×

พิสูจน์แล้วจึงบอกต่อ The All-new Honda HR-V e:HEV สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวี มาตรฐานใหม่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน รวมทุกความนิยมของคนขับขี่ยุคนี้ไว้ในคันเดียว [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
17.01.2022
  • LOADING...
Honda

HIGHLIGHTS

6 mins. read
  • เรื่องจริงจากการพิสูจน์และทดลองขับ The All-new Honda HR-V e:HEV โดยทีมงาน THE STANDARD
  • พบว่าความพิเศษของรถรุ่นนี้ที่ทำให้เป็น Talk of the Town คือ การติดตั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ให้เป็นดั่งหัวใจของการขับขี่ประจำรุ่น และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทั้งไลน์อัป โดดเด่นทั้งเรื่องดีไซน์ สมรรถนะ ความปลอดภัย และความอเนกประสงค์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เปลี่ยนไป เพื่อให้รถคันนี้พร้อมเป็นพลังที่สมบูรณ์แบบ เพื่อการขับเคลื่อนชีวิตของวันนี้ 

ออกตัวเลยว่ารู้สึกตื่นเต้นทันทีที่ THE STANDARD ได้รับคำเชื้อเชิญจาก Honda ให้ร่วมทดสอบสมรรถนะของรถยนต์เปิดตัว ใหม่ The All-new Honda HR-V e:HEV เพราะนี่คือรถในเซกเมนต์ที่เราเล็งไว้นานแล้วเพื่อการขยายครอบครัวในอนาคต ด้วยเหตุนี้เราจึงรอคอยวันอัปเลเวลของ Honda HR-V อย่างใจจดใจจ่อ แน่นอนว่าเราตั้งความหวังเอาไว้ค่อนข้างสูง เนื่องจาก HR-V รุ่นก่อนนั้น ทำคะแนนไว้ค่อนข้างดี และในยุคปัจจุบัน ประเด็นเรื่องระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าก็กำลังมาแรงในอุตสาหกรรมรถยนต์ การปรับโฉมรอบนี้จึงต้องสมศักดิ์ศรีของผู้นำสายสปอร์ตพรีเมียม SUV ที่ครองใจคนไทย

 

และยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่เมื่อรู้ว่ารถที่เราจะได้สัมผัสนั้น คือรุ่น e:HEV RS ที่เปิดตัวในเมืองไทยเป็นครั้งแรกในโลก 

 

 

The All-new Honda HR-V e:HEV มัดใจเราตั้งแต่แรกเห็น ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสวยสะดุดตา เรียกได้ว่าเรื่องของการดีไซน์ภายนอกนั้น แทบจะยกเครื่องใหม่ทั้งหมด ตัวรถมาในโฉมสีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) หลังคาเป็นสีดำแบบทูโทน (อันที่จริงรุ่นนี้ยังมีอีกสีที่หลายคนเอ่ยปากชมว่าสวยมาก คือสีขาวพรีเมียมซันไลท์) มาพร้อมกับเส้นสายลวดลายที่เปลี่ยนไป กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว หลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof) ทว่ายังคงสื่อถึงความโฉบเฉี่ยว แข็งแกร่ง โดดเด่นมีสไตล์ ดีไซน์ด้านหลังสไตล์คูเป้ ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke ที่เชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ดึงดูดทุกสายตา หากเปรียบเป็นการพบรัก ก็อาจกล่าวได้ว่ารูปโฉมภายนอกของ The All-new Honda HR-V e:HEV กุมหัวใจเราไปแล้วหนึ่งห้อง เร้าให้อดใจไม่ไหว อยากเปิดประตูเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย เพื่อสัมผัสกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่เขาว่าเป็นเหมือนกล่องดวงใจของรถคันนี้ รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดที่สร้างมาเพื่อการขับเคลื่อนชีวิตของวันนี้อย่างแท้จริง

 

 

เมื่อเปิดประตูเข้าไปสัมผัสภายใน หัวใจก็เต้นแรงอีกครั้ง กับการปรับปรุงใหม่ ตั้งแต่ห้องโดยสารที่โอ่โถงกว้างขวางขึ้น สะดวกสบายด้วยฟังก์ชันล้ำสมัยระดับพรีเมียมครบครัน พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน มาถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด คือการทดลองขับขี่ The All-new Honda HR-V e:HEV ว่าจะสมคำร่ำลือที่ว่า เป็นการยกระดับทุกการขับขี่รถ SUV มาตรฐานใหม่แห่งวงการไฮบริดหรือไม่ ซึ่งเราก็ขอตอบตรงนี้เลยว่าจริง! ทันทีที่แตะคันเร่งและประคองพวงมาลัย เรารู้สึกถึงความสบาย เสียงเครื่องยนต์เงียบ พวงมาลัยเข้ามือควบคุมทิศทางง่าย ในขณะที่เมื่อเร่งเครื่องก็ไม่หนืด ออกตัวแรงทันใจ ให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่ เรียกได้ว่า The All-new Honda HR-V e:HEV เปลี่ยนชุดความคิดที่เรามีกับยนตรกรรมไฮบริดไปโดยปริยาย ใครที่เคยคิดว่าพลังขับเคลื่อนแบบนี้จะหนืด ออกตัวช้า เราอยากท้าให้มาลอง

 

 

ความเก่งของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ของ The All-new Honda HR-V e:HEV ต้องยกเครดิตให้การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว คือ มอเตอร์จ่ายกระแสไฟฟ้า และมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อ กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร พ่วงมาด้วยแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน สามารถเก็บประจุไฟและเอื้ออำนวยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ให้แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตันเมตร นี่คือคำตอบของการออกตัวได้แรงทันใจ อัตราเร่งดี ทำให้ขับสนุกแถมยังประหยัดน้ำมัน ส่วนเรื่องอายุการใช้งานก็ไร้กังวล เพราะเราได้ข้อมูลมาว่า ทาง Honda เขารับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดนานถึง 10 ปี* และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบอีก 5 ปี* โดยไม่จำกัดระยะทาง* พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานจากโชว์รูม และศูนย์บริการ Honda 229 แห่งทั่วประเทศ



และจากการทดลองขับขี่ เรารู้สึกได้ถึงสัมผัสที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ 3 เรื่องเด่นๆ ต่อไปนี้    



1. ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV คือ เจ้าแห่งการประหยัดน้ำมัน สำหรับคนที่ยังไม่อยากละจากระบบขับเคลื่อนน้ำมันเชื้อเพลิงโดยสิ้นเชิง ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ใน The All-new Honda HR-V e:HEV ถือว่าตอบโจทย์ตรงใจ เพราะสามารถประหยัดน้ำมันได้มากถึง 25.6 กิโลเมตรต่อลิตร (ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ) ซึ่งมากที่สุดในคลาส ทั้งยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัมต่อกิโลเมตร เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งเราสามารถขับขี่ด้วยระบบนี้ได้อย่างสบายใจหายห่วง เพราะ Honda ก็รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดนานถึง 10 ปี* และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบอีก 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง*  

 

 

2. เร็วแรงทันใจ ขับสนุกทุกโมเมนต์ ถึงแม้จะเป็นเครื่องยนต์ไฮบริดที่เน้นประหยัดพลังงาน และช่วยลดการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ทว่าความเร็วแรงของเครื่องยนต์กลับสวนทางกับภาพของรถประหยัดน้ำมันที่เราเคยคุ้นทั่วไป เพราะ The All-new Honda HR-V e:HEV ให้การขับขี่ที่สนุกเร้าใจ เร็วแรงทันทีที่แตะคันเร่ง ในขณะที่ยามเข้าโค้งก็นุ่มนวล เรียกได้ว่าควบคุมการขับขี่ได้ง่าย คล่องตัว ให้เรามั่นใจในการขับขี่ทุกเส้นทาง เพราะเทคโนโลยีด้านการขับขี่และด้านความปลอดภัยก็จัดเต็มเป็นเลิศ เป็นต้นว่ากระจกด้านซ้ายมี Honda LaneWatch ให้เรามองเห็นภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ที่ช่วยให้มั่นใจมากขึ้น ซึ่งเราจะบอกเล่าแบบเจาะลึกเรื่องรายละเอียดเทคโนโลยีความปลอดภัยเป็นประเด็นถัดไป

 

 

3. สัมผัสใหม่แห่งการขับขี่ เรียกได้ว่าเมื่อนั่งหลังพวงมาลัยของ The All-new Honda HR-V e:HEV ประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนเดิมก็เกิดขึ้น เพราะรถคันนี้มาพร้อมสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ในทุกรุ่นย่อย ให้เราสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ตามสถานการณ์ถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode)

 

อีกทั้งยังมีระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัยกับ Deceleration Paddle Selectors ช่วยเพิ่ม Engine Brakes ขณะที่ลดความเร็วได้

 

 

อีกตัวชูโรงที่เราต้องบอกว่า The All-new Honda HR-V e:HEV ทำคะแนนได้ระดับท็อป ก็คือการสร้างมาตรฐานใหม่ด้านความปลอดภัยแบบไม่มีข้อแม้ว่าเป็นรุ่นท็อปหรือรุ่นย่อยอื่นๆ ทำให้เราได้เห็นเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ซึ่งจะทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้าที่สามารถตรวจจับคนเดินถนนและรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 6 ฟังก์ชัน ได้แก่ 

 

  • ระบบเตือนกันชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LAKS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางการเดินรถ (RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำ (ACC with LSF)
  • และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN)

 

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยนอกเหนือจาก Honda SENSING อีกมากมาย เช่น ระบบช่วยเบรกควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ระบบเบรกมือไฟฟ้า ระบบ Auto Brake Hold ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า ด้านหลัง และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง เป็นการแจ้งเตือนเบาๆ อย่างไฮเทคก่อนดับเครื่องยนต์ และออกจากรถว่าอย่าลืมของสำคัญนะ!

 

 

ระหว่างการเดินทาง เราใช้เวลาใส่ใจกับรายละเอียดภายใน The All-new Honda HR-V e:HEV อยู่พอสมควร ทำให้เห็นปลีกย่อยอีกหลายๆ อย่างที่ซ่อนอยู่ ทั้ง หน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ให้เชื่อมต่อกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์เพื่อความเพลิดเพลินทุกโมเมนต์การเดินทาง หากอยากชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงวางมือถือเข้ากับอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) สะดวกยิ่งกว่าเดิม แม้แต่ผู้โดยสารด้านหลังก็มีช่อง USB ให้เชื่อมต่ออย่างง่ายดาย ไม่ต้องพะวงหรือผลัดกันชาร์จแบตแบบเดิมๆ อีกต่อไป และหลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof) ที่ทอดยาวไปถึงโถงผู้โดยสารด้านหลัง ให้ทัศนียภาพแบบเต็มอิ่ม และช่วยให้แสงธรรมชาติพาดผ่านตัวรถเข้ามาอย่างเหมาะสม แม้เราจะนำรถคันนี้ออกมาทดสอบการขับขี่กลางแดดเปรี้ยง แต่ต้องบอกเลยว่าสภาพอากาศภายในรถคนละเรื่องกับภายนอกอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นความท้าทายอีกหนึ่งเรื่องที่เราอยากพิสูจน์ แล้วก็พบว่าระบบทิศทางลมภายในรถนั้นถูกออกแบบมาให้เป็นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System ที่ปรับแอร์ให้หมุนเวียนได้ทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร และมีแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังให้เย็นสบายอย่างทั่วถึงกันเลย

 

ยัง…ความท้าทายของเรายังไม่หมดแค่นี้ เพราะเมื่อมองไปเห็นด้านท้ายของตัวรถ ซึ่งเย้ายวนให้เราอยากรู้ว่าพื้นที่ส่วนท้ายจะตอบโจทย์อิสระการใช้ชีวิตได้มากน้อยแค่ไหน โดยให้ทีมงานช่างภาพของเราลองใช้พื้นที่เก็บสัมภาระ จนได้พบกับฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) ที่ช่วยให้คนที่สัมภาระเยอะๆ สามารถเปิดใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้มือสัมผัส ส่วนตัวเบาะนั้นก็สามารถพับปรับเพื่อการบรรทุก และใช้พื้นที่ได้ดั่งใจ ตอบโจทย์สุดๆ ว้าวไปอีก  

 

 

เมื่อเสร็จสิ้นจากการทดลองขับ และความประทับใจยังไม่หายไป เราก็มาหาข้อมูลต่อว่า อะไรทำให้ The All-new Honda HR-V e:HEV ได้รับการปรับโฉมใหม่หมดจดขนาดนี้ จนได้เจอกุญแจสำคัญว่า Honda ตั้งใจพัฒนารถคันนี้เพื่อให้เป็นหนึ่งในพลังในการขับเคลื่อนชีวิตของทุกคน The All-new Honda HR-V e:HEV ยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียม SUV มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทั้งไลน์อัพ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เปลี่ยนไป เพื่อให้รถคันนี้พร้อมเป็นพลังที่สมบูรณ์แบบ เพื่อการขับเคลื่อนชีวิตในยุคปัจจุบัน  

 

 

มาถึงตรงนี้ กลายเป็นว่า The All-new Honda HR-V e:HEV มัดใจเราอยู่หมัดทุกห้อง เมื่อรู้ทีเด็ดอย่างนี้แล้ว ก็ออกมาสตาร์ทประสบการณ์การเดินทางรูปแบบใหม่ร่วมกัน กับ The All-new Honda HR-V e:HEV ที่มาพร้อมขุมพลังขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย คือ 

 

  • รุ่น e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท
  • รุ่น e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท
  • รุ่น e:HEV E ราคา 979,000 บาท


โดยมีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 เฉด ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) และสีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) รวมทั้งสีขาวแพลทินัม (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) ในทุกรุ่นย่อย

 

และอย่างที่กล่าวไว้ว่า The  All-new Honda HR-V e:HEV มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี* และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี* ไม่จำกัดระยะทาง* โดยมีการบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานจากโชว์รูม และศูนย์บริการ Honda 229 แห่งทั่วประเทศ มั่นใจได้หายห่วง

 

หากใครกำลังมองหารถยนต์สักคัน ที่มอบสมรรถนะอันทรงพลัง ตอบสนองทันใจ อัตราการประหยัดน้ำมันดี The All-new Honda HR-V e:HEV ก็น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่พร้อมจะสร้างมาตฐานใหม่ให้กับรถ SUV และการขับเคลื่อนของวันนี้ได้อย่างแน่นอน…

 

พิเศษทดลองขับ รับฟรี! You’re e:HEV Family Cup แก้วน้ำ 2 ชั้น LocknLock มูลค่า 259 บาท**

 

เมื่อลงทะเบียนและทดลองขับ ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2564 – 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่โชว์รูม Honda ทั่วประเทศ

 

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แชทกับเซลส์ คลิก https://bit.ly/3GKJ1L9

 

#TheAllnewHondaHRVeHEV

 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X