คำชี้แจงธนาธร VS. คำวินิจฉัยศาล รธน. คดีหุ้นสื่อฯ ชี้ชะตาสถานะ ส.ส.
‘ธนาธร’ ตั้งข้อสังเกต 5 ข้อหลังฟังคำวินิจฉัยศาล ยืนยันทำงานต่อ พร้อมเป็น ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า และยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และอดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ กล่าวหลังเข้ารับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่พิจารณาธนาธร สิ้นสุดสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าตนถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด อยู่ระหว่างลงสมัครรับเลือกตั้ง ว่าถึงที่สุดแล้ว ตนรู้สึกทราบซึ้งและขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ และขอตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญดังนี้
1. ศาลรัฐธรรมนูญอ้าง พ.ร.บ. การพิมพ์ ว่าบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด จะเริ่มการเป็นสื่ออีกเมื่อไรก็ได้ ธนาธรเห็นว่า ถ้าบริษัทจะกลับมาเปิดอีกก็ค่อยไปตัดสิทธิตนตอนนั้น ทั้งที่ศาลก็ยอมรับไปเองแล้วว่าบริษัทไม่มีพนักงาน ไม่มีลูกจ้าง
2. ศาลไม่ได้พูดว่าตนทำผิดมาตรา 98 หรือไม่ ว่าตนหรือบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ให้คุณกับตัวเอง ให้โทษกับผู้อื่น
3. การจดแจ้งทะเบียนผู้ถือหุ้นโดยยังไม่แจ้งกระทรวงพาณิชย์ ในรูปแบบ บอจ.5 (งบการเงินประจำปีและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น) แต่ทั้งที่กฎหมายกำหนดให้แจ้งเมื่อไรก็ได้ภายในเวลาหนึ่งปี ทั้งที่บริษัทไม่มีพนักงานแล้ว และเมื่อก่อน สมัยที่ยังมีพนักงาน การแจ้งล่าช้าก็มีเหมือนกัน เพราะบริษัทจะแจ้งหลังจากประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้ง ก่อนจะมีการยื่น บอจ.5
4. การขึ้นเช็คช้า เนื่องจากลูกตนยังเล็กอยู่ แต่ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าให้ใครไปก็ได้ ซึ่งนี่เป็นเรื่องในครอบครัว จะให้ใครไปเป็นเรื่องของผม ที่ผ่านมาผมให้ภรรยาไปคนเดียว และตนกับภรรยาเก็บเอาเช็คตัวจริงให้ กกต. ดูด้วย เพราะพอเกิดเรื่องราวก็ไม่กล้าไปขึ้นเช็ค เก็บไว้ยื่นให้กับ กกต. ดู ในวันที่ 30 เมษายน ซึ่งเจ้าหน้าที่ กกต. ก็ได้เห็นเช็คตัวจริง แต่ศาลกลับบอกว่ามีแค่สำเนา
5. เรื่องการตัดสินใจลงทุน ผู้พิพากษาไม่เคยเป็นนักธุรกิจ จะใช้มาตรฐานของศาลมาคิดไม่ได้ บุคคลก็มีรสนิยมในการลงทุนต่างกัน การแบกรับความผันผวนของตลาดก็ต่างกัน เพราะฉะนั้น จะใช้มาตรฐานศาลมาตัดสินว่านางสมพร (สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของธนาธร) จะลงทุนหรือไม่ลงทุนแบบใดไม่ได้ และการโอนหุ้นกลับไปกลับมากับนายทวี หลานชาย ไม่เกี่ยวอะไรกับการโอนหุ้นเมื่อวันที่ 8 มกราคมของตนกับนางสมพรเลย เพราะการโอนเสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว
ดังนั้นตนจึงเห็นว่าไม่มีเหตุผลอะไรมาหักล้างได้ อีกทั้งศาลให้น้ำหนักกับข้อสันนิษฐานของตัวเอง มากกว่าข้อเท็จจริง และข้อสังเกตสุดท้าย คือไม่มีการบอกมติขององค์คณะศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
“อยากจะเรียนพี่น้องประชาชนว่าพรรคอนาคตใหม่คือการเดินทาง การเดินทางคือสิ่งจำเป็น ผมยังเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พรรคอนาคตใหม่คือผู้คนที่สนับสนุน ที่มีความฝัน ที่มีความตั้งใจเหมือนกัน และจะก้าวเดินต่อไปด้วยกัน และขอบคุณทุกท่านอีกครั้งที่มาให้กำลังใจผมในวันนี้” ธนาธร กล่าว
ทั้งนี้ ธนาธรยังตอบคำถามสื่อมวลชนที่ถามถึงความเป็นธรรมว่า จะมีความเป็นธรรมหรือไม่ให้ประชาชนตัดสินใจเองจะดีที่สุด ตนยังทำงานต่อเป็นหัวหน้าพรรค และยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก เช่น การรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ การออกกฎหมายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และสร้างพรรคบริหารพรรคให้เข้มแข็งเป็นหลักยืนให้ประชาชน
พร้อมทั้งยังกล่าวว่า ตนยังเชื่อว่าจะกลับมาเป็น ส.ส. ได้อีก เพราะการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม ไม่ใช่ครั้งเดียว พรรคอนาคตใหม่ยังต้องผ่านการเลือกตั้งอีกเยอะ และที่สำคัญตนยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่
ขณะที่มวลชนและสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ที่มารอจำนวนมากชู 3 นิ้ว เพื่อให้กำลังใจ พร้อมตะโกนคำว่า “สู้ๆ” และร้องเพลงศรัทธา
กกต. จ่อฟ้องคดีอาญาต่อ ขอศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ‘ธนาธร’ สูงสุด 20 ปี
วันนี้ (20 พฤศจิกายน) พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยภายหลังการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ้นสภาพจากการเป็น ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2562
ล่าสุดคณะกรรมการไต่สวนของ กกต. เตรียมนำรายละเอียดการวินิจฉัยของศาลให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาว่าจะดำเนินการตามมาตรา 151 ในข้อหาผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากการขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
แต่กรรมการการเลือกตั้งจะส่งศาลใด ต้องรอความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
วินาทีศาล รธน. มีมติชี้ธนาธรพ้นสภาพ ส.ส.
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ้นจากความเป็น ส.ส. กรณีถือหุ้นสื่อฯ วีลัค-มีเดีย เพราะถือหุ้นจริงในวันสมัครรับเลือกตั้ง
ให้มีผลนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 82 วรรค 2 คือ 23 พฤษภาคม 2562 และให้เลื่อนลำดับบัญชีรายชื่อของพรรคอนาคตใหม่ลำดับถัดไปขึ้นมาแทน
ธนาธรเผยความเห็นแย้ง 5 ข้อ ปมศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพ ส.ส.
วันนี้ (20 พฤศจิกายน) ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ้นสภาพการเป็น ส.ส. นับตั้งแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ ภายหลังรับฟังคำวินิจฉัย ธนาธรก้าวเท้าออกมาจากศาลพร้อมรอยยิ้มท่ามกลางมวลชนที่มารอให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก โดยธนาธรได้เปิดเผยความคิดเห็นต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และนี่คือ 5 ประเด็นเห็นต่างในมุมมองของเขา
ศาล รธน. เผยแพร่สรุปคำวินิจฉัย ให้ธนาธรสิ้นสุดความเป็น ส.ส. ด้วยมติ 7 ต่อ 2 เสียง
วันนี้ (20 พฤศจิกายน) ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือ
โดยผลการพิจารณาระบุว่าศาลรัฐธรรนูญวินิจฉัยด้วยมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ว่า ผู้ถูกร้องเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชนอยู่ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวันที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อต่อผู้ร้อง อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ผู้ถูกร้องใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3)
ทำให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง คือวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 และให้ถือว่าวันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 105 วรรคหนึ่ง (2) คือวันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังโดยชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 76 วรรคหนึ่ง คือวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562
ศาล รธน. ชี้ วีลัค-มีเดีย ยังเป็นสื่อฯ อยู่ในวันที่ธนาธรสมัครเลือกตั้ง
สมาชิกรัฐสภาอาเซียนออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังต่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเพิกถอนสถานะ ส.ส. ของธนาธร และเรียกร้องให้รัฐบาลทหารหยุดนํากฎหมายมาเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งสมาชิกพรรคฝ่ายค้านและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย
คำชี้แจงธนาธร VS คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คดีถือหุ้นสื่อฯ ชี้ชะตาสถานะ ส.ส.
วันนี้ (20 พฤศจิกายน) ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยในคดี ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือหุ้นสื่อฯ บริษัท วีลัค-มีเดีย จำกัด โดยศาลมีคำวินิจฉัยให้ธนาธรพ้นสภาพการเป็น ส.ส. นับตั้งแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 82 วรรค 2 คือตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้าที่จะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ธนาธรได้กล่าวปิดคดีต่อสาธารณชนผ่านสื่อมวลชน โดยชี้แจงเป็น 4 ประเด็นสำคัญ ยืนยันว่าบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด หยุดดำเนินการไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 ขณะที่มีการโอนหุ้นเรียบร้อยแล้วก่อนวันลงสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมชี้แจงว่าการถือหุ้นสื่อของตนไม่ผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และ กกต. มีกระบวนการพิจารณาคดีที่ไม่มีความเป็นธรรม ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ขัดแย้งกับคำชี้แจงของธนาธรทั้ง 4 ประเด็น และนี่คือภาพรวมของคำวินิจฉัย VS. คำชี้แจง
ธนาธรมาศาลรัฐธรรมนูญ ฟังคำวินิจฉัยคดีหุ้นสื่อฯ
ขยับผู้สมัคร ส.ส. ชาติพันธุ์กะเหรี่ยงอนาคตใหม่ขึ้นเป็น ส.ส. แทนธนาธร
