังมีนักฟุตบอลที่ติดภารกิจทีมชาติกลับมารายงานตัวช้าอีกด้วย ดังนั้นขุมกำลังที่คาดว่าจะลงสนามจึงอาจเป็นกลุ่มนักเตะที่กลับมารายงานตัวชุดแรกก่อน เช่น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์, โจเอล มาทิป, อิบราฮิมา โกนาเต, โจ โกเมซ, หลุยส์ ดิอาซ, ฮาร์วีย์ เอลเลียต, คาร์วัลโญ, โรแบร์โต เฟอร์มิโน

 

ส่วนสตาร์ที่ตามมาในภายหลังอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดี โรเบิร์ตสัน, ดีโอโก โชตา รวมถึง ดาร์วิน นูนเญซ ถูกคาดหมายอาจจะถูกใช้งานไม่นาน หรืออาจจะไม่ถูกใช้งานเลยในเกมนี้

 

โดยจากการลงฝึกซ้อมแบบเปิดให้แฟนบอลเข้าชมเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา กลุ่มนักเตะที่อาจจะไม่ได้ลงสนามคือ ติอาโก อัลกันตารา, ดีโอโก โชตา ที่อยู่ในระหว่างการเรียกสภาพความฟิต และนูนเญซซึ่งบาดเจ็บที่เท้าจนต้องหยุดซ้อมกลางคัน

 

แต่ทั้งหมดต้องอยู่ที่รายงานสภาพความพร้อมของร่างกายนักฟุตบอล ซึ่งบางคนอาจจะกลับมารายงานตัวช้า แต่ดูแลสภาพร่างกายดีมาตลอด ก็อาจพร้อมลงสนามได้ทันที

 

ดาบิด เด เคอา และ บรูโน แฟร์นันด์ส สองเสาหลักที่ต้องค้ำยันทีมในช่วงการเปลี่ยนผ่านให้ เอริก เทน ฮาก

 

ปลุกผีวิธีใหม่ในแนวทางของเทน ฮาก (โดยยังไม่มี CR7)

ขณะที่ลิเวอร์พูลอาจถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของแนวรุกสามประสาน แต่สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด พวกเขาคาดหวังถึงการเริ่มต้นยุคใหม่ของสโมสรทั้งหมด

 

นั่นเพราะในฤดูกาลที่แล้วถือเป็นจุดตกต่ำที่สุดของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ผลงานเลวร้าย เต็มไปด้วยข่าวปัญหาภายในที่ทำให้ทั้ง โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ อดีตศูนย์หน้าขวัญใจในตำนานยุค 90 ที่เคยทำให้แฟนบอลเชื่อว่า ‘ปลุกผีต้องใช้ผี’ หรือ ราล์ฟ รังนิก หนึ่งในปราชญ์ลูกหนังของวงการ ต้องเอาชื่อมาทิ้งที่โอลด์แทรฟฟอร์ด

 

ความมืดมนนั้นทำให้มีการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งในระดับสูงที่ ริชาร์ด อาร์โนลด์ รับช่วงต่อจาก เอ็ด วูดเวิร์ด ร่วมกับ จอห์น เมอร์โท ที่จะได้ทำงานแบบเต็มตัวในฐานะผู้อำนวยการสโมสรฝ่ายฟุตบอลคนแรก

 

แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดสำคัญเท่ากับการเลือก เอริก เทน ฮาก มาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างเป็นทางการ

 

เพราะการแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่รายนี้เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ที่สโมสรตัดสินใจยอม ‘ทิ้ง’ ฤดูกาล 2021/22 ด้วยการแต่งตั้งรังนิกเข้ามาคุมทีมเป็นการชั่วคราวจนจบฤดูกาล ด้วยความหวังจะ ‘ซื้อเวลา’ เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

 

โดยหลังจากที่มีการคัดกรองแล้วปรากฏว่า โค้ชจากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เบียดเอาชนะคนที่เคยเป็นตัวเต็งอย่าง เมาริซิโอ โปเชตติโน คว้าตำแหน่งไปครองได้

 

เหตุผลที่ทำให้เทน ฮาก ซึ่งโด่งดังจากการปลุกอาแจ็กซ์ให้กลายเป็นทีมระดับชั้นนำของวงการฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง และเคยพาทีมทะลุถึงรอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาล 2018/19 ได้ตำแหน่งไปมาจากแนวทางการทำทีมที่เน้นฟุตบอลเกมรุกชัดเจน แท็กติกสมัยใหม่อย่างการเพรสซิ่งสูง ไปจนถึงการพัฒนาศักยภาพนักฟุตบอลในทีมให้ขึ้นสู่ระดับสูงสุดได้ ซึ่งเป็นแนวทางที่แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการจะเดินตามคู่แข่งอีกหลายสโมสรที่กรุยทางไปล่วงหน้า

 

ความจริงแล้วแมนฯ ยูไนเต็ด มีขุมกำลังที่ไม่ขี้เหร่เลย พวกเขามี บรูโน แฟร์นันด์ส, จาดอน ซานโช, มาร์คัส แรชฟอร์ด, ราฟาเอล วาราน, ดาบิด เด เคอา ที่หากเป็นวันของพวกเขาแล้ว จะเอาชนะใครก็ได้

