30 มกราคม 2003 The Classic นำแสดงโดย ซนเยจิน โจซึงอู และโจอินซอง เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ประเทศเกาหลีใต้ ก่อนที่กระแสสุดสั่นสะเทือนวงการ ทำให้ตัวหนังได้เดินทางออกไปฉายในหลายประเทศแถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทยที่แม้ว่ากว่าจะได้ชมกันก็ค่อนไปทางปลายปีแล้วก็ตาม
ถ้าจะถามว่าภาพยนตร์เกาหลีที่เวลาผ่านไปเกือบ 20 ปีแล้วแต่เรายังจำได้ไม่ลืม ก็น่าจะต้องมีชื่อของ The Classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต เป็นหนึ่งในนั้นด้วย นี่คือผลงานชิ้นทองคำอีกครั้งของผู้กำกับและผู้เขียนบท กวักแจยอง เจ้าของผลงานแจ้งเกิดจอนจีฮยอนใน My Sassy Girl (2001) ก่อนที่จะระเบิดพลังสร้างคลื่นคอนเทนต์เกาหลีที่ไปไกลทั่วเอเชียแปซิฟิกกับ The Classic (2003)
วันที่ 1 ธันวาคม 2021 ภาพยนตร์ The Classic กลับคืนจอให้เราได้ชมกันอีกครั้งผ่านทาง Netflix เพื่อเป็นการฉลอง 18 ปีการเดินทางของภาพยนตร์เรื่องนี้ และสำหรับแฟนคอนเทนต์เกาหลี ก็น่าสนใจทีเดียวว่า The Classic จะเป็นกรณีศึกษาถึงเอกลักษณ์ความเป็นดราม่าแบบเกาหลี ที่หลอมรวมกับเรื่องรักพล็อตซับซ้อนได้ออกมาอย่าง ‘คลาสสิก’ สมชื่อเรื่อง
และนี่คือเหตุผลที่คุณควรดู The Classic หรือดูซ้ำอีกครั้ง เพื่อค้นพบอะไรใหม่ๆ พร้อมนึกย้อนถึงการเติบโตของคอนเทนต์เกาหลีที่เคยเป็นเพียงกลุ่มก้อนเล็กๆ และพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจนกลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกคอนเทนต์ระดับโลก
ผลงานของผู้กำกับกวักแจยอง
ในยุคต้น 2000 นับเป็นการเปิดประตูสู่พรมแดนอื่นของภาพยนตร์เกาหลี โดยเฉพาะผู้กำกับรุ่นใหม่ๆ ในตอนนั้น สำหรับกวักแจยอง ที่เรียนจบฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยคยองฮี แต่กลับมาเอาดีทางการเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ ในปี 1989 เขาเดบิวต์ด้วยผลงาน Watercolor Painting in a Rainy Day และแจ้งเกิดทันที แต่กับภาพยนตร์อีก 2 เรื่องที่ตามมา ล้มเหลวจนเขาแทบไม่มีโอกาสได้ทำหนังอีก แต่แล้วภาพยนตร์ My Sassy Girl ในปี 2001 ก็ดังเปรี้ยงหยุดไม่อยู่ กลายเป็นใบเบิกทาง ก่อนที่เขาจะทั้งเขียนบทและกำกับ The Classic เป็นผลงานต่อมา
ความสำเร็จของ The Classic ทำให้เราได้ชมผลงานของเขาต่อเนื่อง ทั้งภาพยนตร์ Windstruck (2004) ที่นำยัยตัวร้ายมารับบทนำคู่กับจางฮยอก, ภาพยนตร์ญี่ปุ่น Cyborg She (2008) นำแสดงโดย ฮารุกะ อายาเสะ มาจนถึง Happy New Year ภาพยนตร์รักโรแมนติกที่มีแผนจะเข้าโรงฉายในปี 2021
ขยี้ปมดราม่า กระตุ้นต่อมน้ำตาให้ไหลไม่หยุด
