เงินบาทยังคงทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเช้าวันนี้ (20 มกราคม) เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 32.84 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดในวันก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 33.04 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 โดยการแข็งค่าของเงินบาทในรอบนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากแรงขายทำกำไรทองคำจากผู้ค้าทอง หลังจากที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวขึ้นมาแตะระดับ 1,840 ดอลลาร์ต่อออนซ์
พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า แม้เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นจากวันก่อนหน้าพอสมควร จากแรงหนุนในเรื่องของ Fund Flow ขายทำกำไรทองคำ ทว่าหากไม่มี Fund Flow จากนักลงทุนต่างชาติมาสนับสนุนหรือปัจจัยพื้นฐานฟื้นตัวแข็งแกร่ง เงินบาทก็อาจจะไม่ได้แข็งค่าไปมากและยังมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways ใกล้ระดับ 32.90-33.00 บาทต่อดอลลาร์
โดยเงินดอลลาร์ก็อาจกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้างตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ในภาวะตลาดการเงินผันผวน นักลงทุนต่างชาติก็อาจทยอยขายทำกำไรหุ้นไทยเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี เงินบาทยังมีแรงหนุนฝั่งแข็งค่าอยู่จาก Flow ขายทำกำไรราคาทองคำ หากราคาทองคำสามารถทรงตัวที่ระดับ 1,830-1,840 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับแนวต้านสำคัญของเงินบาท พูนประเมินว่าอยู่ในโซน 33.20-33.30 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าผู้ส่งออกต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์ที่ระดับดังกล่าว ส่วนแนวรับสำคัญจะอยู่ในช่วง 32.80-32.90 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งอาจมีแรงซื้อเงินดอลลาร์จากฝั่งผู้นำเข้าช่วยพยุงเงินบาทไม่ให้แข็งค่าไปมากได้
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.85-33.05 บาทต่อดอลลาร์
ทางด้านตลาดการเงินโดยรวม พูนกล่าวว่า ยังคงผันผวนและอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวจากความกังวล Fed ใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากกว่าคาด ส่งผลให้หุ้นเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ที่พยายามรีบาวด์นั้นยังคงเผชิญแรงขายต่อเนื่อง กดดันให้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปิดตลาด -1.15% และเข้าสู่โซนปรับฐาน (Correction) หลังดัชนี Nasdaq ปรับตัวลงจากจุดสูงสุดมากกว่า -10% ส่วนดัชนี S&P 500 ก็ปรับตัวลดลงกว่า -0.97%
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP
