กันยะรัตน์ กฤษณเทวินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ไตรมาส 2 ที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเมืองไทยทั้งสิ้น 9 ล้านคน เติบโต 1% อัตราการเข้าพักรวม 75% ลดลง 3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับผลประกอบการของ ERW เติบโตเล็กน้อย 3% คิดเป็นรายได้ 1,396 ล้านบาท ขาดทุน 7 ล้านบาท จากการบันทึกรายการพิเศษเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายผลประโยชน์สำหรับพนักงาน
ภาพรวมครึ่งปีแรกมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาในเมืองไทยเพิ่มขึ้น 1% รวมกัน 19.7 ล้านคน ทั้งปี 2562 คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 39 ล้านคน เติบโต 2% เป็นการปรับเป้าลง 1 ล้านคน จากเดิมคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 40 ล้านคน ถือเป็นการเติบโตน้อยลงกว่าปีที่แล้ว
คนจีนมามากที่สุดในช่วงครึ่งปีแรก คิดเป็นสัดส่วน 30% ลดลง 5% ซึ่งการที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะโตหรือไม่นั้น นักท่องเที่ยวจีนมีผลค่อนข้างมาก เพราะเป็นตลาดใหญ่ นอกจากนั้นจำนวนวันที่อยู่ในไทยค่อนข้างนาน ประมาณ 8 วัน และใช้เงินเยอะ ทั้งค่าโรงแรม กิน เที่ยว
รองลงมาเป็นมาเลเซีย 10% เติบโต 7% ที่น่าสนใจคืออินเดีย สัดส่วน 5% โต 24% ถามว่าการที่คนอินเดียโตชดเชยคนจีนหายไหม คงไม่เท่า แต่ถือว่าดีมากๆ ที่มีเข้ามาช่วย ด้วยคนจีนเดินทางในทุกเซกเมนต์ตั้งแต่ล่างถึงบน แต่คนอินเดียจะเข้ามาในกลุ่มของอีโคโนมีและระดับกลาง อันดับ 4 เกาหลีใต้ สัดส่วน 5% โต 3% และลาว 4% เติบโต 5% ทั้งนี้ รัสเซีย อีกหนึ่งประเทศที่ชอบมาเที่ยวไทย ครึ่งปีแรกนี้ปรากฏว่าลดลงไป 3% หลังถูกประเทศเพื่อนบ้านอย่างตุรกีดึงไป
“เชื่อว่าประเทศไทยยังมีความน่าสนใจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ถึงอัตราการเติบโตไม่สูงมาก แต่ยังเติบโตอยู่ ส่วนที่ว่านักท่องเที่ยวจีนไม่โต เป็นเพราะเรื่องเศรษฐกิจและสงครามการค้า แต่จากการไปดูข้อมูลจากประเทศอื่นๆ ที่คนจีนชอบไปพบว่า ยังมีการเติบโตอยู่ มีเพียงไทยและเวียดนามลดลง ที่เหลือเติบโตหมด อย่างน้อยก็ชี้ให้เห็นว่าคนจีนยังออกเดินทางเที่ยวอยู่ ถึงไทยจะลดลงจากเหตุผลอื่นใดก็ตาม”
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง อัตราการเข้าพัก หรือ Occupancy Rate ยังมองไว้เป็นระดับ 80% ต้นๆ ส่วนรายได้ทั้งปีตั้งเป้าเติบโต 7% แต่อาจจะปรับลดลง เพราะต้องดูปัจจัยอื่นประกอบ ได้แก่ นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาหรือไม่ในช่วงครึ่งปีหลัง แม้แนวโน้มในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาจะกลับมาเป็นบวก หลักติดลบมาหลายเดือน ค่าเงินบาทจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือไม่ และมาตรการท่องเที่ยวของรัฐบาลจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมโรงแรมได้มากน้อยแค่ไหน
นอกจากนี้เตรียมเปิดตัวโรงแรมอีก 9 แห่งในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ โรงแรม ฮ็อป อินน์ อีก 7 แห่ง รวม 573 ห้อง และโรงแรมขนาดใหญ่อีก 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมเมอร์เคียว สุขุมวิท 24 จำนวน 201 ห้อง และโรงแรมไอบิส สุขุมวิท 24 จำนวน 300 ห้อง ทั้งคู่จะเปิดในเดือนธันวาคม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า