เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (1 กันยายน) บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) เผยว่าแนวโน้มยอดปล่อยสินเชื่อใหม่มีทิศทางลดลง QoQ ใน 3Q64 แต่จะฟื้นตัว QoQ ใน 4Q64 หลังจากรัฐบาลมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์มากขึ้น โดย THANI ยังคงเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2564 ไว้ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 33%YoY และสินเชื่อคงค้างที่ 5.0 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 6%YoY โดยบริษัทคาดว่ายอดขายรถบรรทุกใหม่ในประเทศจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนโควิระบาดที่ราว 2.9-3.0 หมื่นคัน (เพิ่มขึ้น 26-29%) ในปี 2564
ทั้งนี้ ใน 1H64 THANI ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ที่ 1.18 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 42%YoY (ซึ่งดีกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ 1.08 หมื่นล้านบาท) สอดคล้องกับยอดขายรถบรรทุกในประเทศที่ฟื้นตัวกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 52%YoY แต่อย่างไรก็ดียอดสินเชื่อคงค้าง 1H64 ของ THANI ชะลอตัวลง 2%YoY เนื่องจากการชำระคืนสูงขึ้น YoY
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (2 กันยายน) ราคาหุ้น THANI ปรับตัวลดลง 0.91%DoD สู่ระดับ 4.34 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวขึ้น 6.64 จุดหรือเพิ่มขึ้น 0.41%DoD สู่ระดับ 1,641.12 จุด (ข้อมูล ณ เวลา 12.30 น.)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่า THANI จะรายงานกำไรสุทธิ 3Q64 ที่ 415 ล้านบาท ลดลง 12%YoY และลดลง 3%QoQ สะท้อนถึงการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นจากความเสี่ยงด้านสถานการณ์โควิดในประเทศ รวมถึงแนวโน้มสินเชื่อที่อยู่ในระดับทรงตัว และทิศทางส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ทรงตัว ขณะที่แนวโน้มกำไรตลอดทั้งปี 2564 SCBS คาดว่าจะลดลง 7%YoY เนื่องจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ THANI ยังมีความเสี่ยงจากการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ซึ่งอาจเป็นแรงกดดันต่อการตั้งสำรองให้เพิ่มสูงขึ้นได้
มุมมองระยะยาว:
SCBS คาดว่าแนวโน้มกำไรปี 2565 ของ THANI จะฟื้นตัวกลับมาเติบโต 12%YoY ในปี 2565 เพราะสินเชื่อที่กลับมาเติบโตและ NIM ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ในระยะยาวต้นทุนเงินทุนของ THANI อาจถูกกดดันจากแนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะเป็น Downside Risk ต่อแนวโน้ม NIM แต่อย่างไรก็ดี THANI ได้วางแผนมาใช้แหล่งเงินทุนจากเงินกู้ยืมระยะยาวมากขึ้น เพื่อช่วยลดผลกระทบดังกล่าว