วันนี้ (9 กันยายน) ที่อาคารรัฐสภา ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ. .… สัดส่วนพรรคก้าวไกล เเถลงต่อสื่อมวลชนถึงจุดยืนของพรรคก้าวไกลในการลงมติในวาระที่ 3
ปดิพัทธ์กล่าวว่า อยากให้พี่น้องประชาชนมองภาพใหญ่ด้วยกันว่า หลังการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เเละการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 2 ที่ผ่านมา เห็นชัดเจนถึงความไม่เเน่นอนของรัฐบาล เเละเสถียรภาพทางการเมือง จึงเชื่อว่าการลงมติในวันพรุ่งนี้ (10 กันยายน) ตนคิดว่าน่าจะมีปัญหา
ในประเด็นเเรก ร่างของพรรคประชาธิปัตย์ มีการเขียนหลักการที่เเคบมาก และมีความพยายามนำร่างที่ตกเเล้วในวาระ 1 มาสอดไส้ โดยไม่ฟังเสียงค้านใดๆ สุ่มเสี่ยงการทำลายนิติธรรมและมาตรฐานกระบวนนิติบัญญัติของสภา
ประเด็นที่สอง ไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานกรรมาธิการ คือบุคคลที่ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตลอด และสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ พล.อ. ประยุทธ์ ที่ผ่านมาจึงเป็นเพียงการมาแสดงบทอยากแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น
ประเด็นที่สาม กรรมาธิการแก้ไขเกินหลักการ จนต้องเรียกประชุมด่วนก่อนวาระ 2 เพียงไม่กี่ชั่วโมง แล้วถอนมาตราที่อาจเกินหลักการไปหมด
ประเด็นที่สี่ ชัดเจนด้วยคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ รัฐศาสตร์ ว่าระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบแบบ MMM ในปี 2540 เป็นระบบที่จำนวนที่นั่งเบี่ยงเบน เอื้อพรรคใหญ่ กินรวบทั้งกระดาน แต่สองพรรคใหญ่ก็จะเอาให้ได้ ไม่สนความเป็นธรรม ไม่สนบทเรียนการเมืองปี 2540-2550
ประเด็นสุดท้าย มาตราที่คงไว้ไม่มีการแก้ไข โดยเฉพาะมาตรา 93 และ 94 มีคำว่า ‘พึงมี’ ‘พึงได้’ ทำให้อย่างไรก็เป็นการคิดคะแนนแบบรัฐธรรมนูญ ปี 2560 และจะส่งผลต่อกฎหมายลูกแน่นอน
ปดิพัทธ์กล่าวต่อไปว่า พรรคก้าวไกลยังยืนยันว่าไม่ได้กลัวการเลือกตั้งไม่ว่ารูปแบบไหน พรรคการเมืองมีหน้าที่ปรับตัวให้สอดรับกับการเลือกตั้ง เเต่หากพรรคใหญ่จะเอาให้ได้ ไม่สนต่อความชอบธรรม ซึ่งมีความชัดเจนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในรอบนี้ไม่มีความชอบธรรม รวมทั้งนักวิชาการ สื่อมวลชน ฝ่ายการเมืองต่างๆ แสดงความเห็นออกมาชัดเจนแล้วว่ากติกานี้เอื้อพรรคใหญ่ และสังเกตได้ถึงการร่วมไม้ร่วมมืออย่างผิดสังเกตของพรรคใหญ่
อย่างไรก็ตาม ชัดเจนว่าสิ่งสำคัญคือเราต้องแก้ไขโครงสร้างอำนาจของ ส.ว ซึ่งเป็นการเอื้อให้กับระบอบคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะนั่นคือเผด็จการประชาธิปไตย ส่วนกระบวนการนิติบัญญัติจะต้องแก้ไขด้วยความเป็นธรรม ฝ่ายการเมืองต่างๆ ต้องประเมินให้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นความด่างพร้อยของการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยในวันนี้พรรคก้าวไกลจะหารืออีกครั้ง ถึงประเด็นในการลงมติที่จะเกิดขึ้น