ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในช่วงเวลานี้เต็มไปด้วยความผันผวน ล่าสุดเช้าวันนี้ (27 พฤษภาคม) ราคาเหรียญคริปโตหลายๆ สกุลปรับตัวลดลงแรงอีกครั้ง โดยราคา Bitcoin ลงมาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 28,800 ดอลลาร์ ลดลงราว 3.2% จากช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่เหรียญ Ethereum เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,750 ดอลลาร์ ลดลงราว 10%
ปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้ง Satang กล่าวว่า “ถ้าจะดูทิศทางของตลาดว่าขึ้นหรือลงนั้นให้ดูที่ 3 ปัจจัยหลักคือ ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งตอนนี้พูดได้เลยว่าครบทุกองค์ประกอบของตลาดขาลง นั่นคือธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะยังขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% อีกอย่างน้อย 2 ครั้ง (มิถุนายน, กรกฎาคม) ในปีนี้ พร้อมกับลดปริมาณการซื้อสินทรัพย์ต่อเดือนของ Fed ที่จะเริ่มในเดือนมิถุนายน โดยมีแนวโน้มไปจนถึงช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ ทำให้ดอกเบี้ยขยับไปสู่ระดับ 2.5-3.0% ในปีนี้ เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ เพราะอัตราเงินเฟ้อที่คำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ Consumer Price Index ยังอยู่ที่ 8.3% ซึ่งนับว่าสูงมาก
ส่วนตัวเลขการจ้างงานที่ไม่รวมภาคเกษตร (Non-Farm Payroll) ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี คือถ้ามากกว่า 200,000 คนต่อเดือนอยู่เสมอในปีนี้ จะทำให้ Fed กล้าขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างไร้กังวล เพราะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความแข็งแกร่งมากพอ และยอมให้ตลาดสินทรัพย์ต่างๆ อยู่ในขาลง”
จากสภาพตลาดขณะนี้รวมไปถึงความเชื่อมั่นทางจิตวิทยาที่ลดลง อันเกิดจากการล่มสลายของ LUNA-UST ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโตลดลงเหลือ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ จากที่เคยอยู่จุดสูงสุด 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขาย Stablecoin ทั้งหมดในตอนนี้คือ 6.92 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับ 87.36% ของปริมาณการซื้อขายรวมในตลาดคริปโตใน 24 ชั่วโมง (26 พฤษภาคม) อ้างอิงจาก CoinMarketCap ซึ่งอาจมองได้ว่านักลงทุนกำลังใช้ Stablecoin กลุ่มที่มีสินทรัพย์หนุนหลังเป็นที่พักเงิน
ถ้าจะมองหา Safe Haven ของการลงทุนขณะนี้ ก็อาจเป็นกลุ่ม Stablecoin อย่าง USDC, USDT, BUSD ซึ่งช่วงนี้ค่าเงิน USD กำลังแข็งอยู่เมื่อเทียบกับ Bitcoin หรือเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทไทยซึ่งอ่อนลง หรือ Gold Stablecoin ก็น่าสนใจ อย่าง PAX GOLD (PAXG) เพราะทองคำจะกลับมาขึ้น หรือไม่ลงต่อแบบหลายเดือนที่ผ่านมาแล้ว โดยทองคำขณะนี้ยืนเหนือ 1,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แล้วกลับมาอยู่ที่ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป้าหมายต่อไปที่ 1,900-1,925 ต่อออนซ์ เป็นไปได้ง่าย ทิศทางไป 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์กลับขึ้นไปไม่ยาก เพราะเงินเฟ้อยังสูงอยู่ทั่วโลก
ด้าน สรัล ศิริพันธ์โนน ซีอีโอ Satang Corporation ให้ความเห็นว่า “ตลาดจะกลับมาเมื่อไรนั้นค่อนข้างจะตอบได้ยาก เพราะ Fed ก็ยังคงขึ้นดอกเบี้ยอยู่ ถ้าในกลุ่มนักลงทุนที่กำลังรอซื้อควรจะรออีกหน่อย เพราะตลาดยังเป็นขาลงอีกในระยะ 2-3 เดือนข้างหน้า และตลาดอาจค่อนข้างลงแบบซิกแซ็ก ไม่ลงแบบทิ้งดิ่งในครั้งเดียว นักลงทุนต้องระมัดระวังให้มาก
ส่วนในประเด็นของการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับการโอนคริปโตเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลจนถึงสิ้นปี 2566 ของไทยนั้นมองว่าเป็นเรื่องที่ดี น่าจะช่วยให้ประเทศมีเวลาได้ลองอะไรมากขึ้น แต่อยากเสนอว่ารัฐควรจะยกเว้นการเก็บ
ภาษีจาการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่ถือครองเกิน 1 ปี เช่นในประเทศเยอรมนี”