มานพ คีรีภูวดล ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อชาติพันธุ์กระเหรี่ยง พรรคอนาคตใหม่ ลำดับที่ 53 เตรียมเลื่อนขึ้นเป็น ส.ส. แทน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นความเป็น ส.ส. ทำให้ปัจจุบันพรรคอนาคตใหม่มีจำนวน ส.ส. รวมทั้งสิ้น 80 คน
15.00 น. เวลา 15.00 น. ศาล รธน. วินิจฉัย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ้นจากความเป็น ส.ส. กรณีถือหุ้นสื่อวีลัค-มีเดีย เพราะถือหุ้นจริงในวันสมัครรับเลือกตั้ง ให้มีผลนับตั้งแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 82 วรรค 2 คือ 23 พฤษภาคม 2562 และให้เลื่อนลำดับบัญชีรายชื่อของอนาคตใหม่ลำดับถัดไปเลื่อนขึ้นมาแทน
ธนาธรปรากฏตัวที่ศาลรัฐธรรมนูญ ฟังคำวินิจฉัยคดีถือหุ้นสื่อฯ ท่ามกลางกองเชียร์
วันนี้ (20 พฤศจิกายน) เมื่อเวลาประมาณ 13.25 น. ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อรับฟังคำวินิจฉัยในคดีถือหุ้นสื่อฯ โดยจะเป็นการชี้ชะตาทางการเมืองว่าเขาจะต้องพ้นจากสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. หรือไม่
บรรยากาศที่ศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้มีมวลชนที่มาให้กำลังใจหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เป็นจำนวนมาก นอกจากดอกไม้ให้กำลังใจแล้ว หลายคนยังเปล่งเสียงตะโกนให้ธนาธรสู้ต่อไป ขณะเดียวกันกองทัพสื่อมวลชนจำนวนมากยังมาปักหลักรอทำข่าวคำวินิจฉัยครั้งนี้ด้วย
สำหรับแนวทางในการวินิจฉัยของศาลแบ่งเป็น 2 แนวทางคือ
1. รอด – ศาลวินิจฉัยให้ความเป็น ส.ส. ของธนาธรยังคงอยู่ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ต่อได้ทันที
2. ร่วง – ศาลวินิจฉัยให้ธนาธรพ้นจากความเป็น ส.ส. ซึ่งหากคำวินิจฉัยออกมาในแนวทางนี้ ต้องจับตาต่อไปว่าธนาธรอาจมีโทษทางอาญาในมาตรา 151 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และอาจถูกตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี
14.31 น. องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคดี ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือหุ้นสื่อเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ ต้องพ้นสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. หรือไม่
“อนาคตใหม่คือผู้คนและการเดินทาง” ธนาธรเปิดใจกับ ส.ส. พรรคที่สภาฯ ก่อนฟังคำวินิจฉัยคดีถือหุ้นสื่อ
วันนี้ (20 พฤศจิกายน) ที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้พบปะและพูดคุยกับ ส.ส. ของพรรค ก่อนเดินทางไปฟังคำวินิจฉัยคดีถือหุ้นสื่อที่ศาลรัฐธรรมนูญ
ธนาธรเปิดเผยว่า ตนยังคงมั่นใจในพยานหลักฐาน ซึ่งในช่วงบ่าย หลังฟังคำวินิจฉัยในช่วงบ่าย ตนจะกลับมาพบกับ ส.ส. อนาคตใหม่อีกครั้ง หากเป็นไปได้ตนอาจจะได้กลับมาโหวตในสภาฯ
จากนั้น ส.ส. ทุกคนได้ร่วมกันลุกขึ้นปรบมือให้กำลังใจธนาธร และธนาธรได้ชูสัญลักษณ์สามนิ้ว ขณะเดียวกัน ธนาธรได้เซ็นชื่อที่บริเวณประตูห้องพัก ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ โดยเขียนข้อความว่า ‘อนาคตใหม่คือผู้คนและการเดินทาง’
ธนาธรบอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า วันนี้กำลังใจดี ขอบคุณมาก เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับทุกคน
ด้าน พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้ให้กำลังใจอะไรเป็นพิเศษ เพราะทุกคนก็มั่นใจ และรอรับธนาธรกลับมาที่สภาฯ เย็นนี้ และเชื่อว่า ธนาธรจะได้กลับมาทำงานที่สภาฯ แห่งนี้
ส่วนที่ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ร่วมกันเขียนข้อความนั้น เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งยังเป็นการแสดงสัญลักษณ์ เราจะเปิดประตู่สู่ความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้
“ฝากไปยังคนที่รอฟังคำตัดสินว่า ไม่มีใครรู้ผล แต่ไม่ว่าการตัดสินจะออกมาอย่างไร อนาคตใหม่จะเดินหน้าต่อไป ธนาธรจะเดินหน้าต่อไปในสนามการเมือง ไม่มีการถอยหลังกลับ ชาวอนาคตใหม่มีแต่เดินหน้า ตราบใดที่งานยังไม่สำเร็จ เพื่อสร้างสังคมและประเทศไทยก้าวให้ทันโลก ไม่มีอะไรขัดขวางเราได้” พรรณิการ์กล่าว
13.25 น. ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อฟังคำวินิจฉัยในคดีถือหุ้นสื่อ ท่ามกลางมวลชนจำนวนมากที่มารอให้กำลังใจ