วันนี้ (25 ตุลาคม) ร.ต.อ. วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ฟอกเงินทางอาญา กล่าวถึงกรณีการตรวจยึดอายัดนาฬิกาหรูและกระเป๋าแบรนด์เนมในห้องเช่าแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้ต้องหาจะซื้อทรัพย์สินเหล่านี้ไว้เตรียมสำหรับการจัดฉาก เช่น นำทรัพย์สินมาโชว์เพื่ออ้างว่าการทำธุรกิจนี้ทำให้ร่ำรวย ขณะที่บางคนอาจมองไม่ออก เพราะถ้าเป็นสินค้าถูกลิขสิทธิ์ก็จะต้องมีมูลค่าสูงมาก อย่างไรก็ตาม ตนขอเน้นย้ำว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีแรกที่มีการสะสมของปลอม
เพราะหากย้อนไปในคดีแชร์ Forex-3D ก็มีทรัพย์สินหลายรายการที่เป็นของปลอม ทั้งนี้ DSI ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการตรวจสอบทรัพย์สินว่าเป็นของแท้หรือของปลอม จึงต้องรายงานทรัพย์สินทุกประเภทที่ยึดและอายัดมา นำส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อ ปปง. จะได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาประเมินราคาทรัพย์สิน
ร.ต.อ. วิษณุ กล่าวต่อว่า การชี้เบาะแสเรื่องทรัพย์สินของพลเมืองดีครั้งที่เกิดขึ้นนี้ เจ้าหน้าที่ไม่มีทางรู้ว่าเป็นทรัพย์สินอะไร แต่เชื่อได้แน่นอนว่าเป็นทรัพย์สินที่มาจากการกระทำความผิดในคดี จึงจำเป็นต้องเข้าไปดำเนินการก่อนจะมีการโยกย้ายทรัพย์สินออกไปที่อื่น นอกจากนี้ ตนไม่คิดว่าจะเป็นแผนประวิงเวลาของผู้ต้องหาที่วางแผนให้เจ้าหน้าที่ติดตามยึดทรัพย์สินปลอม เนื่องจากคนที่แจ้งเบาะแสคือพลเมืองดีที่สงสัยเรื่องซูเปอร์คาร์ที่ขับเข้ามาที่ห้องเช่าและมีพิรุธ
“DSI มีความพยายามติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องจากการกระทำความผิด เพื่อที่จะได้นำมาเยียวยาผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด หากเป็นของแท้ ความโชคดีจะเป็นของผู้เสียหาย แต่ถ้าไม่ใช่สินค้าแท้ มันก็ยังมีมูลค่าอยู่ดี แค่มูลค่าอาจจะลดลงเท่านั้น” ร.ต.อ. วิษณุ กล่าว
ร.ต.อ. วิษณุ กล่าวว่า จากนี้ DSI จะมีปฏิบัติการยึดและอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมแน่นอน และตนขอให้กำลังใจผู้ที่แจ้งเบาะแสที่ซุกซ่อนทรัพย์สินของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ขอให้มั่นใจว่าการแจ้งเบาะแสและการชี้เป้าของท่านไม่ได้ทำให้พนักงานสอบสวนหลงทาง ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และ DSI หวังว่าจะได้รับความร่วมมือเช่นนี้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินที่ท่านสงสัยหรือท่านเชื่อได้ว่ามาจากการกระทำความผิดในคดีดังกล่าว
DSI จะรีบเข้าไปตรวจสอบ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทุกการเข้าไปตรวจสอบ DSI ต้องใช้อำนาจของศาล ดังนั้น DSI จึงต้องเข้าไปบันทึกปากคำและสาเหตุที่ต้องเข้าไปตรวจค้น DSI ไม่ได้เข้าไปโดยทันที เราต้องมีข้อเท็จจริงเสนอต่อศาลพอสมควรด้วย ทั้งนี้ รายการทรัพย์สินต่อจากนี้ หาก DSI จะเข้าไปยึดและอายัดจะไม่ซ้ำซ้อนกับรายการทรัพย์สินที่ตำรวจจะดำเนินการ