 

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักเตะผู้หลงทางอย่าง อองโตนี มาร์กซิยาล, ดอนนี ฟาน เดอ บีค, อารอน วาน-บิสซากา, ลุค ชอว์, วิกตอร์ ลินเดอเลิฟ รวมถึงกัปตันทีมอย่าง แฮร์รี แม็กไกวร์ ที่หวังจะให้เทน ฮาก ช่วยนำทางกลับมาสู่เวลาที่ดีอีกครั้ง

 

แต่ปัญหาใหญ่จริงๆ ในเวลานี้คือ การที่ซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 อย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ยังไม่กลับมาร่วมซ้อมกับทีม เนื่องจากต้องการย้ายออกไปอยู่ทีมที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าในช่วงบั้นปลายชีวิตการเล่น ซึ่งทำให้การเตรียมทีมค้างคา เพราะเทน ฮาก ก็ยังออกปากว่ามี ‘CR7’ อยู่ในแผนการทำทีมอยู่เสมอ

 

การมีหรือไม่มีโรนัลโดนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งสถานการณ์นี้หากยืดเยื้อนานไปจะยิ่งเป็นผลเสียต่อเทน ฮาก ในการปรับทีมเอง ไม่นับเรื่องของการเสริมกำลังที่ถึงตอนนี้เพิ่งจะได้เพียง ไทเรลล์ มาลาเซีย แบ็กซ้ายจากเฟเยนูร์ด เข้ามาเพียงรายเดียว

 

แฟรงกี เดอ ยอง, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, แอนโทนี ที่เป็นวงศ์วานว่านเครือของเทน ฮาก ในทีมอาแจ็กซ์ ที่ถูกคาดหมายว่าจะตามกันมา ก็ยังไม่มีข่าวดีให้ร้องเฮ

 

อย่างไรก็ดี สำหรับเกม THE MATCH คืนนี้ อย่างน้อยทุกคนจะได้ยลโฉมแมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคใหม่ ที่คาดหวังไว้ในระยะยาวว่าจะเล่นฟุตบอลที่เร็ว ผ่านบอลกันแม่นยำ คมกริบ เล่นฉลาด เพรสซิ่งดุดัน แต่ในระยะสั้นขั้นต่ำที่สุดคือ ขอให้เล่นอย่าง ‘มีใจ’ ให้สมกับตราสโมสรที่อยู่บนหน้าอกเสื้อก่อน

 

ในบรรดาทีมทั้งหมดแล้ว รายที่อาจจะไม่มีโอกาสได้ลงเล่นคือ แฮร์รี แม็กไกวร์ ที่มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อด้านหลังโคนขา (แฮมสตริง) นอกนั้นเทน ฮาก สามารถจัดทีมได้เต็มที่ ซึ่งสามารถบอกได้เป็นนัยว่า นี่แหละคือโฉมหน้าในอนาคตของแมนฯ ยูไนเต็ด ฤดูกาลหน้า ที่คาดว่าจะมาในระบบ 4-2-3-1

 

โดยเฉพาะจับตามองแดนหน้าให้ดี มาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี มาร์กซิยาล และ จาดอน ซานโช เพราะทั้งสามคนนี้ต้องการพิสูจน์ตัวเองอย่างยิ่งยวด

 

ดังนั้นถึงจะเป็นเกมพรีซีซันนัดแรกของทั้งสองทีมที่ปกติแล้วจะไม่ใส่กันหนักนัก และมีการทดสอบนักเตะ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญลำดับแรก แต่ด้วยศักดิ์ศรีที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ไม่มีใครที่อยากจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำในเกมนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นเชื่อว่าแฟนบอลชาวไทยก็น่าจะได้เห็นอะไรดีๆ ในเกมนี้ให้เป็นที่พูดถึงบ้าง (นอกเหนือจากรถบัสและกระติกน้ำแข็งที่อำกันสนุกๆ)

 

และนี่คือเรื่องราวของสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นใน THE MATCH แมตช์ประวัติศาสตร์ที่อาจเกิดขึ้นครั้งเดียวในชั่วชีวิต และหวังว่าจะเป็น ‘ความทรงจำ’ ที่ดีให้แก่แฟนฟุตบอลชาวไทยที่ได้ติดตามชม ไม่ว่าจะที่สนาม ในโรงภาพยนตร์ บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ หรือนั่งดูในร้านข้าวไปด้วยกันแบบวันวานก็ตาม 🙂

FYI
  • เพราะลิเวอร์พูลมีชื่อเป็นทีมเยือน ในวันนี้จึงขอใช้เสื้อชุดเยือนสำหรับฤดูกาลใหม่ ที่จะเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยได้เห็นก่อนใครเลย
  • ก่อนหน้านี้ลิเวอร์พูลและแมนฯ ยูไนเต็ด เคยพบกันในช่วงพรีซีซันนอกอังกฤษแค่ 2 ครั้ง ผลัดกันแพ้และชนะฝ่ายละครั้ง
  • วันนี้ไม่ใช่แค่แข่งแล้วจบ แต่มีถ้วยแชมป์ใบพิเศษให้ด้วย!
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X