วันนี้ (11 กันยายน) จากกรณีอาสาสมัครทหารพรานของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 กองร้อยทหารพรานที่ 4216 หมู่ที่ 5 ตำบลสาบัน อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ได้ใช้อาวุธปืนยิงภายในฐานปฏิบัติการ ส่งผลทำให้กระสุนไปโดนรถบัสรับส่งนักเรียนของโรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยาจำนวน 3 จุด โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้ใช้รถกระบะ 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กค 306 พัทลุง เพื่อหลบหนีไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับได้ในเวลาต่อมาบริเวณด่านเกาะหม้อแกง หมู่ที่ 6 ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันนี้ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พ.อ. เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่าเหตุการณ์เจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพรานได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งและยิงปืนภายในฐานปฏิบัติการและกระสุนพลาดไปถูกรถบัสชาวบ้านขณะขับผ่านจุดเกิดเหตุ เป็นเหตุให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ภายหลังทราบเหตุ พล.ท. พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้เร่งติดตามผู้ก่อเหตุเพื่อดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาขั้นเด็ดขาด โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้เรียบร้อยแล้วบริเวณด่านตรวจเกาะหม้อแกง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี หลังขับรถยนต์ส่วนตัวหลบหนีออกจากฐานปฏิบัติการ
เบื้องต้นได้นำตัวมาควบคุมไว้ยังหน่วย ทราบชื่อคือ อาสาสมัครทหารพราน กสานดิ์ หนุดหล่ะ อายุ 36 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4216
จากการสอบสวนเบื้องต้น อาสาสมัครทหารพราน กสานดิ์ ได้ให้การยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง เนื่องจากเกิดความเครียดจากปัญหาภายในครอบครัวจนเกิดอาการคลุ้มคลั่งและได้ยิงปืนในฐานปฏิบัติการ ทำให้กระสุนพลาดไปโดนรถบัส ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นรถรับส่งนักเรียน โดยขณะเกิดเหตุได้ส่งนักเรียนเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุและรถบัส พบว่ามีความเสียหายจากรอยกระสุนที่พลาดไปโดนจำนวน 3 รอย และไม่มีนักเรียนอยู่ภายในรถ เป็นรถบัสเปล่าที่กลับจากส่งนักเรียนตามบ้านเป็นที่เรียบร้อยและขับผ่านมายังบริเวณที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม หน่วยจะมีการสอบสวนอย่างละเอียดกับผู้ที่ก่อเหตุเพื่อลงโทษทางวินัยขั้นเด็ดขาด และได้นำตัวส่งสถานีตำรวจในท้องที่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา เบื้องต้นขณะนี้ได้สั่งปลดออกจากราชการแล้ว
จากเหตุการณ์ดังกล่าว แม้สาเหตุจะเกิดจากปัญหาส่วนตัว แต่ได้สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน และอาจเป็นเงื่อนไขให้กลุ่มที่ไม่หวังดีนำไปบิดเบือนโจมตีเพื่อสร้างความเกลียดชังดังที่ปรากฏให้เห็นอย่างกว้างขวางในช่วงที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรม และจะไม่ปกป้องกำลังพลผู้กระทำผิดโดยเด็ดขาด โดยจะลงโทษวินัยขั้นสูงสุด และหากพบมีความผิดทางอาญาก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับผู้ปกครองนักเรียนที่มีความกังวลกับเหตุการณ์ดังกล่าว ขอชี้แจงเพื่อสร้างความมั่นใจให้ทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัวจากความเครียดเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความมั่นคงแต่อย่างใด และไม่ได้มุ่งหวังจะทำร้ายชีวิตของผู้ใด จากนี้ก็จะได้เร่งสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครองให้เกิดความมั่นใจต่อไป ยืนยันไม่มีการกราดยิงตามที่มีการแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้มีการกำชับกำลังพลที่จะออกปฎิบัติราชการภาคสนามมาโดยตลอดให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง ไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งในพื้นที่ ทั้งยังมีการคัดกรอง อบรม ให้ความรู้แก่ผู้จะลงมาปฏิบัติหน้าที่ทั้งเรื่องสุขภาพร่างกายและจิตใจ ตลอดจนบริบทในพื้นที่ จึงขอให้มั่นใจว่ากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะไม่มีการปกป้องคนผิดอย่างเด็ดขาด และพร้อมที่จะดำเนินการทั้งทางวินัยทหารด้วยการปลดออกจากราชการและดำเนินคดีอาญาให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์