ถึงตอนนี้ The Good Bad Mother ซีรีส์เกาหลีใต้ทาง Netflix จะเดินทางมาเกินครึ่งเรื่องแล้ว และแม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จหวือหวา แต่ในทุกๆ อีพีก็มีเรื่องราวลึกซึ้งกินใจที่ไม่ใช่แค่เรื่องความสัมพันธ์แม่-ลูก แต่เป็นการพูดถึงความสัมพันธ์ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก ที่ไม่ได้มีแต่ด้านดี แต่ยังมีด้านแย่ๆ ฝังไว้ในความทรงจำด้วย แต่หากมานั่งย้อนนึก การที่จะระลึกถึงใครสักคนก็คงต้องหลอมรวมคนคนนั้นเอาไว้ในทุกๆ ด้าน
The Good Bad Mother ว่าด้วยเรื่องราวของ ยองซุน (รามีรัน) ที่ต้องเสียสามีไปเพราะความอยุติธรรมของสังคม ทำให้เธอต้องสานต่อกิจการฟาร์มเลี้ยงหมูและทุ่มเทเลี้ยงดู คังโฮ (อีโดฮยอน) อย่างเข้มงวด โดยหวังจะให้เป็นอัยการ จะได้ไม่ต้องลำบากและถูกเอารัดเอาเปรียบแบบเธอ
จนกระทั่งคังโฮเติบโตขึ้นได้เป็นอัยการสมใจ แต่เขาก็กลายเป็นคนเลือดเย็น ไม่ต่างจากอัยการ โอแทซู ผู้ที่พรากสามีของเธอไป ส่วนในเรื่องความรัก คังโฮก็ยังหักอก มีจู (อันอึนจิน) เพื่อนที่หลงรักเขามาตั้งแต่ยังเด็ก
แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อคังโฮประสบอุบัติเหตุสูญเสียความทรงจำและย้อนไปเป็นเด็ก 7 ขวบ ทำให้ยองซุนต้องกลับมาเป็นแม่ใจร้ายอีกครั้ง เพื่อเลี้ยงดูลูกชายคนเดิมให้กลายเป็นผู้ชายที่มีหัวใจ แต่โอกาสครั้งนี้จะยาวนานแค่ไหน และความลับมีอะไรที่คังโฮซ่อนไว้ ต้องติดตามในซีรีส์
ความสัมพันธ์ของยองซุนและคังโฮเป็นภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกจากแรงกดดันของความสำเร็จในโลกสมัยใหม่ และเป็นการปะทะกันของความหวังดีและความเข้าใจผิด ซึ่งมีอยู่ในเกือบทุกครัวเรือน เพียงแต่ถ้าลองมองให้ลึกลงไป ชีวิตของยองซุนถูกขับเคลื่อนด้วยความเจ็บปวดและความกลัว จนเผลอถ่ายทอดสิ่งเหล่านั้นไปให้ลูกชายอย่างไม่รู้ตัว
การสูญเสียสามีทำให้ยองซุนเข้มงวดกับการเลี้ยงดูคังโฮ เพื่อให้เขาไม่ถูกรังแกเหมือนรุ่นพ่อ-แม่ แม้ทำไปด้วยความหวังดี แต่สิ่งที่ทำลงไป เด็กในวัยนั้นก็ไม่อาจตีความได้ และแม้ในระหว่างทางเธอจะมอบความรักให้กับลูก แต่รอยแผลต่างๆ ก็ฝังลึกจนกลายเป็นการต่อต้าน ประชดประชัน ทั้งๆ ที่รู้ว่าแม่ทำไปเพราะความรัก
“ฉันขังแกไว้ในเล้าหมูและบังคับให้แกหายใจไม่ออก เอาแต่สั่งให้แกเรียน เรียน เรียน แล้วก็เรียน ฉันตั้งใจให้แกรวยและเป็นคนมีอำนาจ แต่กลับทำให้เป็นปีศาจไร้หัวใจแทน” ยองซุน
ผู้เขียนชอบการเปรียบเปรยชีวิตคนและหมูที่มีให้พูดถึงตลอดทั้งเรื่อง ทั้งในแง่ของมุมมองต่อโลกในเรื่องที่หมูเงยหน้าไม่ได้ เลยต้องมองพื้นไปตลอดชีวิต มีเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้หมูมองท้องฟ้าได้นั่นคือการล้มลง เหมือนกับชีวิตคน แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป ชีวิตคังโฮก็ไม่ต่างจากหมูในแง่มุมอื่นด้วย
“มนุษย์เรามักจะขังหมูเอาไว้ในคอกแคบๆ สุดท้ายหมูก็ไม่สามารถอาบโคลนได้ เลยเอาตัวมันไปถูกับอึและฉี่ของตัวเอง แล้วทำให้มันสกปรกและอารมณ์รุนแรงขึ้น”
นั่นคือชีวิตของคังโฮที่ต้องอยู่กับความเคียดแค้น และยอมเกลือกกลั้วกับสิ่งปฏิกูลคือ การคดโกงและสร้างสัมพันธ์กับคนไม่ดี ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันจะทำลายชีวิตเขาลงไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งในวันที่คังโฮสูญเสียความทรงจำ เหมือนยองซุนจะได้รับโอกาสที่ 2 แต่กลับพบว่าตัวเองเป็นมะเร็ง ความเจ็บปวดและความกลัวย้อนกลับมาอีกครั้ง เธอย้อนนึกถึงวันที่ต้องเสียครอบครัวไปจนต้องอยู่คนเดียวในโลก และไม่อยากให้ลูกชายต้องมาเจ็บปวดแบบเธอ จึงกลับมากลายเป็นแม่ใจร้ายอีกครั้งอย่างที่เราเห็นพฤติกรรมโหดๆ ของเธอ เพื่อทำให้เขาเดินได้
“สำหรับผม แม่คือแม่ของผม แต่สำหรับแม่ ผมคงเป็นภาระสินะ” คังโฮ
อย่างไรก็ตาม โอกาสครั้งที่ 2 ทำให้ทั้งคู่ได้สื่อสารกันมากขึ้น บทเรียนจากครั้งแรกทำให้ยองซุนสร้างสมดุลระหว่างการแสดงความรักและความเข้มงวดได้ดีขึ้น เพียงแต่เวลาของเธอก็เหลือน้อยลงไปทุกวัน
ส่วนในแง่ความรักระหว่างคังโฮกับมีจู แม้ในอีพีแรกๆ จะดูเหมือนคังโฮเห็นแก่ตัว แต่ในรายละเอียดแล้วเขารู้ดีว่ามีอะไรต้องทำในชีวิต จึงตัดสินใจหนีหน้ามีจูไปตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย จนกระทั่งกลับมาเจอกันอีกครั้งและสานสัมพันธ์รักกัน โดยรู้ดีว่าในวันข้างหน้าต้องทำอะไรและต้องทิ้งแผลใจให้กับมีจู ส่วนตัวเขาเองก็ต้องเจ็บปวดไม่ต่างกัน
ความดีไม่ใช่ความรัก จึงไม่แปลกที่บ่อยครั้งเรามักรักคนที่ทำร้ายเรา แต่ก็คงไม่มีใครจะหลงรักแต่ความร้ายกาจ ทุกความสัมพันธ์มีความดีและร้ายผสมปนเปกันไป ซึ่งความไม่สมบูรณ์แบบนี้สิที่ทำให้ทุกความสัมพันธ์ขับเคลื่อนไปหาจุดสมดุล
ใน 2 ตอนล่าสุด เรื่องราวความลับต่างๆ ค่อยๆ ถูกเฉลยออกมา พร้อมกับเวลาของยองซุนที่ใกล้หมดลงทุกที เธอพยายามจัดแจงทุกสิ่งทุกอย่างให้ชีวิตของคังโฮดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น
สุดท้ายในตอนจบก็ยากจะคาดเดาว่าจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ คังโฮจะต้องจดจำแม่ดี-แม่ร้ายในชุดสีเหลืองแสนเฉิ่มเชย แต่เป็นชุดที่แม่บรรจงแต่งเพื่อไม่ให้ลูกชายน้อยหน้าใคร และกลายเป็นชุดที่สวยที่สุดที่ตั้งใจให้มีอยู่ แม้วันที่ไม่อยู่บนโลกนี้
และบางทีก็อาจทำให้คนดูย้อนนึกถึงคนที่รักว่าเขาจะมีเวลาเหลืออยู่กับเราอีกนานเท่าไร และอะไรที่ทำให้เรารักเขา มันอาจเกิดขึ้นจากทั้งวันดีๆ และวันร้ายๆ ที่เราเคยใช้ร่วมกัน