วันนี้ (7 ธันวาคม) ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร หรือ สถานพินิจ ธนบุรี ตลิ่งชัน แกนนำกลุ่มนักเรียนที่เคลื่อนไหวและทำกิจกรรมทางการเมือง 3 คน ประกอบด้วย ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ หรือมิน พร้อมด้วย พลอย แกนนำกลุ่มนักเรียนเลว และ ภูมิ สมาชิกกลุ่มนักเรียนไท เข้าพบผู้คุมประพฤติตามนัด เพื่อสอบประวัติประกอบการส่งสำนวนของอัยการเพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาล โดยมี คุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเข้าให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย และเป็นทนายความผู้ดูแลคดีนี้ของนักเรียนทั้ง 3 คน
หลังจากทั้ง 3 คนถูกพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ลุมพินี ออกหมายเรียก และได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จากการปราศรัยในเวทีชุมนุมเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม บริเวณแยกราชประสงค์
ลภนพัฒน์กล่าวว่า ผู้มีอำนาจรัฐอยู่ในสถานะคู่ขัดแย้งกับเยาวชน และไม่ควรดำเนินคดีกับเยาวชนที่ออกมาใช้สิทธิ์ตามระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยตนและเพื่อนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน รวมถึงจะต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด และจะไม่รับเงื่อนไขพิเศษในฐานะที่เป็นเยาวชนหากต้องถูกลงโทษ
ขณะที่พลอยยืนยันว่า แม้ต้องโดนคดีความ แต่จะไม่หยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะเชื่อว่าแม้ไม่ออกมาร่วมชุมนุมหรือปราศรัย หากผู้มีอำนาจรัฐจะยัดคดีให้ก็สามารถทำได้อยู่ดี ดังนั้นการโดนคดีนี้จึงไม่มีผลกับการทำกิจกรรมทางการเมืองของตนในอนาคตอย่างแน่นอน เพียงแต่สร้างภาระหรือทำให้ตนและเพื่อนๆ เสียเวลาในการเรียนหรือใช้ชีวิตตามปกติเท่านั้น
ด้านคุ้มเกล้าอธิบายถึงกระบวนการดำเนินคดีขั้นตอนต่างๆ ของเยาวชนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงต้องให้เจ้าหน้าที่คุมประพฤติสอบประวัติต่างๆ ด้วย พร้อมเรียกร้องให้สื่อมวลชนและสังคมจับตาการดำเนินคดีกับเยาวชนที่แสดงออกทางการเมือง โดยเฉพาะคดีอาญาที่มีโทษสูงอย่างข้อหายุยงปลุกปั่นตามกฎหมายอาญามาตรา 116 ซึ่งระยะหลังผู้มีอำนาจเริ่มดำเนินคดีกับเยาวชนแล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้เคยบอกว่าจะไม่ดำเนินคดีกับเยาวชนก็ตาม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า