วานนี้ (6 เมษายน) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมวงเสวนาเรื่อง ‘สู้อย่างไรให้ได้ สว. ของประชาชน’ ที่ Sol Bar เชียงใหม่ โดยมีผู้ร่วมเสวนาคือ อ.ชำนาญ จันทร์เรือง กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และ ศ.ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์
ธนาธรกล่าวถึงความสำคัญของการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ ว่าประชาชนจำนวนมากอาจจะไม่ได้สนใจ เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการเลือกได้ ด้วยข้อจำกัดเรื่องเงินค่าสมัคร 2,500 บาท และการจำกัดอายุขั้นต่ำ 40 ปี อีกทั้งระบบการเลือกที่สับสนวุ่นวาย ซึ่งผู้มีอำนาจตั้งใจออกแบบเพื่อกีดกันประชาชนไม่ให้เข้าสู่ระบบ สว. ได้
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องสำคัญมากที่ประชาชนทุกคนจะต้องพยายามแฮ็กระบบนี้ และเอาตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมในระบบเลือก สว. ประชาชนที่รับใช้ประชาชนและเข้าสภาให้ได้ เพราะแม้ สว. ชุดใหม่จะไม่มีอำนาจโหวตนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป แต่ยังมีอำนาจมากในการชี้เป็นชี้ตายพรรคการเมือง นักการเมือง และระบบเลือกตั้ง เนื่องจาก สว. ยังกุมอำนาจการสรรหาบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งในศาลรัฐธรรมนูญ, คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และองค์กรอิสระอีกจำนวนมาก ไม่นับเรื่องแก้รัฐธรรมนูญที่ต้องใช้เสียง สว. โหวตรับรอง 1 ใน 3 หรือประมาณ 70 คน
“สว. ชุดใหม่จะมีวาระ 5 ปี ใน 5 ปีนี้ สว. จะได้สรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 7 ใน 9 คน สรรหา กกต. 5 ใน 7 คน และสรรหา ป.ป.ช. 5 ใน 9 คน ท่านคิดดูว่าหากปล่อยไปตามยถากรรม กลไกเดิมก็จะเลือกเอาคนกลุ่มเดิมๆ เข้ามาเป็น สว. วังวนยุบพรรค ตัดสิทธิ การใช้อำนาจแบบเลือกปฏิบัติที่ประชาชนกังขามาตลอดก็จะดำเนินต่อไป แต่ถ้าเรามี สว. ของประชาชนเข้าไปเป็นกลุ่มก้อน ก็จะทำให้มีความหวังว่าองค์กรอิสระเหล่านี้จะได้คนที่ทำหน้าที่อย่างเที่ยงธรรมเข้าไปทำงาน รวมถึงความหวังในการแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นที่ก้าวหน้า” ธนาธรกล่าว
ธนาธรกล่าวอีกว่า ด้วยกลไกการเลือก สว. ตามรัฐธรรมนูญ 2560 เปิดโอกาสให้เครือข่ายข้าราชการและบ้านใหญ่ ใช้หลักเพื่อนมากหรือเสียงจัดตั้งลากเข้าไป หรือให้กลุ่มก้อนการเมืองใหญ่ซื้อ สว. ที่ปลายทาง เมื่อเลือกกันเสร็จแล้วหากประชาชนจะแฮ็กระบบที่ออกแบบมาเพื่อพวกเขาก็ต้องคิดสวนทาง ทำให้คนที่เข้าไปเป็นคนที่ซื้อไม่ได้
หากมีประชาชนสัก 100,000 คน ยอมเสียสละเพื่อเอาตัวเองเข้าไปเลือกคนที่เหมาะสม เลือกด้วยเหตุผล ใช้วิจารณญาณของตัวเอง เข้าไปเป็นคะแนนให้คนที่มีความรู้ความสามารถแต่ไม่มีกำลังจัดตั้งเหมือนกลุ่มบ้านใหญ่ วิธีนี้ก็จะสามารถทลายการบล็อกโหวต และดัน สว. ประชาชนเข้าสู่สภาได้
“การเลือกตั้ง สว. ครั้งนี้มีเงื่อนไขเลือกจากกลุ่มอาชีพ 20 กลุ่ม เพื่อให้ได้ สว. ในอุดมคติที่เก่งจริงๆ จากสาขาอาชีพต่างๆ แต่ด้วยระบบการเลือกตั้ง สว. ที่ถูกออกแบบให้เลือกกันเอง แม้ดีเด่นในอาชีพ ไม่เคยทุจริต แต่ถ้าเดินไปสมัครคนเดียวไม่ได้เป็น สว. แน่นอน แต่จะได้คนจากสาขาอาชีพที่ไม่มีความรู้ความสามารถจริง ไม่เห็น สว. ที่มีอุดมการณ์ จะได้คนที่มีพรรคพวกมากเข้าไป ถ้าได้คนไม่มีอุดมการณ์ ไม่เข้าไปฟื้นฟูประชาธิปไตย เราก็ยังตกอยู่ในวังวนเดิม” ธนาธรกล่าว
ธนาธรกล่าวทิ้งท้ายว่า ผู้ที่สนใจลงสมัคร สว. ไม่จำเป็นต้องรอ กกต. ประกาศ ตอนนี้มีภาคประชาสังคมทำ Open Source ให้ทุกคนได้เข้าไปแสดงตัวว่าจะลงสมัคร คือเว็บไซต์ www.senate67.com ทุกคนทุกกลุ่มทุกอุดมการณ์สามารถไปแสดงตัวได้ เพื่อให้ประชาชนที่อยากเข้าร่วมการเลือก สว. ได้พิจารณาผู้สมัคร และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพในวันเลือก