×

The Golden Duo บาติโกล x รุย คอสตา สุดยอดคู่หูตำนานม่วงมหากาฬ

26.10.2025
  • LOADING...
the-golden-duo-batigol-rui-costa-fiorentina-legends-viola

ท่ามกลางความทรงจำมากมายของฟุตบอลอิตาลีในยุค 90 หนึ่งในความทรงจำที่สวยงามและโดดเด่นที่สุดสำหรับใครหลายคนคือเรื่องราวของทีม ‘ม่วงมหากาฬ’ ฟิออเรนตินา ที่แม้จะไม่ใช่ทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด แต่ก็เป็นทีมที่สร้างความสุขและแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนอย่างที่สุด

 

เพราะนี่คือทีมที่มีคู่หูแข้งทองในโลกของความเป็นจริงที่ไม่มีใครลืม

 

กาเบรียล บาติสตูตา รุย คอสตา และความฝันสีไวโอเล็ตของทีม ‘ลา วิโอลา’

 

ความจริงเรื่องราวการจับคู่กันของทั้งสองคนนี้เริ่มจากหายนะในเมืองฟลอเรนซ์

 

หายนะครั้งนั้นไม่ได้เกิดจากการก่อการร้ายหรือภัยธรรมชาติ แต่เป็นการย้ายทีมของนักฟุตบอลคนเดียวที่แทบจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเมืองทั้งเมือง

 

ในปี 1990 โรแบร์โต บักโจ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังของทีมฟิออเรนตินาและทีมชาติอิตาลี ย้ายออกไปร่วมทีมยูเวนตุสด้วยค่าตัว 25 ล้านลีร์ (8 ล้านปอนด์) ซึ่งถือเป็นสถิติโลกในเวลานั้นด้วยความจำเป็นเพราะประสบปัญหาทางการเงิน

 

การย้ายทีมครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้แก่แฟนๆ ทีมวิโอลาอย่างมาก เพราะระหว่างฟิออเรนตินากับยูเวนตุส พวกเขาคือคู่แข่งที่ไม่มีวันยอมให้กันอย่างเด็ดขาด ความโกรธแค้นถึงขั้นเกิดการจลาจลขึ้นภายในเมืองฟลอเรนซ์ มีการปะทะและทำลายข้าวของสถานที่ต่างๆภายในเมืองเพื่อประท้วงการตัดสินใจของสโมสร จนเป็นเหตุให้มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมากถึง 50 คน

 

ฟลาวิโอ ปอนเตลโล ประธานสโมสรถึงกับต้องหลบอยู่ในสนามอาร์เตมิโอ ฟรังคีของตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจอำลาตำแหน่งในเวลาต่อมา

 

ส่วนช่องว่างขนาดมหึมาในใจของแฟนบอลที่เสียบักโจไป ต้องมีใครสักคนเพื่อมาทดแทน

 

เด็กหนุ่มชาวอาร์เจนตินา กาเบรียล โอมาร์ บาติสตูตา คือนักเตะคนนั้น

 

กาเบรียล บาติสตูตา รุย คอสตา ฟิออเรนตินา ยุค 90 คู่หูแข้งทอง

 

เพียงแต่การจะทดแทนคนอย่างบักโจ ที่เป็นเหมือนเทพเจ้าของชาวเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย

 

บาติสตูตา แม้จะเริ่มต้นได้ไม่แย่นักด้วยผลงานการทำ 13 ประตูในฤดูกาลแรกในเซเรีย อา (1991/92) แต่แฟนฟุตบอลชาววิโอลายังไม่ได้ให้การยอมรับเขามากนัก

 

นั่นเพราะก่อนจะย้ายมาบาติสตูตาไม่ได้เป็นซูเปอร์สตาร์มาจากไหน เป็นแค่กองหน้าฝีเท้าดีในลีกอาร์เจนตินาที่เคยผ่านการเล่นให้กับนีเวลส์​ โอลด์ บอยส์, ริเวอร์เพลท และโบคา จูเนียร์ส ซึ่งคนที่ค้นพบเขาก็คือรองประธานสโมสรฟิออเรนตินาที่ได้ไปชมเกมที่ละตินอเมริกาพอดีในช่วงปี 1990

 

อีกทั้งด้วยสไตล์การเล่นบาติสตูตาก็แตกต่างจากบักโจมาก

 

บักโจ นั้นเป็นนักฟุตบอลในแบบที่เรียกว่า Trequarista ผู้รังสรรค์เกม แต่เขาเป็นได้มากกว่านั้นเพราะสามารถทำได้ทุกอย่างในสนามอยู่ในระดับมหัศจรรย์ที่เรียกว่า Fantasista ขณะที่บาติสตูตาเป็นกองหน้าตัวจบสกอร์เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถที่จะสร้างสรรค์เกมด้วยการเล่นอันสวยงามหรือเต็มไปด้วยจินตนาการได้

 

ทุกสิ่งทุกอย่างยิ่งดูเลวร้ายไปอีกในฤดูกาล 1992/93 เมื่อฟิออเรนตินา ผลงานย่ำแย่จนถึงขั้นตกชั้นไปอยู่ในระดับเซเรีย บี

 

อย่างไรก็ดีผลงานของบาติสตูตา ถือว่าเริ่มแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอ เขายิงได้ 16 ประตูในฤดูกาลนั้น 

 

และในฤดูกาลต่อมาเขาก็ยิงอีก 16 ประตูในการช่วยให้ฟิออเรนตินา ซึ่งได้กุนซือคนหนุ่มในเวลานั้นอย่างเคลาดิโอ รานิเอรี เข้ามากอบกู้ทีมช่วยให้ทีมได้เลื่อนชั้นกลับมาเซเรีย อา ได้สำเร็จ

 

แต่นั่นยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดแต่อย่างใด

 

กาเบรียล บาติสตูตา รุย คอสตา ฟิออเรนตินา ยุค 90 คู่หูแข้งทอง

 

ในขณะที่ฟิออเรนตินาเสียบักโจไปด้วยเหตุผลทางการเงิน พวกเขาเองก็ได้นักเตะระดับสุดยอดมาด้วยเหตุผลเดียวกัน

 

ฤดูกาล 1994/95 ฟิออฯ เดินหน้ารุกฆาตเบนฟิกา ยักษ์ใหญ่แห่งโปรตุเกสที่ประสบปัญหาถังแตกและจำเป็นต้องขายนักเตะที่ดีที่สุดของพวกเขาอย่าง รุย คอสตา ออกจากทีม

 

รุย คอสตา ในเวลานั้นคือเพชรเม็ดงามของวงการลูกหนังโปรตุเกส เป็น ‘หมายเลข 10’ ระดับอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยาก ด้วยจินตนาการในการเล่นที่เหนือล้ำก้าวไกลและพรสวรรค์ในระดับใกล้เคียงกับคำว่าฟ้าประทาน

 

จอมทัพชาวโปรตุเกสถูกดึงตัวมาอยู่กับฟิออเรนตินา โดยที่มีหน้าที่สำคัญเพียงอย่างเดียว

 

ป้อนบอลให้บาติสตูตาให้ได้!

 

และนั่นเป็นหน้าที่ที่เขาทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลย เพราะทั้งคู่สามารถปรับตัวเล่นกันได้อย่างเข้าขาสุดๆอย่างรวดเร็ว จนถูกเรียกว่าเป็นการเข้าขากันในระดับ ‘เทเลพาธี’ หรือโทรจิตเลยทีเดียว

 

คอสตาจ่าย บาติสตูตายิง คือสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

จบฤดูกาล 1994/95 บาติสตูตาทำผลงานมหัศจรรย์ยิงในเซเรีย อา ได้ถึง 26 ประตู คว้ารางวัลดาวซัลโวมาครองได้ และทำลายสถิติจำนวนประตูสูงสุดที่ยืนยงมากว่า 32 ปีของ เอซิโอ ปาซคุตติ ได้สำเร็จ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือรุย คอสตา

 

ก่อนที่ทั้งสองจะจับคู่กันสร้างผลงานระบือลั่นในอีกหลายปีต่อมา

 

กาเบรียล บาติสตูตา รุย คอสตา ฟิออเรนตินา ยุค 90 คู่หูแข้งทอง

 

พวกเขาช่วยกันพาทีมคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลียได้ในปี 1996 ก่อนที่จะพาฟิออเรนตินาเข้าถึงรอบรองชนะเลิศรายการยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ ในฤดูกาลต่อมาที่พ่ายให้แก่บาร์เซโลนา จนต้องหยุดเส้นทางไว้แค่นี้อย่างน่าเสียดาย

 

แต่ไม่มีเรื่องใดจะน่าเสียดายเท่าในฤดูกาล 1998/99 เมื่อฟิออเรนตินา ดึงตัว ‘อิล แทร็ป’ โจวานนี ตราปัตโตนี หนึ่งในตองอูสุดยอดกุนซือของวงการฟุตบอลอิตาลีเพื่อหวังจะคว้าแชมป์ลีก พิชิตสคูเด็ตโตให้ได้

 

ในฤดูกาลนั้นฟิออเรนตินาเริ่มต้นได้อย่างสวยงาม พวกเขามีความหวังเต็มเปี่ยมจริงๆ ที่จะคว้าแชมป์มาครองได้เพราะทั้งบาติสตูตา และคอสตา ไปถึงสถานะผู้เล่นระดับโลกที่หากไม่ใช่ก็ต้องบอกว่าเก่งที่สุดในตำแหน่งของพวกเขา

 

น่าเศร้าที่ในระหว่างที่ทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี บาติสตูตาเกิดบาดเจ็บจนต้องพักการเล่นนานร่วมเดือน

 

การหายไปของเขาคือจุดจบของทุกอย่าง ฟิออเรนตินา สูญเสียโมเมนตัมที่เคยมี สุดท้ายจบฤดูกาลด้วยการเป็นทีมอันดับที่ 3

 

ก่อนที่ ‘บาติโกล’ (สมญาของบาติสตูตา) จะย้ายไปโรมา และทำความฝันให้เป็นจริงได้สำเร็จด้วยการคว้าแชมป์เซเรีย อา ในปี 2000

 

ส่วนรุย คอสตา ถูกขายออกจากทีมไปให้เอซี มิลานในปี 1 ปีถัดมาด้วยเหตุผลเดิมคือเรื่องทางการเงิน

 

ปิดฉากตำนานของพวกเขาอย่างเป็นทางการ

 

กาเบรียล บาติสตูตา รุย คอสตา ฟิออเรนตินา ยุค 90 คู่หูแข้งทอง

 

ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ประสบความสำเร็จสูงสุดอย่างที่ฝันไว้ แต่อย่างน้อยการมีอยู่ของบาติสตูตาและรุย คอสตา ก็เป็นช่วงเวลาของความฝันสำหรับแฟนฟุตบอล

 

ไม่ใช่เฉพาะแค่แฟนของฟิออเรนตินา แต่รวมถึงแฟนฟุตบอลทั่วโลกที่ประทับใจกับความมหัศจรรย์ของคู่หูที่เหมือนออกมาจากการ์ตูน

 

เรื่องราวของพวกเขายังถูกนำไปใช้ในมังงะฟุตบอลเรื่องดัง ‘Viva Calcio’ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ โย ชีนะ นักฟุตบอลดาวรุ่งฟ้าประทานชาวญี่ปุ่นที่ได้ไปผจญภัยในเซเรีย อา กับทีมฟิออเรนตินา แข่งขันกับสุดยอดนักเตะระดับโลกที่มีตัวตนจริงๆ มากมาย

 

โดยที่เพื่อนคนสำคัญในทีมก็คือบาติสตูตา และรุย คอสตานั่นเอง

 

และทั้งหมดนี้คือความทรงจำที่สวยงามของโลกฟุตบอล ความทรงจำสีไวโอเล็ตที่หลายคนยังเก็บใส่ลิ้นชักของหัวใจอยู่

 

ไม่ว่าเมื่อไรที่คิดถึงนักฟุตบอลที่เป็นคู่หูที่เติมเต็มให้กันและกันได้อย่างมหัศจรรย์

 

ไม่มีคู่ไหนจะเหนือไปกว่าคู่นี้อีกแล้ว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising