×

การผนึกกำลังกันของสองหุ้นส่วน เผยเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ โดยสองผู้บริหารจาก The Blacktie Service [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
06.09.2019
  • LOADING...
The Blacktie Service

HIGHLIGHTS

5 MINS. READ
  • ผู้บริหารของ The Blacktie Service สามารถสร้างความเติบโตให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี ทั้งคุณภาพที่โดดเด่น และผลประกอบการหลักร้อยล้านบาท รวมถึงการได้รับรางวัลจากสถาบันนานาชาติ เช่น รางวัล The Luxury Award 2019 ส่งผลสู่ความสำเร็จอันเป็นที่น่าจับจ้องจากนักลงทุน และสามารถระดมทุนรอบใหม่ได้สูงถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
  • กุญแจสู่ความสำเร็จของ เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส คือ การเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการของลูกค้าวีไอพี และทำงานลงรายละเอียดเพื่อให้พนักงานที่เป็น Customers Touch Point สามารถให้บริการที่ลูกค้าคนพิเศษรู้สึกประทับใจได้ รวมถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้บริหารทั้งสองท่านนี้

เป็นแบบอย่างของ SMEs ไทยที่ก่อตั้งขึ้น และสร้างผลประกอบการอันดีเยี่ยมน่าจับตามอง ล่าสุด The Blacktie Service บริษัทผู้จัดการด้านสิทธิประโยชน์และให้บริการ Lifestyle Experience ระดับพรีเมียม เพิ่งสามารถระดมเงินทุนได้สูงถึง 2 ล้านดอลลสาร์สหรัฐ เรียกได้ว่าสามารถขยายตัวเติบโตขึ้นได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว จากข่าวดีดังกล่าว THE STANDARD สนใจถึงกุญแจไขความลับสู่ความสำเร็จของทางบริษัทฯ จึงได้ขอนัดพูดคุยกับสองผู้บริหาร คือผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง อ้อ-กนกพร ณ ระนอง และ น้ำ-ศุภวัฒก์ ชลวณิช หุ้นส่วนผู้เป็นกำลังสำคัญ ถึงเรื่องราวจุดกำเนิดของ SMEs ดาวรุ่งรายนี้ พร้อมถอดบทเรียนทางธุรกิจ และก้าวต่อไปของบริษัท เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส 

 

“ย้อนหลังไปเมื่อปี 2558 ซึ่ง เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส เพิ่งก่อตั้งนั้นแทบจะไม่มีบริษัทที่ให้บริการในลักษณะเดียวกันกับเราเลย และจนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังถือว่ามีอยู่น้อยมาก ตัวดิฉันเองนั้นถือว่าโชคดี ได้มีโอกาสฝึกฝนพัฒนาตัวเองกับบริษัทที่ปรึกษาชื่อดังอย่าง Accenture ทำให้ได้รับมุมมองความคิดและการทำงานอย่างมีระบบ จนกระทั่งย้ายมาทำงานบริษัท Quintessentially ซึ่งก็เป็น Concierge Service เพราะเป็นคนที่มีอินเนอร์ของ Hospitality จนในที่สุดเราก็เปิดกิจการของตัวเองซึ่งก็คือ เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส ขึ้นมา เพราะเห็นว่ามีโอกาสอยู่ในตลาดนี้ โดยในระยะแรกดูแลงานด้านอีเวนต์ให้กับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ Wealth อย่างธนาคารก่อน จนได้รับความไว้วางใจและได้รับงานดูแลสิทธิประโยชน์ เริ่มจากบริการรถลีมูซีนซึ่งมีลูกค้าใช้บริการจำนวนมาก และถัดจากนั้นก็ขยายไปสู่การทำ CRM”  

 

The Blacktie Service

กนกพร ณ ระนอง

CEO ผู้ก่อตั้ง The Blacktie Service 

 

ด้วยความที่การดำเนินธุรกิจทุกวันนี้ไม่ใช่เพียงแค่การขาย แต่รวมถึงการบริหารความสัมพันธ์เพื่อดูแลลูกค้าในระยะยาว ผนวกกับการแข่งขันในปัจจุบันที่ดุเดือดขึ้น ทำให้องค์กรใหญ่ๆ ต้องดูแลลูกค้าระดับ VIP มากขึ้น จึงต้องให้ความสำคัญกับทำ CRM (Customer Relation Management) เพราะเมื่อลูกค้าระดับ VIP ประทับใจต่อการดูแลที่ ‘พิเศษ’ นั่นย่อมหมายถึงโอกาสการเป็นคู่ค้ากันในระยะยาว ทว่าในบางองค์กรอาจจะไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการดูแลลูกค้าระดับ VIP คำตอบจึงอยู่ที่ผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญ อย่าง เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส ซึ่งมีบริษัทชั้นนำ และแบรนด์ดังๆ ไว้วางใจใช้บริการเป็นจำนวนมาก

 

ทั้งนี้ทาง เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส มีผลงานโดดเด่น เป็นผู้นำด้านการจัดการสิทธิประโยชน์และผู้ให้บริการ Lifestyle Experience ระดับพรีเมียมสำหรับองค์กรยุคใหม่ขนาดใหญ่ อาทิ ลูกค้าของธนาคาร, สมาชิกบัตรเครดิต, เจ้าของรถยนต์หรู, เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์, บริษัทประกันชีวิต หรือโรงพยาบาล ฯลฯ​ ที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าคนพิเศษ โดยทาง เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส จะคัดเลือกสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าได้มีโอกาสใช้จริงอย่างสม่ำเสมอ รวมเข้ากับการดูแลอย่างพิเศษและใส่ใจ เพื่อสร้างความประทับใจที่ดีที่สุด เกิดเป็นความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างลูกค้าและองค์กร  

 

เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส สามารถรังสรรค์ประสบการณ์สุดพิเศษที่สามารถ Customize ตามความต้องการของลูกค้าได้ เริ่มตั้งแต่ความเรียบง่ายแต่มีศักยภาพ อย่างเช่น บริการรถลีมูซีน และความสะดวกสบายภายในสนามบิน ไปจนถึงความเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น ทริปนั่งเครื่องบิน Private Jet พร้อมดินเนอร์ร้านอาหารระดับเวิลด์คลาส แสดงให้เห็นถึงความครบเครื่องของเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งและเป็นผู้เชี่ยวชาญ สามารถช่วยออกแบบกิจกรรมพร้อมสิทธิและประสบการณ์พิเศษอย่างพิถีพิถัน ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าระดับ VIP เหล่านั้นได้ 

 

เมื่อถามถึงเคล็ดลับที่เป็นกุญแจไขสู่ความสำเร็จ ผู้บริหารหญิงเก่งและแกร่งอย่างกนกพรให้คำตอบกับเราว่า  

 

“ดิฉันมองว่ามันเป็นความจริงใจและตั้งใจที่เรามีให้กับลูกค้า คือเราต้องการทำงานให้ออกมาดีที่สุด เพราะถ้าจะให้พูดจริงๆ แล้วดิฉันว่าเรื่องของสิทธิประโยชน์นั้นทำไม่ยากนักหรอกค่ะ มันก็คือการดูแลอำนวยความสะดวกในเรื่องชีวิตประจำวันอยู่เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น เช่น บริการรับส่ง การรับประทานอาหาร จัดทริป เลขาส่วนตัว ฯลฯ การจัดการอำนวยความสะดวกเรื่องราวในชีวิตประจำวันต่างๆ เช่นนี้คือสิ่งที่องค์กรชั้นนำต้องการจะทำเพื่อดูแลลูกค้า แต่ความยากคือการทำอย่างมีระบบและลงครบทุกรายละเอียด เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ลดความยุ่งยาก เพิ่มความสะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการใช้ชีวิต ซึ่งการจัดการอำนวยความสะดวกเหล่านั้นที่ทำได้อย่างน่าประทับใจนั่นแหละที่จะสร้างความแตกต่างที่พิเศษ นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้าและองค์กร สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าที่ เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส เราต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้ากลุ่มนั้นๆ ได้อย่างลึกซึ้ง และทำงานลงรายละเอียดเพื่อให้พนักงานที่เป็น Customers Touch Point ของเราสามารถให้บริการที่ทำให้ลูกค้าคนพิเศษรู้สึกประทับใจได้”

 

The Blacktie Service

 บุคลากรของ The Blacktie Service 

ได้รับการคัดสรรมาอย่างดี และมีการจัดฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง

เพราะถือเป็น Customers Touch Point ที่สำคัญ 

 

“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส จึงได้ให้ความใส่ใจกับทีมงานอย่างมาก พร้อมทุ่มเทงบประมาณจำนวนมากในการทำเทรนนิ่งทั้ง Soft Skill หรือ Hard Skill รวมถึงการสร้างทัศนคติอันดีที่ถูกต้องในการให้บริการ เพราะว่าการจะ เซอร์วิสลูกค้าให้ดีได้นั้น มายด์เซตในการให้บริการสำคัญจริงๆ 

 

“ที่เราประสบความสำเร็จ สืบเนื่องมาจากความที่เราทุ่มเทใส่ใจในเรื่องของการบริการทุกด้าน คีย์หลักอีกอย่างของบริษัทคือ เรามีความตั้งใจอย่างยิ่งในการสรรหาบุคลากรที่มีประสบการณ์ ความซื่อสัตย์ และความจริงใจ รู้จักที่จะให้บริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟ นอกจากนี้ทีมผู้บริหารของ เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส ยังมีการวางวิสัยทัศน์ที่จะนำพาองค์กรไปในทิศทางที่บริษัทกำหนด เรามุ่งหวังที่จะสร้างความประทับใจในการบริการของเราต่อลูกค้าทุกท่าน ที่ผ่านมาเราสามารถสร้างความเติบโตให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของผลประกอบการ และรวมถึงการได้รับรางวัลจากสถาบันนานาชาติ เช่น รางวัล The Luxury Award 2019 ด้วย” 

 

ความสำเร็จดังกล่าวนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีกำลังสำคัญอีกคนซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้มีแบ็กกราวด์อันน่าทึ่งที่เข้ามาช่วยจัดระบบระเบียบให้องค์กรพร้อมขยายตัวอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะก้าวมาเป็นองค์กรใหญ่

 

โดย น้ำ-ศุภวัฒก์ ชลวณิช อยู่ในแวดวงการเงินและการลงทุนต่างประเทศหลายปีทำงานทั้งที่นิวยอร์กและสิงคโปร์ เคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของทั้งกองทุนที่มีมูลค่าหลายแสนล้าน และกองทุนที่มีรูปแบบการลงทุนที่มีความซับซ้อนสูงที่เรียกกันว่า Hedge Fund ก่อนจะตกลงใจมาร่วมเป็นหุ้นส่วนที่นำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส 

 

“ผมเข้ามาเป็นหุ้นส่วนของเดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส ภายหลังจากที่บริษัทได้มีการดำเนินการมาได้สักระยะ เหตุผลที่ตัดสินใจก็เพราะผมรู้จักพี่อ้อในระดับที่ดีมาก

รู้ถึงความสามารถและความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ความทุ่มเทที่จะพาองค์กรให้เติบโตโดยไม่ย่อท้อต่อปัญหาระหว่างทาง ซึ่งหากเราจะร่วมงานกับใครสักคน แน่นอนว่าเราย่อมอยากได้หุ้นส่วนที่มีลักษณะเช่นนี้ เช่นเดียวกับโอกาสทางธุรกิจและศักยภาพที่จะเติบโตของบริษัทฯ ที่ชัดเจน คือเราก็รู้ว่าตอนนี้ยังเป็น SMEs ดังนั้นเรื่องระบบหลังบ้านมันก็จะไม่เป๊ะเหมือนอย่างบริษัทใหญ่ๆ ที่ได้มาตรฐาน แต่มันก็เป็นเรื่องที่บริษัทเล็กๆ ต้องทำหากจะโต ซึ่งหลังจากนั้นผมก็เข้ามานั่งทำงาน และพี่อ้อก็ลงแรงเต็มที่กับเรื่องนี้ ก็ช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้บริษัทดียิ่งขึ้น”

 

The Blacktie Service

ศุภวัฒก์ ชลวณิช 

ผู้บริหารและหุ้นส่วนผู้เป็นกำลังสำคัญ 

ของ The Blacktie Service

 

กนกพรเล่าให้ฟังว่า หุ้นส่วนของเธอคนนี้เป็นกำลังสำคัญที่มาพร้อมกับแผนการ และโครงสร้างที่ชัดเจน ซึ่งทำให้บริษัทนั้นดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะเมื่อบริษัทที่เป็น SMEs เริ่มเติบโตขึ้นก็มักจะมีการขยายตัวรองรับลูกค้าและปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้น ปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือการควบคุมคุณภาพของการให้บริการ ซึ่งสิ่งที่ศุภวัฒก์ผลักดันให้เกิดขึ้นก็คือ ระบบการคัดสรรบุคลากรที่มีคุณภาพ กำหนดมาตรฐานด้านการเงินและการดำเนินงาน รวมถึงนำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้กับทั้งองค์กร ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และเห็นผลดีขึ้นอย่างชัดเจน 

 

หนึ่งในนั้นคือการนำ Salesforce ระบบจัดเก็บข้อมูลและบริหารความสัมพันธ์ลูกค้ามาใช้ แพลตฟอร์มดังกล่าวสามารถช่วยให้เก็บและแสดงข้อมูลของลูกค้าได้ 360 องศา เชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งองค์กร เพื่อให้ข้อมูลที่มีประโยชน์สามารถดึงมาใช้ได้อย่างทันท่วงที ที่สำคัญคือมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สูงสุดเช่นเดียวกับที่ใช้ในธนาคารและองค์กรใหญ่หลายแห่งทั่วโลก เพราะทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวลูกค้าเป็นอย่างมาก ดังนั้นลูกค้าของ เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส จึงไว้วางใจในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้แพลตฟอร์มดังกล่าวยังช่วยวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อแมตช์ความต้องการและมอบสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ากับลูกค้าองค์กรในการประเมินงบประมาณ และได้สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าผู้รับบริการ 

 

ศุภวัฒก์ยังเปิดเผยต่ออีกว่า “หลังจากที่ เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส ขยายตัว พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพ ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ที่สนใจร่วมลงทุน ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงกองทุนต่างๆ ซึ่งเมื่อได้พิจารณาดูแล้ว ในที่สุดเราจึงตัดสินเลือกกลุ่มนักลงทุนชาวไทย 

 

“การระดมทุนครั้งนี้ เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส สามารถระดมเงินทุนได้สูงถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนอกจากลงทุนทรัพย์แล้ว นักลงทุนเหล่านี้เป็นนักธุรกิจและเจ้าของกิจการที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดของประเทศไทย ตั้งใจเข้ามาร่วมต่อยอดการขยายธุรกิจให้กับบริษัทอีกด้วย โดยเงินลงทุนที่ได้มาจะถูกนำไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพของระบบการทำงานภายในบริษัท ลงทุนในสินทรัพย์ที่จำเป็นเพื่อให้สามารถขยายธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งลงทุนในคุณภาพของทีมงานในระดับต่างๆ เพื่อรับการขยายงานเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกับที่สามารถยกระดับคุณภาพบริการให้ดียิ่งขึ้นไปอีก” ศุภวัฒก์ กล่าว 

 

เมื่อถามถึงเป้าหมายในลำดับถัดไปของ แบล็ค ไท เซอร์วิส หลังจากนี้ ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ อย่างกนกพรสรุปให้ว่า “เป้าหมายของ เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส คือ เราต้องการเป็นผู้นำในธุรกิจของเรา เราต้องการสร้างคุณภาพที่เมื่อลูกค้ามาใช้บริการจะได้รับความรู้สึกที่ว่าเราให้บริการในระดับที่สูงเกินความคาดหวังของเขา ซึ่งกุญแจสำคัญคือการใส่ใจในทุกรายละเอียด ในยุคที่เทคโนโลยีสร้างความสะดวกสบายให้ผู้บริโภคทุกระดับ ความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านการดูแลเพื่อสร้างความแตกต่างคือสิ่งที่องค์กรถามหา ซึ่ง เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส ต้องการจะเป็นชื่อแรกที่องค์กรต่างๆ นึกถึง และคุณภาพที่ เดอะ แบล็ค ไท เซอร์วิส นำเสนอ จะเป็นมาตรฐานที่ทุกองค์กรต้องการ” 

 

สุดท้ายเมื่อขอให้หุ้นส่วนทั้งสองคนพูดถึงการทำงานร่วมกัน ศุภวัฒก์กล่าวชมหุ้นส่วนของเขาว่า “พี่อ้อเป็นคนที่ทำงานสู้ตายครับ เขาพยายามส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า” 

 

ในขณะเดียวกันกนกพรเองก็กล่าวชื่นชมถึงความเป็นจีเนียสและความทุ่มเทของศุภวัฒก์ ความสัมพันธ์เช่นนี้เองที่ทำให้เราเห็นชัดเจนว่า นอกเหนือจากความสามารถและวิสัยทัศน์อันกว้างไกลแล้ว ความเชื่อใจซึ่งกันและกัน อันเป็นทีมเวิร์กที่ดีระหว่างทั้งสองท่านนี้นั่นเอง คือกุญแจสำคัญอีกอย่างที่ช่วยผนึกกำลังเป็นแรงขับเคลื่อนให้ The Blacktie Service ประสบความสำเร็จ

The Blacktie Service

ผู้บริหารทั้งสองท่าน 

ผนึกกำลังเป็นแรงขับเคลื่อนให้ The Blacktie Service ประสบความสำเร็จ

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

FYI
  • บริการหลักของ The Blacktie Service ได้แก่ 1. ผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับองค์กร (Corporate Concierge Service) 2. บริการจัดทริปเดินทางและกิจกรรมสร้างประสบการณ์พิเศษ (Unique Experiences) 3. Privilege Program ที่ออกแบบได้ตามความต้องการ ตามงบประมาณ และไลฟ์สไตล์ที่องค์กรต้องการ 4. บริการรถลีมูซีน และบริการอำนวยความสะดวกในสนามบิน (Limousine and Airport Service)
  • ข้อมูลเพิ่มเติม www.theblacktie-service.com
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X