วันนี้ (30 เมษายน) ที่อาคารรัฐสภา ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตือนว่า ไม่ควรเชิญชวนคนมาลงสมัคร สว. โดยระบุว่า จากการลงพื้นที่ในหลายจังหวัด ปรากฏว่ามีผู้ตอบรับดีมากและสนใจที่จะลงสมัคร สว. อิสระ เป็นจำนวนมาก ทำให้รู้สึกดีใจที่การรณรงค์ของคณะก้าวหน้าทำให้ประชาชนตื่นตัวและเข้าใจการเลือก สว. ครั้งนี้มากขึ้น
ธนาธรยืนยันว่า การรณรงค์ดังกล่าวไม่ถือเป็นกลุ่มการเมืองที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเลือก สว. เพราะเรารณรงค์ให้ทุกอุดมการณ์ทางการเมืองไปสมัคร สว. ไม่ว่าจะสนับสนุนพรรคการเมืองอะไร ยิ่งมีคนไปมีส่วนร่วมสมัครมากเท่าไร จะยิ่งทำให้สุขภาพของกระบวนการเลือก สว. ดีขึ้นเท่านั้น
ส่วนข้อครหาที่ว่า เป็นการรณรงค์ให้มี สว. สีส้ม นั้น ธนาธรกล่าวว่า วัตถุประสงค์ที่เรารณรงค์ เราไม่ได้ต้องการให้ สว. เลือกฝักเลือกฝ่าย และเราไม่ต้องการให้มี กกต. เลือกฝักเลือกฝ่าย เราไม่ต้องการศาลรัฐธรรมนูญที่เข้าข้างธนาธร เราไม่ต้องการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าข้างพรรคก้าวไกล
แต่เราต้องการ สว. ที่เป็นกลาง และต้องการ กกต. ที่ตัดสินด้วยการยึดหลักที่ถูกต้อง รวมทั้งต้องการ ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ที่มั่นคง เป็นธรรม คืนความยุติธรรมให้กับสังคม เพราะเรารู้ว่าหากองค์กรต่างๆ เหล่านี้หันมาสนับสนุนพวกเรา ก็จะมีปรากฏการณ์ลงถนนกันอีก
“ดังนั้นการจะฟื้นฟูความเป็นปกติ ความเป็นประชาธิปไตย นำประเทศไทยให้กลับมาเหมือนเดิม มีอยู่ทางเดียวเท่านั้นคือคืนความเป็นธรรม ซึ่งมีแต่ความเป็นธรรมและความยุติธรรมเท่านั้นที่จะนำมาซึ่งความสมานฉันท์ของคนในชาติ และมีแต่ความยุติธรรมเท่านั้นที่จะนำมาซึ่งความปรองดองของคนในชาติ” ธนาธรกล่าว
ธนาธรกล่าวต่อไปว่า เราต้องการให้องค์กรต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งสมาชิกองค์กรต่างๆ เหล่านี้จำนวนมากถูกแต่งตั้งโดย สว. ชุด 2567 ดำรงตำแหน่งโดยยึดหลักความถูกต้องและความเที่ยงธรรม การเมืองไทยก็จะกลับมาสู่ความปกติ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นแรก ดังนั้นขอย้ำว่า เราไม่ต้องการ กกต. สีส้ม ศาลรัฐธรรมนูญสีส้ม แต่เราต้องการให้ทุกฝ่ายเป็นกลางและยึดความถูกต้อง
ธนาธรยังระบุด้วยว่า บทบาทของ กกต. ควรสนับสนุนการรณรงค์เชิญชวนคนมาเลือก สว. เพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. การรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวเข้ามามีส่วนร่วมอย่างที่คณะก้าวหน้าทำอยู่ เป็นสิ่งที่นำไปสู่การพัฒนาระบบการเมืองไทย ทำให้ผู้คนตื่นตัวและเห็นความสำคัญของการเลือก สว.
“อยากให้ กกต. มองบทบาทของเราคือการทำให้คนตื่นตัวทางการเมือง ซึ่งจะเป็นผลดี ดังนั้นการไปรณรงค์ให้คนสมัคร สว. และเลือก สว. ควรจะเป็นหน้าที่ของ กกต. และหน้าที่ของรัฐบาลด้วยซ้ำไป” ธนาธรกล่าว
ธนาธรกล่าวถึงระเบียบของ กกต. ที่ประกาศมา ซึ่งแม้จะไม่กล่าวตรงๆ แต่ก็อนุมานได้ว่าหมายถึง iLaw และเว็บไซต์ senate67.com เพราะเว็บไซต์นี้ให้ผู้ประสงค์ที่จะลงสมัคร สว. มีพื้นที่ในการประกาศเจตนารมณ์ของตัวเองและประกาศจุดยืนของตัวเอง ในแง่หนึ่งเป็นการส่งเสริมการเลือก สว. โดยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้นด้วยซ้ำ
“ยังนึกไม่ออกว่าเหตุใด กกต. ต้องการปิดเว็บไซต์นี้ หรือต้องการห้ามคนที่มารณรงค์ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ คิดได้อย่างเดียวว่าผู้มีอำนาจต้องการให้การเลือก สว. ครั้งนี้เป็นไปแบบเงียบๆ แคบๆ ทำกันไม่กี่คน เหมือนการเลือก สว. ครั้งที่แล้ว เราจะได้แต่ สว. ที่เป็นกลุ่มพวกพ้องที่มีการจัดตั้งมา เราจะไม่ได้ สว. ที่มีคุณภาพตามที่เราต้องการจริงๆ” ธนาธรกล่าว