เมื่อช่วงค่ำของวานนี้ (13 ธันวาคม) ที่ลานศาลากลางเก่า อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี พรรคประชาชนจัดปราศรัยใหญ่ ‘เปลี่ยนอุบลราชธานีให้พี่น้องอยู่ดีมีแฮง’ ช่วยหาเสียง สิทธิพล เลาหะวนิช ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลราชธานี ของพรรคประชาชน นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า, ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และ ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส. กทม. นำปราศรัย
สิทธิพลระบุว่า เหตุผลที่ลงสมัครในครั้งนี้มาจากการเหลืออดในสิ่งที่ อบจ. อุบลราชธานี ไม่เคยทำมาก่อน ทั้งที่มีงบประมาณถึงปีละ 1,700 ล้านบาท 4 ปีเกือบ 7,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาเห็นแต่การทำถนนเพียงอย่างเดียว และจากกระบวนการรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนชาวอุบลราชธานีได้กลายมาเป็นนโยบาย 5 ข้อที่ตนต้องการส่งมอบให้ชาวอุบลราชธานี คือ
- เศรษฐกิจปากท้อง สร้างงานสร้างเงินให้คนอุบลราชธานี รายได้เฉลี่ยของคนอุบลราชธานีอยู่ที่ 6,600 บาทต่อเดือน อยู่อันดับที่ 67 ของประเทศไทย อุบลราชธานีมีพื้นที่การเกษตรถึง 10 ล้านไร่ เป็นการทำนาถึง 5.8 ล้านไร่ เป็นคนส่วนใหญ่ของอุบลราชธานี นโยบายจึงมุ่งไปที่เกษตรกร ทั้งโครงการชลประทานระบบท่อพาน้ำไปหานาประชาชน รวมทั้ง 1 ตำบล 1 โดรนการเกษตร เพื่อลดต้นทุนการทำนาของเกษตรกร
นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดอุบลราชธานี ที่มีทั้งสนามบินและรถไฟแต่กลับไม่มีคนมาเที่ยว ด้วยการทำระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ 6 สาย เดินทางสะดวกทั่วถึงทั้งจังหวัด
- นโยบายสาธารณสุขเพื่อสุขภาพของคนอุบลราชธานี ไม่ว่าจะเป็น รพ.สต. ก้าวหน้า นำระบบการแพทย์ทางไกลมาใช้ ให้ประชาชนอยู่ที่ไหนก็ใกล้หมอ พบหมอผ่านระบบออนไลน์ได้ ลดการแออัดในโรงพยาบาลในจังหวัดที่มีหมอและพยาบาลน้อยและไม่เพียงพอ
- 1669 ครอบคลุมทั้งจังหวัด เนื่องจากปัจจุบันอุบลราชธานียังมีปัญหารถกู้ชีพไม่เพียงพอ เหลือรถกู้ชีพไม่ถึง 10 คันจาก 300 กว่าคันในอดีต อัตราการเสียชีวิตอยู่กับที่สูงถึง 162 คนต่อปีเพราะไปช่วยไม่ทัน ถ้าตนได้เป็นนายก อบจ. ภายใน 2 ปี จะทำให้รถกู้ชีพ 1669 ต้องครอบคลุมทั้งจังหวัด
- โครงสร้างพื้นฐานดี ที่ผ่านมา อบจ. อุบลราชธานี ใช้งบประมาณไปกับการซ่อมถนนหลายพันล้านบาท แต่ที่ผ่านมาก็มีแต่การซ่อมแล้วซ่อมอีก และซอยโครงการเป็นโครงการละ 499,900 บาท จนคนวิจารณ์ว่าเป็น ‘ถนนซอยจุ๊’ ถ้าได้เป็นนายก อบจ. จะสร้างการมีส่วนร่วมของทั้งองค์กรอิสระและภาคประชาสังคม มาเป็นกรรมการร่วมตรวจสอบในการทำถนน ให้ประชาชนทุกตำบลมีส่วนร่วมตรวจสอบกับการสร้างถนนของ อบจ.
นอกจากนี้จะติดตั้งกล้อง CCTV ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม เนื่องจากปัจจุบันยาเสพติดเข้าหาลูกหลานมากจนนำไปสู่อาชญากรรมประเภทอื่นๆ ตามมา อบจ. ไม่สามารถทำโดยตรงได้ แต่สามารถอุดหนุนให้สถานีตำรวจและ ตชด. ได้ทำงานร่วมกัน
- การเมืองโปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบงบประมาณ 1,700 ล้านบาทต่อปี และจะนำระบบร้องเรียน Traffy Fondue เข้ามาให้ประชาชนแจ้งและร้องเรียนปัญหาต่างๆ
▪️ ขอชาวอุบลกล้าฝัน ลงคะแนนเพื่อความเปลี่ยนแปลง
ด้านธนาธรปราศรัยว่า ในโค้งสุดท้ายเหลือเวลาอีกแค่ 9 วัน ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ อนาคตอุบลราชธานีจะเป็นอย่างไรอยู่ที่การตัดสินใจของท่าน ขออย่าให้ทุกคนหมดหวัง อย่าหมดกำลังใจ อุบลราชธานีดีกว่านี้ได้ เราสามารถช่วยกันนำการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย เราทำได้ เพื่อลูกหลานของเรา
ธนาธรระบุว่า นโยบายของสิทธิพลคือการเชื่อมสถานที่เหล่านี้เข้าด้วยกันด้วยรถเมล์ 6 สาย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในอุบลราชธานีต้องเพิ่มขึ้นอีกปีละ 1 ล้านคน และมีการใช้จ่ายต่อหัวในจังหวัดเพิ่มขึ้น 4,000 บาทต่อคน เอาเงินเข้าจังหวัดได้อีก 4,000 ล้านบาทภายใน 4 ปี
“นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความเจริญและความก้าวหน้า เราสามารถสร้างอุบลราชธานีที่ดีกว่านี้ได้ สร้างประเทศไทยที่ดีกว่านี้ได้”
ธนาธรกล่าวถึงน้ำประปาที่ยังคงมีปัญหาคุณภาพอยู่ทั้งจังหวัด ทั้งที่นี่คือศตวรรษที่ 21 แล้ว หรือ อบจ. อุบลราชธานี มีโรงเรียนในสังกัดกว่าสิบโรงเรียน หนึ่งในความฝันของสิทธิพลคือการทำให้โรงเรียนในสังกัด อบจ. เป็นโรงเรียนระดับประเทศให้ได้
“ทุกคนเลือกได้ว่าจะอยู่กับอนาคตแบบไหนและจะส่งอนาคตแบบไหนให้คนรุ่นต่อไป ขอให้ทุกคนกล้าฝัน กล้าทะเยอทะยาน กล้าคิดอย่างท้าทาย อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง ถ้ากลัวการเปลี่ยนแปลงทุกคนก็ต้องอยู่แบบเดิมต่อไป ถ้าอยากเห็นอนาคตและสังคมแบบใหม่แต่แรงไม่พอเราก็ไปไม่ถึง โค้งสุดท้ายแล้วเราขอให้ทุกคนช่วยออกแรง บอกคนในชุมชน บอกคนในตลาด บอกเพื่อนที่ทำงาน บอกลูกบอกหลาน บอกพ่อแม่พี่น้อง ให้ออกไปเลือกตั้งเพื่ออนาคตของเราเอง ตัดสินอนาคตของท่านเอง” ธนาธรกล่าว
ช่วงท้าย ธนาธรเปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ของพรรคประชาชน พร้อมขอคะแนนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568