เรื่องราวความรักใน 2 รุ่นต่างวัยของแม่และลูกสาว เมื่อจีเฮ ไปเจอกล่องใบหนึ่งที่เต็มไปด้วยจดหมายและไดอะรีที่แม่ของเธอเขียนไว้เกี่ยวกับความรักที่เป็นความลับส่วนตัวเสมอมา ทำให้เราได้ติดตามเรื่องราวย้อนอดีตกลับไปในยุค 60 ที่จูฮี คุณแม่ของเธอยังเป็นเพียงเด็กสาว และได้พบรักกับจุนฮา ชายหนุ่มที่เป็นรักครั้งแรก ขณะเดียวกันในยุคปัจจุบันปี 2003 จีเฮเองก็พบกับซังมิน ผู้ชายที่ทำให้เธอรู้จักกับความรัก
“เมื่อพระอาทิตย์สาดส่องบนท้องทะเล ผมคิดถึงคุณ
เมื่อพระจันทร์สาดแสงในฤดูใบไม้ผลิ ผมคิดถึงคุณ
“มองไปนอกหน้าต่างหากเห็นกิ่งไม้ไหวโยกไปมาตามแรงลม
โปรดจงรับรู้ว่าคนที่คุณรักเขา รักคุณเช่นกัน
“ฟังสิ หากคุณได้ยินเสียงหัวใจคุณเต้น
โปรดจงรับรู้ว่าคนที่คุณรักเขา รักคุณเช่นกัน”
The Classic เล่าเรื่องรักคู่ขนานกันไปในแต่ละยุค ซึ่งความรักในยุค 60 สะท้อนความรู้สึกผ่านการเขียนจดหมาย ส่วนในยุค 2003 เป็นการเขียนอีเมลตอบโต้กัน ซึ่งนับว่าเป็นความคลาสสิกที่ผูกสานความสัมพันธ์อย่างแช่มช้า และทำให้เห็นว่ากับความรักแล้ว ไม่ว่าจะผ่านเวลาไปนานแค่ไหน ก็ยังคงเป็นสิ่งที่มนุษย์เรายิ้มได้ เสียน้ำตา และเศร้าลึกๆ ในใจไม่ต่างกัน
ซนเยจิน นักแสดงที่ร้องไห้สวยมากแห่งชาติ
The Classic เป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องที่ 4 ของซนเยจิน นักแสดงหญิงดาวรุ่งที่เพิ่งมีงานแสดงเดบิวต์ Secret Tears (2000) ก่อนจะเติบโตในวงการอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะงานแสดงใน The Classic ที่เธอต้องรับแสดงเป็น 2 บทบาท ทั้งจีเฮ และจูฮี คุณแม่ในวัยสาว
นอกจากโทนสีที่แบ่งแยกช่วงเวลาในภาพยนตร์ออกจากกันแล้ว ซนเยจินก็รับบทที่แตกต่างนี้ไว้ และทำให้เกิดเสน่ห์ของตัวละครในแต่ละรูปแบบ ทำให้เกิดน้ำหนักน่าเชื่อขึ้นในเรื่องราวที่เศร้าเกินบรรยาย
รวมถึงฉากร้องไห้ที่ซนเยจินทำได้งดงามพร้อมทั้งบีบหัวใจในขณะเดียวกัน ใครที่ได้ดูย่อมรู้สึกอินตามไปกับตัวละครจนน้ำตาพร่างพรูไม่ต่างกัน ซึ่งการแสดงของซนเยจินใน The Classic ก็ทำให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ทั้งจากเวที Baeksang Arts Awards และ Grand Bell Awards ซึ่งนับเป็นเวทีใหญ่ด้านภาพยนตร์ทั้งหมด
โจซึงอู คนแรกของหัวใจ
โจซึงอู รับบทเป็น จุนฮา รักแรกไม่เคยลืมของจูฮี บทดราม่าหนักๆ สะท้อนชีวิตชายหนุ่มในยุค 60 ที่ต้องเดินทางไปรบในสงครามเวียดนาม รวมถึงวัฒนธรรมการแต่งงานแบบคลุมถุงชนที่ยังคงเป็นกรอบระเบียบทางสังคมในสมัยนั้น ซึ่งบทจุนฮา เป็นชายหนุ่มที่ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อคนที่เขารัก และการแสดงของโจซึงอูก็ทำให้เราเข้าใจตัวละครนี้มากยิ่งขึ้น กับทางเลือกที่เขาตัดสินใจในท้ายที่สุด
สำหรับโจซึงอูแล้ว จะเรียกว่าเป็นนักแสดงที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ก็ว่าได้ เพราะในตอนที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัย เขาได้ไปออดิชันภาพยนตร์เรื่อง Chunhyang (2000) ที่โอกาสมีเพียง 1 ใน 1,000 เท่านั้น และผลงานชิ้นแรกของเขาก็ได้ฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์อีกด้วย
ตอนที่เขาถ่ายทำ The Classic โจซึงอูอายุเพียง 23 ปีเท่านั้น เพิ่งผ่านการทำงานแสดงมาเพียง 3 ปี ในตอนนั้นฝีมือการแสดงของเขาเหนือชั้น และยังคงพัฒนาทักษะการแสดงอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานละครเวที ภาพยนตร์ ซีรีส์ จนเป็นนักแสดงฝีมือดีอันดับต้นๆ ของวงการถึงทุกวันนี้
โจอินซอง คนสุดท้ายของชีวิต
โจอินซอง รับบทเป็น ซังมิน ผู้ชายหน้าตาดีในชมรมละครของมหาวิทยาลัย จูฮีและเพื่อนสนิทสมัครเข้าชมรมนี้เพราะแอบหลงรักซังมิน แม้ว่าจะมีความรู้สึกดีๆ ให้ผู้ชายคนนี้เช่นกัน แต่จูฮีที่โดนเพื่อนไหว้วานให้ช่วยเขียนอีเมลโต้ตอบกับซังมิน ก็ยอมตกลงและถอยฉากออกไป โดยที่เธอเองไม่อาจรู้ว่าซังมินมีความรู้สึกดีๆ ให้เธอเช่นกัน
The Classic เป็นผลงานยุคแรกๆ ของโจอินซองในฐานะนักแสดง หลังจากซีรีส์ School 3 ในปี 2000 และจะเรียกว่าเป็นการแจ้งเกิดก็ไม่ผิด เพราะบทซังมินใน The Classic เป็นความอบอุ่นอ่อนโยนตามสูตรผู้ชายที่แสนดี จนช่วงที่ภาพยนตร์เข้าฉาย กระแสความนิยมของเขาหนาแน่นไปทั่วเอเชีย ทำให้ผลงานของโจอินซองนับจากนั้นได้รับการจับตามองมาโดยตลอด
The Classic งานภาพ และมุมกล้องสุดคลาสสิก
อีจองกยู เป็นช่างภาพในภาพยนตร์ The Classic และเขาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพเคลื่อนไหวได้งดงาม ทั้งองค์ประกอบ แสง สี และยังแสดงให้เห็นความงดงามของเกาหลีในยุค 60 ออกมาได้แตกต่างชัดเจน
ดนตรีประกอบภาพยนตร์ The Classic
เพลงที่บรรเลงประกอบในภาพยนตร์ล้วนแล้วแต่ขึ้นหิ้ง ทั้งดนตรีคลาสสิกของ Beethoven, Johann Pachelbel และ Mozart รวมถึงเพลงประกอบมากมายที่ฟังทีไรต้องย้อนนึกถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ทุกคราว
แทร็กที่ย้อนกลับไปฟังแล้วยังต้องนึกถึง อย่างเช่น
- Me to you, you to me โดย Jatanpung เป็นเพลงที่อยู่ในฉากร่มวิเศษ วันฝนตก
- Confession โดย Deli Spice อยู่ในฉากแกเลอรีศิลปะ
- It not love if it hurt so much โดย Kim Kwang Seok ฉากการพบกันครั้งสุดท้าย
- If we are in love, then โดย Han Song Min เพลงนี้เรียบเรียงออกมาหลายเวอร์ชัน ใช้ประกอบเป็นแบ็กกราวด์ในภาพยนตร์ตลอดเรื่อง
- เพลงดังจากตะวันตกในขณะนั้น Do Wah Diddy Diddy โดย Manfred Mann และเพลง Hippy Hippy Shakes โดย The Swinging Blue Jeans
ตัวอย่างภาพยนตร์ The Classic
อ้างอิง: